ตอนที่ 38
รู้สึกแปลกใจหรือไม่
แปลกใจยิ่งนัก!
ความประหลาดใจเกิดขึ้นในดวงตาของเจียงหลี ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับท่าทีที่เจ็บปวดของลู่เจี้ย นางไม่รู้ว่าเขากำลังเผชิญกับอะไร ทำได้เพียงคาดเดา ความเจ็บปวดที่เขาต้องทนอยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถอธิบายได้ ไม่เช่นนั้นคนที่ซ่อนงำความรู้สึกเก่งอย่างเขาจะแสดงอารมณ์เช่นนี้ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาเจ็บปวดมากเท่าไหร่ พลังที่แปลกประหลาดก็รั่วไหลมากขึ้น และถูกเจียงหลีดูดซับเข้าไปโดยตรง ร่างกายของนางฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อก็คลายตัวลงเช่นกัน เหมือนว่าถ้าดูดซับมากขึ้นอีกหน่อย มันก็จะเปิดออกให้ใช้การได้!
มากกว่านี้! มากกว่านี้อีก! เจียงหลีแอบสวดภาวนาด้วยความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่
ในเวลานั้น นางคาดหวังให้ลู่เจี้ยทนทุกข์ทรมานนานอีกหน่อย ด้วยวิธีนี้เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อของนางจึงจะสามารถใช้การได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อนางจะสามารถเข้าไปฝึกฝนได้
แต่นางก็สงสัยเช่นกันว่า ความลับอะไรที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของผู้ชายคนนี้
อ้าก! ลู่เจี้ยตะโกนขึ้นฉับพลัน
พลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาปะทะเข้ากับเจียงหลี เบื้องหน้านางมืดสนิทและเป็นลมฟุ ลงบนหน้าอกของลู่เจี้ยทันที
พลังนั้นกลับไม่สลายหายไปเหมือนครั่งก่อนๆ ที่ลู่เจี้ยอาการกำเริบ แต่โอบล้อมทั้งสองคนและถูกเจียงหลีดูดซับไปอย่างหมดจด
บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ในห้องมืด ชายรูปงามและหญิงสาวสกปรก คนหนึ่งนอนคว่ำและอีกคนนอนหงาย
ที่นี่ที่ไหน
เมื่อเจียงหลีได้สติ ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือดูสถานการณ์ของตัวเอง
รอบสี่ทิศ เป็นความว่างเปล่าและความโกลาหล ไม่อยู่ในห้องมืดอันงดงามนั้นอีกต่อไป นางมองไปที่ร่างกายของตน มันกลายเป็นเพียงการรับรู้ที่ว่างเปล่า
ข้าอยู่ในจิตสำนึกของตัวเองหรือ เจียงหลีรู้สึกประหลาดใจ
หลังจากรู้ว่าตนอยู่ที่ไหน นางก็สงบลง ทันใดนั้น ตรงหน้านาง แสงสีทองที่สว่างวาบ และมีคำสี่คำปรากฎต่อหน้าต่อตานาง
‘เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ’
“เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อนี่!” เจียงหลีรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ก่อนที่จะตกอยู่ในอาการหมดสติ นางรู้สึกว่าเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อจะคลี่ออกแล้วบ้าง แต่ไม่ติดว่ามันจะเปิดออกมาได้จริงๆ
เจียงหลีเดินไปที่อักขระสีทองทั้งสี่ตัวและเมื่อเข้าไปใกล้ๆ ตัวอักษรก็เปลี่ยนไปกลายเป็นประตูสีทอง ประตูที่ปิดอยู่ค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นช่องทางให้เจียงหลีเข้าไป
“ในที่สุดสนามฝึกพิเศษแห่งนี้ก็ได้เปิดขึ้นแล้ว” ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย นางเดินเข้าไปอย่างตื่นเต้น ทันทีที่นางเข้าไปประตูจะปิดโดยอัตโนมัติ
และนางก็อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ว่างเปล่านั้น
สนามที่มีขนาดใหญ่มาก ไม่อาจมองเห็นขอบเขต ส่วนบนว่างเปล่า
ทันใดนั้น อักขระสีทองแถวหนึ่งปรากฎขึ้นบนท์องฟ้าสีเทา ผู้ที่เข้าสู่เลี่ยวหมีเจี้ยจื่อ ต้องยอมรับการท้าทาย ผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับรางวัลตามแต่โอกาส เมื่อไปถึงระดับหลงเจี้ยง สามารถเลือกทำภารกิจให้สำเร็จ เพื่อแลกกับรางวัล…
