Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 295

ตอนที่ 295

พักรบ ขอสงบศึก

นอกเมืองซู่หยวน เสียงตะโกนดังขึ้น

ทหารนับแสนคนของราชวงศ์จยาเซียน ภายใต้คำสั่ง ก็มุ่งไปยังเมืองซู่หยวนด้วยความเร็วสูง เหมือนกับกระแสน้ำที่ไหลลงพื้น

สงครามครั้งใหญ่ ก็ได้เริ่มขึ้นอย่างฉับพลัน!

บางที สำหรับทหารซีเฉียนที่สูญเสียผู้บังคับบัญชาในแต่ละขั้นไปแล้ว ศึกใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นฉุกละหุก เกินไป เหนือความคาดหมายเกินไป และไม่เป็นทางการเกินไปเช่นกัน

แต่ว่า สำหรับราชวงศ์สุ่ยหันแล้ว ก่อนที่จักรพรรดินีของพวกเขาจะมาชายแดน ทุกอย่างได้ถูกกำหนด ไว้หมดแล้ว

……………….

บนกำแพงของค่ายทหารรอบนอกสุดของเมืองซู่หยวน ทหารซีเฉียนที่ยืนเวรอยู่ ทันใดนั้นก็เห็นฝุ่น ควันตลบอยู่ไกลๆ เหมือนเขาจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนที่ลอยมาตามลม

เขาอดไม่ได้ที่จะเดินมาข้างหน้าเข้าใกล้กำแพงเมือง ยกมือขึ้นขยี้ตา ตั้งใจเพ่งมองที่ๆ ฝุ่นควันฟุ้งตลบ เสียงเกือกม้าและเสียงตะโกนดังสนั่นหวั่นไหว!

ความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกว่าพื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น” คนอื่นที่ยืนเวรอยู่ด้วยกันกับเขา ในที่สุดก็รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ ต่างพากันเข้ามา แล้วมอง ไปยังฝุ่นควันที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนที่กองกำลังทหารของราชวงศ์จยาเซียนปรากฎตัวอยู่ในฝุ่นควัน แววตาของพวกเขาปรากฎ ความตกใจกลัว

“ข้าศึกบุกกก!”

“ข้าศึกบุก!”

“กองกำลังหนุนของราชวงศ์จยาเซียนมาถึงแล้ววว!”

เหล่าทหารที่ยืนเวรมองไปยังกองกำลังทหารที่นับไม่ถ้วนเหล่านั้น แล้วก็ฝุ่นละอองนั้นที่กระจายเข้ามา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่สั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัด ในใจเกิดความหวาดกลัวและสิ้นหวังขึ้น

“เร็ววว! รีบไปรายงานท่านแม่ทัพ!”

บนกำแพงเมือง มีแค่พวกเขาไม่กี่คนที่ยืนเวรอยู่ จะต้านทานกองกำลังทหารมากมายที่มีกำลังมากได้ อย่างไร

เพียงแต่พอเขาพูดคำนี้ออกไป คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าแปลกๆ “ท่านแม่ทัพตายแล้ว พวกเราจะรายงาน อย่างไร”

ฮะ!

ทันใดนั้น ตัวพวกเขาก็แข็งทื่อ

ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพตายแล้ว กองทัพไม่มีผู้นำ ตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการสืบหามือสังหารที่ฆ่าท่าน แม่ทัพ พวกเขาควรรายงานใครหรือ

“ตีกลอง! ตีกลองแจ้งเตือน อย่างน้อยก็ต้องแจ้งคนที่อยู่ในค่ายว่ามีข้าศึกบุก” มีคนเสนอความคิดเห็น คนอื่นๆ ไม่มีความคิดเห็นอะไร ต่างพากันวิ่งไปที่กลองรบ

พวกเขาคนหนึ่งยืนอยู่บนแท่นตีกลอง แล้วเอาไม้กลองตีกลองรบ คนอื่นๆ ต่างยืนอยู่รอบๆ ซ้ายขวา ติดกับกำแพง มองไปยังกองกำลังทหารที่มากขึ้นเรื่อยๆ

ตุงงง!

ตุงตุงงง!

