Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1026

บทที่ 1026 ผู้บงการคือเขาหรือ?

เธอขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หรงเช่อคงเก็บงำความสามารถที่แท้จริงเอาไว้กระมัง? ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ด้วยวรยุทธ์ของเขาสร้างเขตแดนปิดกั้นเสียงไม่ได้หรอก…แถมพิษผีดิบในร่างหรงเจียหลัวก็เป็นคนเขาที่ลงมือ หรือเขาจะลอบสมคบคิดกับหลงฟั่นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้น?”

ตี้ฝูอีพึงพอใจ “เจ้าฉลาดจริงๆ น่าจะเป็นเช่นนี้แหละ หรงเช่อกับหลงฟั่นย่อมมีผลประโยชน์ร่วมกันแน่นอน หรงเช่อต้องการยึดอำนาจจึงร่วมมือกับ หลงฟั่นก็ดูมีเหตุผลอยู่”

กู้ซีจิ่วนั่งเงียบงันอยู่ตรงนานเป็นเวลานาน “เขาร่วมมือกับหลงฟั่นตั้งแต่ตอนไหนกัน?”

มือของตี้ฝูอีเคาะหน้าโต๊ะ “น่าจะนานมากแล้ว เจ้ายังจำเรื่องที่เจ้าถูกใส่ร้ายตอนเพิ่งเข้าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้หรือไม่?”

“จำได้” กู้ซีจิ่วตอบรับไปตามสัญชาตญาณ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ความหมายของท่านคือผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังในยามนั้นคือเขางั้นหรือ?!”

“มีความเป็นได้แปดเก้าส่วนว่าจะเป็นเขา” ตี้ฝูอีตอบด้วยเสียงเรียบเรื่อย

“เพราะอะไร?” กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ “เพราะอะไรเขาถึงทำเช่นนั้น? ข้ากับเขาไม่มีความแค้นต่อกันเลย ถึงขั้นเป็นสหายกันด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องแอบแทงข้างหลังข้า?”

ตี้ฝูอีใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่แน่ว่าจะเล่นงานเจ้าเพราะมีความแค้น บางทีเขาอาจไม่อยากให้เจ้าอยู่ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ อยากให้สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ไล่เจ้าออก เขาวางหมากมากมายไว้ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ทว่าเจ้ากลับเป็นผู้ที่ชมชอบหาจุดผิดพลาดของคนอื่นเป็นที่สุด…เจ้าอยู่ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เพียงไม่นาน ก็ฉวยตัวหมากออกมาได้หลายตัวแล้วมิใช่หรือ?”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน เธอหดหู่อยู่ครู่หนึ่ง “ข้ามักจะสัมผัสได้ว่าเขาไม่ได้คิดจะสังหารข้า…แต่อุบายที่ผู้บงการคนนั้นกระทำกลับเป็นการผลักข้าเข้าสู่เส้นทางแห่งความตาย! ตอนนั้นถ้าหากท่านไม่มาช่วยข้า คาดว่ายามนี้ข้าคงเป็นโครงกระดูกไปแล้ว…”

ตี้ฝูอีมองเธอแวบหนึ่ง “ตัวโง่งม! ถึงอย่างไรเจ้าก็มีฐานะเป็นศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ เจ้านึกว่ากู่ฉานโม่จะกล้าตัดสินโทษโทษตายให้เจ้าโดยไม่ผ่านข้าหรือ? ตามที่ข้าคำนวณไว้ หากว่าเจ้าต้องแบกรับโทษนั้นไว้จริงๆ หลังจากกู่ฉานโม่ขังเจ้าไว้สักระยะหนึ่ง ก็จะไล่เจ้าออกจากสำนักสึกษาชุมนุมสวรรค์ ย่างเท้าเข้าไปไม่ได้อีกตลอดกาล ส่วนหรงเช่อที่อยู่ที่นั่นในยามนั้น เขาจะพาเจ้าที่เซื่องซึมไร้จิต วิญญาณกลับไป ไม่แน่ในยามนั้นอาจจะให้เจ้าเข้าสำนักศึกษาของอาณาจักรเฟยซิง เขาช่วยเจ้าไว้ในยามคับขัน เจ้าจะต้องซาบซึ้งตื่นตันในตัวเขาเป็นแน่ ด้วยความซาบซึ้งอาจจะอุทิศกายให้เขาก็ได้!”

กู้ซีจิ่วถลึงตามองเขาคราหนึ่ง “ข้าเป็นคนที่พอซาบซึ้งก็อุทิศตัวให้ประเภทนั้นหรือไง?”

ตี้ฝูอีกล่าวอย่างปรีดาทันที “ไม่ใช่แน่นอน ดังนั้นที่เจ้าอุทิศกายตอบรับคำขอแต่งงานของข้า ก็เป็นเพราะชอบพอข้า รักใคร่ข้า…”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย

คนผู้นี้ช่างฉวยโอกาสตีงูที่พันกิ่งโดยแท้!

เพียงแต่ที่เขาว่ามาก็ไม่ผิด ต่อให้คนผู้นั้นจะดีต่อเธอสักแค่ไหน เธอก็สามารถบุกนํ้าลุยไฟเพื่ออีกฝ่ายได้ แต่ไม่มีทางใช้ทั้งชีวิตของตนมาเป็นสิ่งทดแทนคุณเด็ดขาด

หรงเช่อชอบเธอ ข้อนี้กู้ซีจิ่วสัมผัสได้ แต่การที่บอกว่าชอบเธอแล้ววางแผนเล่นงานเธอถึงเพียงนี้เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าออกจะเกินเหตุไปหน่อย…

ต่อให้เขาชอบเธอ ก็คงไม่ถึงขั้นลุ่มหลงหมกมุ่นจนบ้าคลั่งกระมัง?

กู้ซีจิ่วกล่าวข้อสงสัยของตนออกมา

ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายจะนึกอะไรได้ “หรือที่เขาเล่นงานเจ้าถึงเพียงนี้ จะเกี่ยวข้องกับฐานะศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า!”

กู้ซีจิ่วมองเขา “ว่ามาสิ!”

ตี้ฝูอีจึงเอ่ยขึ้น “เจ้าและข้าล้วนทราบว่าผู้บงการหลังม่านคนนั้นทะเยอทะยานยิ่งนัก สิ่งที่เขาต้องการมิใช่แผ่นดินไพร่พล เขาต้องการจะเข้าแทนที่ตำแหน่งของข้า…ดังนั้นจึงหาทางเข้าใกล้ตัวข้าอยู่ตลอด และคนข้างกายข้าล้วนไว้ใจได้ยิ่งนัก พวกเขาไม่มีทางซื้อตัวได้และเข้าใกล้ไม่ได้เช่นกัน แต่เจ้าเป็นศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็มีโอกาสได้ติดต่อกับเทพศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะใช้ช่องโหว่จากตัวเจ้า…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version