บทที่ 1011 นางจากไปว่องไวโดยแท้!
ทว่านางปฏิบัติต่อเขาอย่างรุ่มร่ามในช่วงหลังของงานเลี้ยง…
หรือว่านางเดาตัวตนที่แท้จริงของเขาออกแล้ว?!
ดังนั้น…ดังนั้นถึงได้ปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้สินะ?
ท้ายที่สุดแล้วตี้ฝูอีก็เป็นคนเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องผู้หนึ่ง คาดเดาเรื่องราวอยู่ในสมองอย่างว่องไวปานสายฟ้าแลบ คาดเดาคำตอบออกแปดเก้า ส่วนแล้ว เขาจ้องนางเขม็ง ทันใดนั้นพลันเอ่ยออกมาเบาๆ ว่า “เจ้ามองออกแล้วหรือ?”
กู้ซีจิ่วหลุบตาลงสบตากับเขา จงใจทำเป็นไขสือ “มองอะไรออกหรือ?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ “เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?”
กู้ซีจิ่วมองใบหน้าน้อยๆ ที่วางท่าเคร่งขรึมของเขา ฮือๆๆ ทำยังไงดี เธออยากจูบเขาอีกแล้ว…
เพียงแต่ฟังเขาพูดมาเช่นนี้ ดูเหมือนคิดจะเผยไต๋กับเธอแล้วสินะ?
เขาทำให้เธอเป็นกังวลมานานขนาดนี้ แถมยังเล่นละครหลอกเธอมาตั้งนาน เขาคิดจะเปิดเผยก็เผยออกมาเลยงั้นหรือ?
ไม่มีทางเสียหรอก!
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตัวเองที่ใจกว้างมาโดยตลอดเริ่มใจแคบเสียแล้ว เธอจะคิดบัญชีเอาความกับเขาในคราวเดียว!
เธอกะพริบตาปริบๆ แสร้งไขสือเช่นเดิม “เจ้าพูดอะไรกัน ไม่รู้เรื่องเลย”
ดวงตาของตี้ฝูอีมองดูเธอ เปิดเผยกับเธออย่างตรงไปตรงมา “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าดูออกใช่ไหมว่าข้าคือตี้ฝูอี?!”
ประโยคนี้เขาเข้าไปเอ่ยใกล้ๆ หูเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนแทบจะเป่าเข้าไป ความรู้สึกเช่นนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เป็นกริยาที่ตี้ฝูอีมักกระทำ
ยามอยู่กับเธอ กู้ซีจิ่วใจสั่นนิดๆ ใบหูชาทันที รู้สึกเพียงว่าใบหน้าด้านนั้นร้อนผ่าวนิดๆ…
เดิมทีเธอกดเขาไว้ใต้ร่างมาโดยตลอด ยามนี้ในที่สุดก็ยืดกายขึ้นมากึ่งหนึ่ง แล้วหลุบตามองเขา ยามอ้าปากหมายจะเอ่ยบางอย่าง นิ้วข้างหนึ่งของตี้ฝูอีพลันกดลงบนริมฝีปากแล้ว เขาส่งกระแสเสียงหาเธอ ‘ระวังหน่อย หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง!’
กู้ซีจิ่วก็ทราบว่าเรื่องนี้มิใช่เรื่องเล็กๆ ไม่อาจให้บุคคลที่สามทราบได้เด็ดขาด ดังนั้นเธอจึงเริ่มส่งกระแสเสียงเช่นกัน ‘ตี้ฝูอี ท่านคิดจะเล่นละครฉากใหญ่อันใดกัน?’
นํ้าเสียงแฝงความคับข้องใจและการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไว้
ตี้ฝูอีมองท่าทางของทั้งสองคนในยามนี้ ยิ้มบางๆ แวบหนึ่ง “ซีจิ่ว เจ้าจะพูดคุยปัญหาข้อนี้กับข้าในท่านี้จริงๆ หรือ?”
ถ้านางยังไม่ลุกไปอีก เกรงว่าจะต้องพบความเปลี่ยนแปลงบนร่างเขาเป็นแน่…
นางต้องด่าว่าเป็นเด็กแก่แดดแน่นอน!
ในเมื่อทั้งสองฝ่ายพุดคุยกันกระจ่างแล้ว กู้ซีจิ่วก็ไม่คิดจะแทะโลมเขาแล้วเช่นกัน แทะโลมเขาก็เป็นเธอที่เสียเปรียบ เรื่องไม่เข้าท่าเช่นนี้เธอไม่ทำหรอก!
ดังนั้นเธอจึงพลิกกายทันที ใช้วิชาเคลื่อนย้ายไปโผล่บนเตียงที่อยู่ตรงข้ามกันหลังนั้น ดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม “ตั่งเล็กนั้นยกให้เจ้า! พวกเรานอนคุยก็แล้วกัน”
ตี้ฝูอีพูดไม่ออก นางจากไปว่องไวโดยแท้!
เพียงแต่อารมณ์ของเขายังคงดียิ่งนัก เนื่องจากสาวน้อยทราบตัวตนของเขาจริงๆ ถึงได้แทะโลมรุ่มร่ามกับเขา…
ในใจของนางมีเขาอยู่จริงๆ ถึงแม้กว่าครึ่งปีมานี้นางแทบจะไม่เอ่ยถึงเลย แต่ยามนี้ตี้ฝูอียังคงปลื้มปีตินัก อันที่จริงเขาชอบการแทะโลมของนางมาก…
ตะเกียงในห้องดับลงแล้ว เพียงแต่สายตาของเขาดีเยี่ยม ยังมองเห็นดวงตาของนางส่องประกายอยู่ในความมืดได้ เห็นได้ชัดว่าในใจของสาวน้อยยังคงมีโทสะอยู่ และกำลังรอคำอธิบายจากเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้วิธีส่งกระแสเสียงเล่าเรื่องที่ตนถูกธาตุไฟเข้าแทรก รวมถึงการกลับมาหาตามที่สัญญาไว้…
เป็นอย่างที่เธอเดาไว้ไม่มีผิด!
กู้ซีจิ่วชมเชยตัวเองอยู่ในใจ และค่อนข้างปวดใจกับเขาอยู่บ้าง
‘กล่าวเช่นนี้คือพลังยุทธ์ของท่านสูญหายไปจริงๆ งั้นหรือ? การที่ท่านกลายเป็นเด็กก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจสินะ? แต่เมื่อครู่ข้าสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณในร่างท่านมีอยู่ไม่น้อยนะ’
ทำให้ก่อนหน้านี้เธอถูกเด็กน้อยกดไว้จนพลิกตัวไม่ได้ แน่นอนว่าเหตุผลที่เธอถูกเขาควบคุมไว้ก็เป็นเพราะไม่อยากทำร้ายเขาด้วย หากเธอใช้วิธีสำหรับพิฆาตศัตรูมาต่อกรกับเขา เขาอาจจะกดเธอไว้ไม่ได้ แต่เธอหักใจไม่ลง…