นอกจากนี้ ผู้ที่ควบคุมเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ จะต้องเป็นเนี่ยนซื่อ และฐานการฝึกฝนต้องบำเพ็ญจนบรรลุเป็นเนี่ยนไซว่จึงจะสามารถเลื่อนระดับได้
“เนี่ยนซืออย่างนั้นหรือ” เจียงหลีขมวดคิ้ว
เนี่ยนซือคืออะไรกัน แตกต่างกับหลิงซืออย่างไร
“ต้องเป็นเนี่ยนซือก่อน จึงจะสามารถควบคุมเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อได้และต้องไปถึงระดับเนี่ยนไซว่ถึงจะสามารถยกระดับเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อได้ เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อก็มีการเลื่อนระดับขั้นกันด้วยหรือนี้” ดวงตาของเจียงหลีสว่างขึ้น และข้อมูลนี้ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจอย่างที่ไม่คาดคิด
“เนี่ยนซืออะไรนี้ ค่อยว่ากันทีหลังแล้วกัน ตอนนี้เมื่อเข้ามาแล้ว จะลองดูสิว่าเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อมีพลังวิเศษแค่ไหนเชียว” เจียงหลีพึมพำ
นางหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปรับสภาพร่างกาย และตะโกนเข้าไปในพื้นที่ว่างนั้นว่า “ขอรับคำท้า”
ทันทีที่เสียงของนางเงียบลง ก็รู้สึกได้ถึงพลังที่มองไม่เห็น ได้พัดผ่านร่างกายของนางไป พลังนั้นมาจากด้านหลัง ทะลุร่างออกจากร่าง และหยุดอยู่ตรงหน้า
ทันใดนั้นเจียงหลีก็เบิกตากว้าง เมื่อมองไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสิบหลา ตรงหน้านางมีเงาร่างมบุษย์ที่ย่อออกมา
รอให้เงาของคนนั้นปรากฎชัดเจนแล้ว เจียงหลีก็จ้องมองไปสถานที่นั้นด้วยอาการตะลึง
ผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น เหมือนนางจริงๆ
ยังไม่ทันที่นางจะหายตกใจ ตัวเองที่อยู่ตรงหน้าก็พุ่งเข้าหานาง
เจียงหลีหรี่ตาลงทันที และนางก็เข้าสู่สภาวะต่อสู้ทันที
ตูม!
ในสายลม เจียงหลีทั้งสองได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ที่แท้ความท้าทายแรกสำหรับเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อคือการต่อสู้กับตัวเอง! เจียงหลีตื่นรู้อยู่ภายในใจของตน
ระหว่างหมัดและเท้า เจียงหลีต่อสู้กับการเคลื่อนไหวที่คุ้นเคยของตน และความแปลกประหลาดก็ผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจของนาง
สิ่งที่ข้าทำได้ นางก็ทำได้อย่างนั้นหรือ เจียงหลีเริ่มอยากรู้อยากเห็น
หลังจากการต่อสู้ผ่านไปหลายร้อยรอบ เจียงหลีก็ถอยห่างออกไป เพื่อห่างจากอีกฝ่าย ดวงตาที่สดใส เหล่านั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น
ตัวเองต่อสู้กับตัวเอง กับอีกคนที่เหมือนกันอย่างกับแกะ
ในการแข่งขันครั้งก่อน เจียงหลีพบข้อบกพร่องของตัวเองในทักษะการต่อสู้และตัวตนอีกคนนั้น ราวกับว่าจะช่วยให้นางยืนยันสิ่งที่เรียนรู้ ให้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองชัดเจนขึ้นเพื่อที่นางจะได้ปรับเปลี่ยนในการฝึกในภายหลัง เพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ประหยัดการบริโภควัตถุสิ้นเปลือง
“ถ้าอย่างนั้น วิญญาณการต่อสู้เจ้าก็มีด้วยหรือ” ดวงตาของเจียงหลีกระพริบ พลังวิญญาณถูกปลดปล่อยออกมา ร่างของเลี่ยเทียนซื่อก็ปรากฎขึ้นข้างหลังนาง
ในขณะนั้น นางก็คือเลี่ยเทียนซื่อและเลี่ยเทียนซื่อคือตัวนางเอง
อย่างไรก็ตาม นางเพิ่งปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ที่นี่ และเจียงหลีอีกคนอื่นก็ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์เลี่ยเทียนซื่อเข่นกัน
เจียงหลีเบิกตากว้างและยิ้มที่มุมปาก
ตัว ‘ปลอม’ นี้ลอกเลียนความสามารถของนางออกมาได้ทั้งหมด
“มาเลย” เจียงหลีเริ่มที่จะเป็นฝ่ายเข้าโจมตีในครั้งนี้
โฮกก!