ในที่สุดเสียงกลองก็ดังขึ้น

แต่ทว่า เพิ่งจะดังได้สามครั้ง ก็มีแสงที่ลอยผ่านมาในอากาศด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าที่ท้ายทอยของ คนที่ตีกลองคนนั้น ลูกธนูทะลุออกมาจากระหว่างคิ้วปักอยู่ที่กลอง

คนที่ตีกลองตัวแข็งทื่อ แววตามืดสลัว ไม้กลองในมือตกลงกับพื้น แต่เขากลับทำได้เพียงยืนอยู่ ข้างหน้ากลอง เพราะถูกลูกธนูปักติดอยู่ที่กลอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน บรรยายแล้วยืดยาว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว ทำให้สกัดไว้ไม่ ทัน

คนอื่นๆ มองออกไปนอกกำแพงโดยสัญชาตญาณ ความตกใจและความหวาดกลัวในแววตาสะท้อน ร่างที่สูงและอรชรอ้อนแอ้นออกมา

นางยืนอยู่บนรถรบ ในมือดึงคันธนู สีหน้าเย็นชา เผยให้เห็นอำนาจของราชาออกมา

หนี! รีบหนี!

ความคิดที่จะหนี เกิดขึ้นในใจของพวกเขา ไม่ลังเลเลยสักนิด และก็ไม่ต้องปรึกษากัน พวกเขาต่างพา กันวิ่งลงมาที่ด้านล่างกำแพงเมือง

เจียงหลีเก็บคันธนูยาว ยกมือขึ้นชี้ไปยังกำแพงเมือง แล้วออกคำสั่งกับกองทัพว่า “ฝ่ากำแพงเมืองบุก เข้าไปในเมืองซู่หย่วน ฆ่าทหารซีเฉียนทุกคนที่เจอ”

“ฝ่าบาท แล้วทหารที่ยอมจำนนล่ะพะย่ะค่ะ” ผู้บังคับบัญชาทหารซีฝางขอคำสั่งจากเจียงหลี เจียงหลียิ้มอย่างเยือกเย็น พูดอย่างเย็นชาว่า “จัดการให้หมด”

ในสงคราม มีกฎที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรในการไม่ฆ่าทหารที่ยอมจำนน แต่ว่านางจะให้พวกเขามี โอกาสยอมจำนนไหมล่ะ

การสังหารตลอดทางที่ผ่านมา ประชาชนที่โชคร้ายที่ทั้งตายและบาดเจ็บด้วยนํ้ามือของทหารซีเฉียน ยังไม่นับชีวิตอีกนับไม่ถ้วน ต้องมีคนชดใช้

ในตอนที่ทหารซีเฉียนเหล่านี้ฆ่าประชาชนชาวสุ่ยหันคนแรก ก็ได้กำหนดจุดจบของพวกเขาในวันนี้แล้ว

คำตอบของเจียงหลี ทำให้ผู้บังคับบัญชาทหารซีฝางเหน็บหนาวในใจ เขามองจักรพรรดินีที่อยู่ใกล้มาก รอยยิ้มที่เยือกเย็นบนใบหน้าที่เย็นชาของนาง ทำให้เขารู้สึกกลัวนางเป็นครั้งแรกจริงๆ จากใจ

“ขอรับ ฝ่าบาท!” ชั่วพริบตาเดียว เขาก็ได้จัดการกับความรู้สึกในใจของตัวเองไปหมด เขาเข้าใจ ความหมายของเจียงหลี ในตอนที่มองไปยังเมืองซู่หย่วนอีกครั้ง แววตาเปลี่ยนเป็นแน่วแน่และดุดันขึ้นมา

…………….

“กองทัพจยาเซียนบุก…บุกมาถึงแล้ว”

ทหารซีเฉียนที่หนีเอาชีวิตรอด ในที่สุดก็กลับมาถึงในค่าย บอกข่าวกับคนที่ยังไม่รู้เรื่องทุกคน

วุ่นวาย วุ่นวายไปหมด!

นี่เป็นการรบที่ดุเดือดครั้งแรกระหว่างกองทัพแห่งราชวงศ์จยาเซียนและกองทัพซีเฉียน ทหารทั้งหมด ของทั้งสองฝ่ายมีประมาณห้าหกแสนคน การต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังจะเริ่มขึ้น

แต่ทว่า ตอนนี้กลับกลายเป็นมีฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ

ความวุ่นวายของทหารซีเฉียน ขวัญกำลังใจของกองทัพจยาเซียนดีมาก ทำให้ศึกใหญ่ครั้งนี้สบายมาก และไร้ซึ่งความกังวล

หลีเอ๋อร์ ในสงคราม ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การวางแผนก่อนแล้วค่อยเคลื่อนไหว จะ สามารถพลิกผันสถานการณ์ การเคลื่อนไหวครั้งเดียวก็จะเป็นตัวกำหนดแพ้ชนะได้!

