บทที่ 1018 ขออภัย วู่วามไปเสียแล้ว
เห็นได้ชัดว่าประโยคหลังเป็นการเอ่ยกับ ‘อิงเหยียนนั่ว’
ตี้ฝูอีกลับไม่ขยับเขยื้อนเลย “ไม่ต้องจับชีพจรหรอก ข้าบอกให้ท่านฟังก็ได้ เส้นชีพจรช่วงซ้ายของข้าลอยตัว…”
เขากล่าวสภาพชีพจรของตนออกมาตามตรง บอกได้แม่นยำนัก
หลงซือเย่นิ่งไปครู่หนึ่ง เพ่งพิศตี้ฝูอีขึ้นๆ ลงๆ แวบหนึ่ง “เจ้ารู้วิชาแพทย์รึ?”
ตี้ฝูอีถ่อมตัว “พอทราบเล็กน้อย”
ความจริงแล้ววิชาแพทย์ของเขายอดเยี่ยมกว่าหลงซือเย่เสียอีก เพียงแต่เขาไม่ทราบวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน และเมื่อดูจากการแสดงออกที่ผ่านมาของกู้ซีจิ่ว เขาก็ทราบว่าบางอย่างในศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ยิ่ง ดังนั้นเขาจึงโอบอุ้มความหวังที่มีเพียงหนึ่งในหมื่นส่วนมาลองดูว่าหลงซือเย่จะรักษาได้หรือไม่
ความเป็นจริงยืนยันแล้วว่าเขาหวังมากไป หลงซือเย่ตรวจสอบเขาอีกรอบหนึ่งก็ไม่พบอะไรเช่นกัน ซ้ำยังถามด้วยว่าอาการป่วยเกิดขึ้นได้อย่างไร ตี้ฝูอีตอบเพียงคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับฐานะตัวตนเท่านั้น หลงซือเย่ใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งแล้วส่ายหน้า “อาการเช่นนี้ข้าก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เหมือนกัน การหวนคืนสู่วัยเยาว์ของเขาแตกต่างกับการหวนคืนสู่วัยเยาวแบบปกติ ข้าทำได้เพียงลองรักษาดู”
ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เหนือไปจากที่คาดเอาไว้ ในใจของเธอเป็นกังวล “ลองดูหรือ? ลองอย่างไร?”
หลงซือเย่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง สุ้มเสียงค่อนข้างไม่สบอารมณ์ “เจ้ากลัวว่าข้าจะใช้เขาเป็นหนูทดลองใช่ไหม? หากเจ้าไม่เชื่อใจข้า ก็แค่พาคนจากไปซะ!”
กู้ซีจิ่วถูกเขาตอกกลับ อันที่จริงเธอแค่จะถามถึงวิธีรักษาของหลงซือเย่ดูว่าเธอสามารถช่วยเหลือได้หรือเปล่า ไม่ได้มีเจตนาอื่น และไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจเขา แต่หลงซือเย่กลับดูอ่อนไหวยิ่งนัก เอ่ยวาจาเสียดสีประชดประชัน
เธอยังไม่ได้พูดอะไร ตี้ฝูอีก็ลากเธอออกเดินแล้ว “ช่างเถิด ไม่ต้องให้เขารักษาแล้ว พวกเราไปเถอะ!”
นิ้วมือของหลงซือเย่พลันกำแน่น ศีรษะร้อนผ่าวขึ้นมาในทันใด เขาสาวเท้าเข้าไปกระชากตัวกู้ซีจิ่วทันที เห็นได้ชัดว่าสองคนนั้นไม่ได้ระแวดระวังตั้งตัว กู้ซีจิ่วจึงเซถอยหลังไปสองก้าว มือที่เกาะกุมกับตี้ฝูอีหลุดออก กู้ซีจิ่วแทบจะพุ่งเข้าสู่อ้อมอกของหลงซือเย่แล้ว
กู้ซีจิ่วไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ แทบจะสลัดอุ้งมือของเขาออกไปตามสัญชาตญาณ “ท่านทำอะไร?”
หลงซือเย่ตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น แต่ระยะนี้บางครั้งสมองกลับสั่งการให้กระทำเรื่องวู่วามออกไป เขาสูดหายใจเบาๆ ทำให้ตัวเองสงบลงดั่งเดิม “ขออภัย วู่วามไปเสียแล้ว”
กู้ซีจิ่วมองสีหน้าที่ซีดขาวเล็กน้อยของเขา เขามีรอยคล้ำรอบดวงตา บนใบหน้ามีความอ่อนล้าที่ยากจะซ่อนเร้นไว้ได้ ดูเหมือนการรักษาหรงเจียหลัว เมื่อคืนจะทำให้เหนื่อยล้า…
ยามที่คนเหนื่อยล้าเกินไปล้วนอารมณ์ไม่ดีกันทั้งนั้น นับประสาอะไรกับหลงซือเย่ที่มีความรู้สึกค่อนข้างพิเศษกับเธอ เห็นเธอเดินจูงมือถือแขนกับชายอื่น เขาทนมองไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ เป็นเธอที่เผลอเรอไปชั่วขณะ
ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็รู้สึกผิดต่อหลงซือเย่เช่นกัน หากมิใช่ว่าจำเป็นจริงๆ เธอก็ไม่คิดจะขอให้หลงซือเย่รักษาให้ตี้ฝูอีหรอก เพื่อเลี่ยงไม่ให้เป็นการยั่วยุเขา…
เธอไม่ได้ตั้งใจจะโชว์หวานต่อหน้าหลงซือเย่เลย เพียงแต่เมื่อคืนนี้ควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ชั่วขณะ เลยทำให้เธอเลินเล่อไป!
เธอกระแอมคราหนึ่ง “ไม่เป็นไร หากท่านไม่มีวิธี ข้าจะพาเขา…”
กล่าวยังไม่ทันจบก็ถูกหลงซือเย่เอ่ยขัด “จู่ๆ ข้าก็นึกวิธีดีๆ อย่างหนึ่งออก ข้าคิดว่าสามารถลองกับร่างเขาได้ มีความมั่นใจอยู่ประมาณสามสี่ส่วน”
ดวงตากู้ซีจิ่วส่องประกายทันที “วิธีอะไร?”
หลงซือเย่มองตี้ฝูอีแวบหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “วิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย น่าจะใช้เวลาสามถึงสี่วัน พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ ข้าจะไปตระเตรียมวัตถุดิบบางส่วนพลางฟื้นฟูพลังวิญญาณสักหน่อย สามวันให้หลังพวกเรามาเริ่มกัน”
….
หรงเจียหลัวกับหรงเช่อนั่งด้วยกันในรถม้า จิ้งจอกดำบังคับรถอยู่ด้านนอก รถเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว พุ่งฉิวไปในอากาศ