Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 994

บทที่ 994 กระหายอยากสังหารคนอยู่ตลอดเวลา

“ท่านสมควรอยู่ที่เมืองชายแดนมิใช่หรือ? เหตุใดมาอยู่ที่นี่ได้?” กู้ซีจิ่ถามหรงเช่อที่อยู่นั่งตรงกันข้าม

สถานที่ห่างไกลอำนาจโอรสสวรรค์เช่นนี้ยังบังเอิญพบสหายเก่าได้ถือเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่งเช่นกัน ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงขึ้นไปชั้นบนพร้อมตี้ฝูอีอย่างปรีดา และร่วมโต๊ะกับหรงเช่อ

ชั้นสองคือห้องรับรองส่วนตัว ห้องรับรองที่หรงเช่ออยู่นี้คือห้องที่ใหญ่ที่สุด ดีที่สุด และเงียบสงบที่สุด นี่คือห้องชุด ด้านในสุดของห้องถึงขั้นมีเสียงพิณแว่วออกมาด้วย ม่านมุกบดบังไว้ครึ่งหนึ่ง ซ่อนผู้บรรเลงพิณไว้ด้านในรางๆ

ตามข่าวที่กู้ซีจิ่วได้รับมา องค์ชายหรงเช่อและองค์รัชทายาทหรงเจียหลัว ล้วนรบอย่างเอาเป็นเอาตายกับทัพของอาณาจักรเฮ่าเยวี่ยอยู่ที่เมืองชายแดน และเมืองชายแดนก็อยู่ห่างจากที่นี่กว่าสามพันลี้ ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงค่อนข้างประหลาดใจนักที่เขาปรากฏตัวขึ้นที่นี่

หรงเช่อรินสุราให้เธอหนึ่งจอก ถอนหายใจเบา “ยากจะอธิบายให้กระจ่างได้ในประโยคเดียว…วันก่อนได้รับสาสน์ด่วนจากเสด็จพ่อ บอกว่าต้องการเจรจาสงบศึกกับอาณาจักรเฮ่าเยวี่ย ให้สองฝ่ายหยุดยั้งสงครามเสีย และเรียกตัวพวกเรากลับไป เหลือแม่ทัพกู้ไว้ปกป้องเมืองชายแดนก็พอ ระหว่างเดินทางกลับ จู่ๆ เสด็จพี่รัชทายาทเกิดป่วยเป็นโรคประหลาดขึ้นมา…หมอในกองทัพล้วนอับจนหนทางรักษา ข้าก็ไม่มีแผนการที่เข้าท่า ทำได้เพียงพาเสด็จพี่มาที่นี่อย่างลับๆ คิดจะเชื้อเชิญเจ้าสำนักหลงให้มาตรวจอาการว่ามีหนทางรักษาหรือไม่”

ที่แท้เขาก็มาเพื่อเชิญหลงซือเย่เหมือนกัน เป็นสหายที่มีเป้าหมายเดียวกัน

จากเมืองเล็กๆ แห่งนี้ไปถึงเขาถามสวรรค์ใช้เวลาครึ่งวัน และนับว่าเป็นอาณาเขตของหุบเขาถามสวรรค์ด้วย หุบเขาถามสวรรค์

มีกฎที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ว่าผู้ที่มาขอรับการรักษาที่หุบเขาถามสวรรค์จะเป็นผู้ใด ล้วนไม่สามารถพาผู้ป่วยเข้าไปในหุบได้ ทำได้เพียงไปแขวนชื่อในโรงหมอของเมืองนี้ไว้ก่อน จากนั้นคนของโรงหมอค่อยให้ผู้ป่วยรั้งอยู่ตามคำสั่งของเบื้องบน

กู้ซีจิ่วก็เป็นนเพื่อนกับหรงเจียหลัวเช่นกัน เมื่อได้ยินว่าเขาป่วยเป็นโรคประหลาด จึงรีบ สอบถามอาการทันที

หรงเช่อถอนหายใจพลางเอ่ยตอบ “หน้าตาขาวซีด ริมฝีปากม่วงคลํ้า จดจำผู้คนไม่ได้ กระหายอยากสังหารคนอยู่ตลอดเวลา”

กู้ซีจิ่วใจหายวาบ อาการแบบนี้ เห็นทีว่าจะถูกพิษผีดิบเข้าแล้ว!