โฮกกกกก!
การต่อสู้หลังจากปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมาแล้ว ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น
การปะทะกันของวิญญาณยุทธ์ ทำให้มีเสียงดังก้องในพื้นที่ว่างเปล่า นี่คือรูปแบบการต่อสู้แบบตัวต่อตัว วิญญาณยุทธ์เลี่ยเทียนซื่อสองตัวกำลังตะปบฉีกกันไปมา บนพื้นที่ว่างเปล่าในนภา ร่างทั้งสองที่เหมือนกันนี้ จู่โจมหากันและแยกจากกันอย่างต่อเนื่อง
“ฉีกเวหา!”
“ฉีกเวหา!”
สองเสียงตะโกนออกมาพร้อมกันโดยบังเอิญ
ทันใดนั้น ลมปราณที่น่ากลัวของวิญญาณยุทธ์ทั้งสองตัวก็ปรากฎขึ้นในอากาศ พลังแห่งการทำลายล้างก่อตัวเป็นวังวนซ้อนทับกัน และพัวพันกันไม่มีใครยอมใคร
เจียงหลียืนอยู่ในอำนาจนี้ ข้อศอกกระทุ้งกับเจียงหลีอีกคน วิญญาณยุทธ์ของพวกนางสูบฉีดพลังวิญญาณของพวกนางไปด้วยความเร็วเท่ากัน และพลังวิญญาณที่มองไม่เห็นก็ถูกห่อหุ้มรอบตัวพวกนางไว้ เป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันในรอบสุดท้าย
หลังจากการหลอมรวมของเลี่ยเทียนซื่อ พลังวิญญาณของเจียงหลีมีกลิ่นอายของการทำลายล้างและความโกรธ เมื่อเผชิญหน้ากับตัวเอง นางรับรู้ถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่สุด
พลังแบบนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ตัวอย่างเช่น การปะทุที่รุนแรง แต่ก็ไม่ยั่งยืน เลี่ยเทียนซื่อในฐานะที่เป็นวิญญาณยุทธ์นักสู้ในการต่อสู้นี้ ได้ใช้พลังวิญญาณจำนวนมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะการดูดซึมของนางสูงกว่าคนทั่วไป กลัวว่านางจะถูกดูดจนแห้งไปนานแล้ว
ตูมตาม!
เสียงดังสนั่นสองครั้ง ดังขึ้นในสนามฝึกซ้อมที่ว่างเปล่า
ร่างทั้งสองของเลี่ยเทียนซื่อแตกสลายหายไปในเวลาเดียวกัน และพลังวิญญาณที่บ้าคลั่งก็สลายไปโดยมองไม่เห็นร่องรอยใดใด เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเจียงหลี และนางก็ถอยหลังไปสองก้าว
แต่อีกคนของนาง ทั่วร่างกายได้ระเบิดและหายไป
ชนะแล้ว! ความประหลาดใจได้พุ่งเข้าสู่ดวงตาของเจียงหลี การเอาชนะตัวเอง ไม่ใช่การมีความสุขที่สุด แต่สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือนางได้รับรางวัลจากเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ
‘ยินดีด้วย ได้รับรางวัลแรก’
ในท้องฟ้าสีเทา ตัวอักษรสีทองก็ปรากฎขึ้น
เจียงหลีตั้งหน้าตั้งตารอ และพูดในใจว่าเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อวิเศษขนาดนี้ รางวัลที่ให้ไม่ควรตระหนี่ถึงจะถูกต้อง
‘รางวัล คือ ประลองอีกครั้ง’
อะไรนะ!
เลือดตีตื้นขึ้นมาในลำคอของเจียงหลีในทันที ดวงตาของนางเบิกกว้าง ยังไม่ทันที่นางจะตอบสนอง เจียงหลีที่หายตัวไปก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง และพุ่งเข้าหานางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…