Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 343

ตอนที่ 343 กองทัพอินซุ่ย

“ระวัง”

เมื่อลู่เสวียนปล่อยแขนของเหวินเหรนชิ่งชิ่ง เขาพูดเตือนสติขึ้นมาประโยคหนึ่ง

เหวินเหรินชิ่งชิ่งหันไปมองเขา แล้วพูดด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก “ขอบใจ”

ลู่เสวียนมองนาง และไม่ได้พูดอะไร ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นมา เขาและเจียงหลีจึงมองไปที่ด้านล่าง ของสะพานที่ขาดพร้อมๆ กัน พอมองลงไป หน้าของเขาก็ซีดและเกร็งไปทั้งตัว

ภาพด้านล่างนี้

ไม่น่าแปลกใจที่เหวินเหรินชิ่งชิ่งจะกลัวจนเสียการควบคุมและถอยหลังไป ในขณะที่ภาพนั้นสะท้อนเข้าตา แม้แต่เขาที่เป็นผู้ชายก็ยังรู้สึกกลัวจนขนลุก

“ซะ…ซากศพ”

“เยอะมาก” เจียงหลีพูดต่อประโยคของเขาให้จบ

ลู่เสวียนเม้มปากแน่นแล้วพยักหน้า กล้ามเนื้อทั้งตัวค่อยๆ เกร็งขึ้น พลังวิญญาณวิ่งพล่านในร่างกาย

ความสูงห่างจากสะพานที่ขาดเกือบสิบจั้ง และด้านล่างเต็มไปด้วยซากศพมากมายที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ

ซากศพเหล่านี้มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่และเด็ก สวมเสื้อผ้าที่แตกต่างกันและนอนอยู่บนพื้นด้วย ท่าทางต่างๆ สีหน้าที่ปรากฏออกมาดุร้ายและน่ากลัวเป็นอย่างมาก สีผิวที่ซีดขาวกลายเป็นเขียวคลํ้า แขนขาแข็งและไม่เน่าเปื่อย

“เนื่องจากเป็นสุสานโบราณก็แสดงว่าอยู่มาหลายปีแล้ว ทำไมคนที่ตายแล้วเหล่านี้ถึงได้เหมือนกับ เพิ่งตายได้ไม่นานล่ะ” เจียงหลีแววตาดำดิ่ง เสียงพูดพึมพำก็บ่งบอกว่านางกำลังครุ่นคิดอยู่

“หรือที่นี่สามารถทำให้ศพไม่เน่าเปื่อยได้” ลู่เสวียนพูดเสียงเบา

“ไม่ใช่ว่าพวกเราควรจะคิดดูว่าที่นี่คือที่ไหนในสุสานโบราณ แล้วทำไมถึงมีคนมาตายที่นี่เยอะขนาดนี้ พวกเขาตายอย่างไร แล้วตายในเวลาเดียวกันหรือตายในช่วงเวลาที่ต่างกัน และพวกเราจะออกจากที่นี่ แล้วเข้าไปในห้องสุสานได้อย่างไร” เหวินเหรินชิ่งชิ่งสงบลงและเดินไปหาพวกเขาทั้งสองคน

เจียงหลีเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังฝั่งตรงข้ามของสะพานที่ขาด ตรงนั้นมีปากถํ้าที่มืดสนิท ไม่รู้ว่าจะนำ ทางไปสู่ที่ใด แต่ว่านั้นดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวที่จะออกจากที่นี่

“เดิมทีน่าจะมีสะพานเชื่อมมาถึงตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าทลายลงไปได้อย่างไร เป็นเรื่องยากที่พวกเราจะเหาะ ข้ามไปในระยะห่างที่ไกลเช่นนี้” ลู่เสวียนมองไปรอบๆ แต่ไม่พบหนทางอื่น

เหวินเหรินชิ่งชิ่งขมวดคิ้ว เม้มปากแน่นและไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนว่ากำลังคิดหาวิธีอยู่

“หมดหนทางแล้ว สะพานที่มีเพียงหนึ่งเดียวได้ถูกทลายลงไปแล้ว เช่นนั้นเราก็ต้องใช้หนทางเดียวที่มีอยู่” หลังจากที่เจียงหลีพูดจบ นางก็ก้มศีรษะลงและมองไปที่ซากศพด้านล่าง

ความสูงแบบนี้ทั้งสามคนกระโดดลงไปคงไม่มีทางบาดเจ็บ

“เจ้าหมายถึงจะให้เหยียบซากศพพวกนี้แล้วเดินข้ามไปอย่างนั้นหรือ” เหวินเหรินชิ่งชิ่งรู้ทันความคิด ของเจียงหลี