เธอมองข้าวปลาอาหารที่วางเต็มโต๊ะนี้และปรมาจารย์พิณที่บรรเลงพิณอยู่ในห้องชุดอย่างเอ้อระเหย พลางนึกสงสัยอยู่ในใจ หรงเจียหลัวป่วยหนักถึงเพียงนี้ องค์ชายแปดผู้นี้ยังมีแก่ใจมาจิบสุราฟังดนตรีอยู่ที่นี่อีก?

ดวงตาเธอสาดแสงแวบหนึ่ง เอ่ยถามทันที “องค์ชายแปด อยู่ที่นี่ด้วยนัดหมายผู้อื่นไว้ใช่หรือไม่?”

หรงเช่อพยักหน้า “มิผิด”

“นัดเจ้าสำนักหลงไว้หรือ?”

หรงเช่อเลิกคิ้วขึ้น ด้วยความประหลาดใจ “ซีจิ่วเจ้าทราบได้อย่างไร?”

กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก “เสด็จพี่รัชทายาทของท่านป่วยหนักปานนี้ ท่านกลับมาจัดงานเลี้ยงอยู่ที่นี่…เห็นได้ชัดยิ่งว่าเชื้อเชิญผู้มีอำนาจมา อีกอย่างก็คือมีเพียงยามงานเลี้ยงที่เจ้าสำนักหลงเข้าร่วมเท่านั้นถึงจะต้องมีเสียงพิณบรรเลงคลอ”

หรงเช่อยกนิ้วโป้งให้ทันที “ซีจิ่ว เจ้าฉลาดจริงๆ!”

กู้ซีจิ่วยิ้มแวบหนึ่ง “ประจบข้าให้น้อยหน่อยเถอะ เพียงแต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของท่านกับเจ้าสำนักหลงจะไม่เลวเลยนี่ เขายอมเห็นแก่หน้าท่านมาร่วมงานเลี้ยงนี้ของท่าน ต้องทราบก่อนว่าเขามิใช่ผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเชื้อเชิญได้ง่ายๆ”

หรงเช่อทอดถอนใจเบาๆ “ข้าก็รู้สึกมีโชคยิ่งนักเช่นกัน ได้รับการให้ค่าจากเจ้าสำนักหลง มองเห็นเป็นสหาย อันที่จริงแล้วนี่เป็นความชอบของเจ้า นะ”

“หือ?”

นัยน์ตาหรงเช่อพราวระยับ “ตอนข้าบาดเจ็บสาหัสที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ครานั้น เขาเห็นแก่หน้าเจ้า ถึงได้ไปส่งข้าลงเขาด้วยตัวเอง ซํ้ายังไปส่งข้าตลอดทางด้วย ค่อยๆ รักษาข้าจนหายดี นี่ทำให้คุ้นเคยกับเขาขึ้นมา พอจะอ้างได้ว่าเป็นกึ่งๆ สหายของเขา…”

ในเมื่ออยู่ที่นี่ก็สามารถพบหลงซือเย่ได้ กู้ซีจิ่วก็เลยไม่รีบร้อนเดินทางแล้ว

ทั้งสองคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่หนึ่ง พูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนทราบ สาเหตุที่เกิดการสงบศึกอย่างกะทันหันเช่นนี้ เนื่องจากในที่สุดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าแทรกแซงเรื่องนี้แล้ว สั่งการให้สองฝ่ายยุติสงคราม สี่เทวทูตลูกน้องของเขาตรวจสอบพบว่าซากศพและกองทัพที่หายไปเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในทางชั่วร้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version