Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1025

บทที่ 1025 มาตรฐานของลูกหลานในราชวงศ์

และไม่มีผู้ใดกล้าเรียกขานนามที่แท้จริงนี้ต่อหน้าเขา กล่าวได้ว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่มีผู้ใดเรียกชื่อนี้เลยสักครั้ง ตัวเขาเองก็เกือบจะลืมไปหมดแล้ว…

ทั้งสองสนทนากันอยู่พักใหญ่ ตี้ฝูอีก็โยนป้ายหยกในมืออันนั้นขึ้นๆ ลงๆ เสมือนมีเรื่องอยู่ในใจ

กู้ซีจิ่วมองเขา ออกปากถาม “ท่านมีเรื่องอยากพูดกับข้าใช่ไหม?”

ตี้ฝูอีชะงักไปครู่หนึ่ง มองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “ซีจิ่ว หากว่าสหายคนหนึ่งของเจ้าบาดหมางกับสหายอีกคนจนถึงขั้นเอาชีวิต กำลังอยู่ในระหว่างความเป็นความตาย เจ้าจะช่วยคนไหน?”

กู้ซีจิ่วมองเขาอยู่พักหนึ่ง “นี่ก็ต้องดูว่าในพวกเขาใครมีเหตุผลที่ฟังขึ้นกระมัง? จะให้ดีคือหวังว่าพวกเขาจะไม่ต่อสู้กัน ข้าจะหาทางยับยั้งสงครามเป็นตายครั้งนี้เสีย…แน่นอนว่าถ้าหากหลีกเลี่ยงศึกตัดสินครั้งนี้ไม่ได้ มีความเป็นไปได้สูงว่าข้าไม่ช่วยใครเลยสักคน”

ตี้ฝูอีเงียบไปอีกครั้ง

กู้ซีจิ่วมองเขาครู่หนึ่ง “ผู้ใดกับผู้ใดที่อยู่ระหว่างความเป็นความตาย? ท่านคิดจะบอกอะไรกันแน่? รีบพูดมา!”

ยากนักที่เธอจะได้เห็นตี้ฝูอีอิดออดพูดไม่ออก เขากังวลอะไรอยู่?

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “หรงเช่อกับหรงเจียหลัว เกรงว่าจะต้องอยู่ในระหว่างความเป็นความตายแล้ว ทั้งสองล้วนดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับ เจ้า หากว่าพวกเขาสู้กันขึ้นมา…”

สีหน้าของกู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “พวกเขาจะสู้กันหรือ?”

คล้ายจะตระหนักถึงอะไรได้ “หรือว่าหรงเช่อก็มีใจหมายชิงบัลลังก์ด้วย?!”

ตี้ฝูอีเอ่ยเสียงเรียบ “ตามข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ เป็นเช่นนี้จริงๆ”

กู้ซีจิ่วหน้าซีด “ข้าไม่เชื่อ!”

หรงเช่อทุ่มเทกายใจช่วยเหลือหรงเจียหลัวมาโดยตลอด พวกเขาเป็นพี่น้องที่ยอดเยี่ยมที่สุด และหรงเช่อก็เป็นสุภาพบุรุษผู้อ่อนน้อมเสมอมา ชื่นชอบขุนเขาสายธารไร้ความทะเยอทะยาน ยามนี้กลับ…

ตี้ฝูอี หนิบยันต์บันทึกเสียงแผ่นหนึ่งออกมา “เจ้าฟังนี่สิ”

เขากดเปิด เสียงของหรงเช่อกับหรงเจียหลัวแว่วออกมาจากด้านใน เป็นบทสนทนายามที่ทั้งสองอยู่ในรถม้าเหล่านั้น บทสนทนาครั้งนี้สำหรับกู้ซีจิ่วแล้วเป็นความสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงนัก!

เธอตะลึงงันไปครู่ใหญ่ มีคำถามมากมายอื้ออึงอยู่ในสมอง เพียงแต่เธอถามถึงประเด็นสำคัญก่อน “ตอนนี้หรงเจียหลัวเป็นยังไงบ้าง?”

“วางใจเถอะ ข้าส่งคนไปจับตามองพวกเขาอยู่ตลอด หรงเจียหลัวที่หล่นลงไปก็ถูกคนช่วยไว้แล้ว”

กู้ซีจิ่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในใจบอกไม่ถูกจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไร

ไม่ว่าจะหรงเช่อหรือหรงเจียหลัวล้วนดีต่อเธอมากทั้งสิ้น เมื่อก่อนช่วยเหลือเธอไว้ไม่น้อย ยามนี้พวกเขากลับรบกันเพื่อบัลลังก์ ตัวเธอในฐานะเพื่อนค่อนข้างลำบากใจจริงๆ

เพียงแต่วิธีการของหรงเช่อช่างไร้นํ้าใจยิ่งนักโดยแท้ กล่าวได้ว่าอำมหติ ทำให้กู้ซีจิ่วค่อนข้างประหลาดใจ ในใจมีความผิดหวังรางๆ

ราชวงศ์ไร้ความสัมพันธ์พ่อลูก และไร้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เช่นเดียวกัน บทละครพี่น้องหักหาญกันเองล้วนมีอยู่แทบทุกราชวงศ์ และไม่ใช่เรื่องแปลกเลย กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาเอย ตีสองหน้าเอย ถอนฟืนใต้กระทะเอย นํ้ากลิ้งบนใบบอนเอย แทบจะเป็นมาตรฐานของลูกหลานใน

ราชวงศ์ไปแล้ว แต่ประเภทหรงเช่อนี้ กู้ซีจิ่วรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้าง อย่างไรเสียหรงเจียหลัวก็ดีต่อเขาด้วยใจจริง แต่เขากลับใช้วิธีการเช่นนี้มาตอบแทนพี่ชายตน นี่ทำให้กู้ซีจิ่วค่อนข้างรังเกียจนัก!

อีกทั้งตัวตนของเขา…

ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็ยืมร่างคืนวิญญาณด้วย!

หรือว่าจะทะลุมิติมาเหมือนกัน?

เธอพลันส่ายหัวทันที ความรู้ทั้งหมดของหรงเช่อยังคงเป็นของยุคนี้ ไม่มีความรู้ของยุคปัจจุบันเลย ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่กำเนิดเติบโตในยุคนี้…

“ในรถม้าคันนั้นมีเพียงพวกเขาสองพี่น้องกระมัง? แล้วท่านบันทึกเสียงของพวกเขามาได้อย่างไร? ท่านวางเล่ห์กลไว้บนร่างพวกเขาล่วงหน้าสินะ?”

ตี้ฝูอีพยักหน้า “ข้าสงสัยหรงเช่อมานานแล้ว…และสงสัยว่าการที่หรงเจียหลัวถูกพิษผีดิบหนนี้เกี่ยวข้องกับเขาด้วย ดังนั้นข้าจึงเล่นลูกไม้กับร่างของหรงเจียหลัว ติดตั้งยันต์บันทึกเสียงชนิดหนึ่งไว้ ข้าอยู่ที่นี่ก็สามารถฟังได้…”

กู้ซีจิ่วมองเขาแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะกระทำเรื่องราวมากมายอย่างเงียบเชียบได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version