คำพูดของลู่เจี้ย ปรากฎขึ้นในหัวของเจียงหลีในตอนที่กองทัพจยาเซียนกำลังจะฝ่ากำแพงแล้วบุกเข้า ไปในเมือง

นางไม่ได้เข้าร่วมการรบ นางเป็นจักรพรรดินี สามารถทำให้ทหารมากมายตกใจกลัวได้ แต่ไม่ควรบุก เข้าไปตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู รถรบที่นางนั่ง จอดอยู่ด้านหลังของกองทัพ นางยืนอยู่บนรถรบ ยืนตัว ตรงเอามือไขว่หลัง มองเมืองที่ไฟสงครามลุกขึ้นอีกครั้ง ได้ยินเสียงการเข่นฆ่าโรมรัน แต่ในใจกลับ สงบมากยิ่งขึ้น

การฟื้นคืนชีพต่างๆ เหมือนว่านางจะหลอมรวมเข้ากับโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น การจากไปของลู่เจี้ย ทำให้ นางไม่มีที่พึ่ง ทำได้แค่ต้องออกมาแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งของโลกใบนี้ด้วยความเต็มใจยอม

เขาพูดว่าหนานฮวง เป็นของขวัญที่เขาให้นางไม่ทัน

เช่นนั้น นางก็ต้องไปเอาของขวัญชิ้นนี้กลับมาด้วยตัวเอง!

ดวงตาที่สงบและแวววาวของเจียงหลี เหมือนว่ามีบางอย่างกำลังพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างช้าๆ

ฆ่ามันนน!

ฆ่ามันนน!

กองทัพจยาเซียน ทหารสุ่ยหันที่เปลี่ยนไป สังหารทหารซีเฉียนที่กำลังวุ่นวายจนแพ้ย่อยยับ การขาด ผู้บังคับบัญชาในแต่ละขั้น คำสั่งของแม่ทัพใหญ่ส่งไปไม่ได้

แม้ว่าจะมีกฎว่าถ้าผู้บังคับบัญชาตาย ให้รองผู้บังคับบัญชาขึ้นมาสั่งการ แต่ว่าก็ถูกกองทัพจยาเซียน เข้าจู่โจมทันที

………………

นอกเมืองซู่หย่วน มีคนๆ หนึ่งขี่ม้าหนีไปอย่างรีบร้อน

“โฮกกกก!”

ทันใดนั้น ในอากาศก็มีเสียงคำรามของสัตว์ร้ายขึ้นมา วิญญาณยุทธ์ที่ใหญ่มหึมาปรากฎตัวอยู่บนหัว ของเขา กรงเล็บที่แหลมคมนั้นยื่นออกมา จับเขาขึ้นมาจากม้า ลอยอยู่กลางอากาศ

“อ้ากกก!”

ท่ามกลางการดิ้นรนต่อสู้ ผ้าคลุมบนตัวของเขาร่วงลงมา เผยให้เห็นใบหน้า เขาอยากจะปลดปล่อย วิญญาณยุทธ์ของตัวเอง แต่กลับรู้สึกว่าพลังวิญญาณของตัวเองเหมือนถูกควบคุมไว้ไม่สามารถ ปลดปล่อยออกมาได้

“ส่งคนไปบอกฮ่องเต้แห่งซีเฉียน ถ้าหากไม่ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในหลายๆ เมืองของข้า ข้าก็ จะสังหารแม่ทัพของเขาที่ส่งมาจัดการสุ่ยหัน สังหารไปถึงเมืองอู๋อิ๋นของเขา!”

นํ้าเสียงของเจียงหลี เหมือนกับเสียงฟ้าผ่ากลางอากาศ ดังไปทั่วบริเวณรอบๆ

“จักรพรรดินีได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด!” แม่ทัพใหญ่แห่งซีเฉียนขอร้องอย่างสิ้นหวัง เขาผิดไปแล้ว! ผิดไปแล้ว! เขาไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก

น่าเลียดาย การร้องขอของเขา เจียงหลีไม่ได้ตอบอะไร

……………..

ข่าวคราวไปถึงซีเฉียน

เจียงหลีนำกองกำลังทหาร ประจำการอยู่ที่เมืองซู่หย่วน รอการตอบกลับของฮ่องเต้แห่งซีเฉียน เพียงแต่ว่า ในตอนที่ทหารซีเฉียนปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง กลับนำจดหมายเจรจาเพื่อสันติมาให้นาง

“ขอสงบศึกอย่างนั้นหรือ” ในตอนที่เจียงหลีเห็นจดหมายเจรจาเพื่อสันติ กลับยิ้มออกมาอย่างหยอก

เย้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version