เจียงหลีหันไปมองนางแล้วถามขึ้นว่า “เจ้ามีวิธีอื่นอีกไหมล่ะ”

“…” เหวินเหรินชิ่งชิ่งเงียบไป ถ้าหากว่านางมีวิธีอื่น นางจะลำบากอยู่ที่นี่ไปทำไม

เดินเหยียบซากศพข้ามไป ฟังดูแล้วก็น่ากลัว แต่ว่าเป็นเพียงทางเลือกเดียว ก็แค่คนที่ตายไปแล้ว จะไป กลัวอะไร เหวินเหรินชิ่งชิ่งหายใจเข้าลึกๆ และให้กำลังใจตัวเอง

แต่ใบหน้าที่ซีดขึ้นเรื่อยๆ ของนาง ยังคงเผยให้เห็นความหวาดกลัวในใจของนางในตอนนี้

“ถ้าหากเจ้ากลัวก็อยู่ที่นี่ หรือไม่ก็ออกจากการฝึกไปซะ” ลู่เสวียนยิ้มออกมา เมื่อเห็นความกลัวในแวว ตาของนาง

ผู้หญิงคนนี้เก่งมากไม่ใชรึ? ไม่ใช่เอาแต่พูดว่าเขาไม่มีประโยชน์หรอกหรือ เหอะๆ ครั้งนี้โดนเขาจับได้แล้ว!

“เชอะ!” หลังจากที่เหวินเหรินชิ่งชิ่งโดนเขาถากถาง ก็ได้ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา แล้วก็หัน หน้าหนี ความรู้สึกดีๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาในใจหายไปในชั่วพริบตา

“ไปกันเถอะ ถ้ายังไม่ลงมือ โอกาสนี้คงจะโดนตระกูลไป๋เซี่ยงคว้าไปจริงๆ เสียแล้ว” เจียงหลีพูดเตือน

“แผนที่ๆ พวกเขาให้เรามามีปัญหาอะไรหรือไม่ ที่นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นหลุมฝังศพ รูปแบบโดยทั่วไป ของสุสาน ที่นี่น่าจะเป็นด้านนอกสุด ไม่น่ามีอะไรที่ใช้ประโยชน์ได้เลย” ลู่เสวียนหยิบแผนขึ้นมาดูอีกครั้ง

ใครจะรู้ ทันทีที่เขาพูดจบ เหวินเหรินชิ่งชิ่งดูเหมือนจะคิดอะไรออก สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “ตระกูลไป๋ เซี่ยงช่างขี้โกงยิ่งนัก”

คำพูดเพียงหนึ่งประโยค ทำห็ลู่เสวียนและเจียงหลีมองนางในเวลาเดียวกัน

เห็นเพียงนางยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าว่านะ ถึงแม้จะมีคำสั่งของฝ่าบาท แต่ครั้งนี้ทำไมพวกเขาถึงตอบรับ อย่างง่ายดาย ที่แท้ก็หลอกให้ข้าอยู่ที่นี่! มิน่าล่ะตอนที่กำลังเตรียมตัวก่อนหน้านี้ข้าบังเอิญเห็นแผนที่ในมือ ของคนตระกูลไป๋เซี่ยงคนหนึ่ง ซึ่งแผนผังของแผนที่ต่างจากของข้า ตอนนั้นข้าไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่คิดว่าเป็นทางเข้าที่ต่างกัน ไม่ได้คิดเอะใจอะไร”

นางส่งเสียงแสดงความไม่พอใจอย่างประชดประชัน คำพูดหลังจากนี้ทั้งลู่เสวียนและเจียงหลีก็ สามารถเดาออก

ดูเหมือนว่าที่ลู่เสวียนสงสัยจะใช่ แผนที่ต่างกัน การนำทางไปยังตำแหน่งของสุสานโบราณก็ต่างกัน อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ตระกูลไป๋เซี่ยงก็ได้ส่งผู้มีฝีมือไปสำรวจมาแล้วรอบหนึ่ง ต้องรู้เกี่ยวกับสุสาน โบราณมากกว่าพวกเขาอย่างแน่นอน

มอบทางเข้าของที่นี่ให้กับเหวินเหรินชิ่งชิ่ง ทั้งไม่ขัดต่อพระประสงค์และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคน ตระกูลไป๋เซี่ยง ที่แท้ก็เป็นลูกไม้เด็ด! เป็นกลลวง!

“ดูเหมือนว่าเส้นทางที่เราผ่านมาไม่เจอกับคนของตระกูลไป๋เซี่ยงเลย ไม่เพียงแต่เพราะว่าพวกเขา อาจจะรู้วิธีข้ามผ่านอุปสรรค แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือคงมีเพียงพวกเราที่ได้แผนที่นี้” เจียงหลีพูดสรุป ออกมา

“พวกเราเลิกคิดเรื่องนี้กันได้แล้ว มาคิดแผนของพวกเราดีกว่า ไว้พวกเราออกไปได้ค่อยไปคิดบัญชีกับ ตระกูลไป๋เซี่ยง” ลู่เสวียนพูดพร้อมกับขยำแผนที่จนเป็นก้อน และยัดมันเข้าไปที่อกของตัวเอง

เจียงหลีหัวเราะออกมา “ข้าเกรงว่าการเอาคืนในครั้งนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด พวกเขาทำตามกฎและ วางแผนที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบ”

เมื่อพูดจบ นางได้ก้าวเท้าออกไปและเหยียบไปบนที่ว่างเปล่านอกสะพานที่ขาด ทันใดนั้นร่างของนาง ก็ร่วงลงไปบนพื้น

หลังจากนั้นลู่เสวียนก็ได้รีบกระโดดตามลงไป เหวินเหรินชิ่งชิ่งมองลงไปยังบรรดาซากศพเหล่านั้น ก็กัด ฟันแล้วก็กระโดดออกจากสะพานที่ขาด

ทั้งสามคนได้ลงไปเหยียบบนซากศพ ซึ่งไม่มีความรู้สึกอ่อนยวบลงไปเลย ราวกับว่ากำลังเหยียบอยู่บน หินแข็งๆ อย่างไรอย่างนั้น

“ไปกันเถอะ” หลังจากที่เจียงหลีพูดจบ นางก็ได้เดินนำ

ในกลุ่มสามคนของพวกเขา จู่ๆ นางก็ได้มาเป็นคนนำกลุ่ม ลู่เสวียนและเหวินเหรินชิ่งชิ่งก็เดินตามอยู่ ทางซ้ายทางขวา

ถํ้าแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ระยะห่างระหว่างสะพานที่หักทั้งสองด้านนั้นห่างออกไปเกือบร้อยจั้ง มันไกลมาก ดังนั้นถึงไม่สามารถเหาะผ่านไปในอากาศได้

การเดินบนศพ นอกจากลมที่โหมกระหน่ำแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดี พวกเขาทั้งสามเริ่มชินกับความรู้สึกนี้แล้ว จิตใจก็สงบลงมากขึ้น

ทันใดนั้นเจียงหลีก็หยุดลง ทั้งสองคนที่ตามหลังอยู่ก็หยุดไปตามๆ กัน แล้วมองไปรอบๆ อย่าง ระมัดระวัง

“เกิดอะไรขึ้น” ลู่เสวียนถาม

เจียงหลีขมวดคิ้ว “มีบางอย่างผิดปกติ”

ราวกับจะพิสูจน์ว่าคำพูดของนางเป็นจริงหรือไม่ เมื่อสิ้นเสียงของนาง ศพที่พวกเขาเหยียบอยู่ใต้เท้าก็ เริ่มขยับ

“อะไรกันเนี่ย! ผีหลอก! ตายไปตั้งนานแล้ว ยังจะมาหลอกอีกหรือไร” สิ่งที่ขยับอยู่ใต้เท้า ทำให้ลู่เสวียนตกใจ

เหวินเหรินชิ่งชิ่งก็ตกใจจนหน้าซีด และขาอ่อนทั้งสองข้าง ริมผีปากที่สั่นเทาของนางไม่สามารถแม้แต่ จะกรีดร้องได้แล้ว

เจียงหลีจับเสื้อของนาง แล้วพานางกระโดดถอยหลังไปอยู่ข้างๆ ลู่เสวียน

“แฮร่! แฮร่!”

แฮร่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงคำรามที่น่ากลัวดังขึ้นรอบๆ พวกเขาทั้งสามคนแทนเสียงลม ภาพเหตุการณ์ที่น่ากลัวปรากฏขึ้นใน ดวงตาของพวกเขา ศพเหล่านั้นค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่แข็งทื่อและแปลกประหลาด

แววตาที่เบิกกว้างของเหวินเหรินชิ่งชิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมผีปากที่ซีดเซียวสั่นเทา แล้วพูด ออกมาสองคำว่า “อินซุ่ย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version