บทที่ 106
นํ้าใจขององค์รัชทายาท
สัญญาณเตือนดังลั่นอยู่ในใจของกู้ซีจิ่ว เธอจับศีรษะเอาไว้ โคลงหัวนิดๆ “เวียนหัวจัง…”
กู้เซี่ยเทียนรีบกล่าวขึ้นมา “ลูกจิ่ว เจ้าคงจะเมาแล้วล่ะ รีบไปพักเสียเถิด”
วาจาประโยคนี้ของกู้เซี่ยเทียนตรงใจเธอนัก ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังจะขอตัวลากลับอย่างเปิดเผย องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวก็กล่าวขึ้นมาพอดี “ไม่เป็นไร สุราจอก เดียวทำให้คนเมามิได้หรอก ที่เปิ่นกงมีลูกกลอนสร่างเมาอยู่เม็ดหนึ่ง คุณหนูกู้รับไปสิ”
กล่าวพลางล้วงยาเม็ดหนึ่งออกมา แล้วยื่นมาตรงหน้ากู้ซีจิ่ว
เขามีนํ้าใจยิ่งนัก ถึงกับสั่งคนมารินน้ำเปล่าให้เธอด้วยหนึ่งจอก เดิมทีนํ้าเปล่านั้นร้อนมาก แต่พอผ่านมือเขา นํ้านั้นก็เปลี่ยนเป็นไม่ร้อนไม่เย็นกำลังพอดี กู้ซีจิ่วหมดทางจะออกจากงานเลี้ยง ได้แต่เอ่ยขอบพระทัยแล้วรับยาเม็ดนั้นกับนํ้าเปล่ามากลืนลงไปพร้อมกัน
“เป็นอย่างไรบ้าง?” องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ดีขึ้นมากแล้วเพคะ” กู้ซีจิ่วได้แต่ตอบไปเช่นนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอไม่ได้เมาเลยสักนิด!
เหล้าจอกเดียวสำหรับเธอแล้วนับว่าเป็นเรื่องกล้วยๆ อีกอย่างเธอก็ดูออกว่ายาสร่างเมาที่องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวมอบให้เธอนั้นเป็นของชั้นเลิศ อย่าว่าแต่เธอที่ดื่มเหล้าไปแค่จอกเดียวเลย ต่อให้ดื่มไปเป็นไหจนเมาหัวทิ่ม ก็สร่างเมาได้ในชั่วพริบตาเหมือนกัน!
อย่างที่คิดไว้เลย องค์รัชทายาทแห่งวังหลวงย่อมมีสมบัติลํ้าค่ามากมาย ยาสร่างเมาเม็ดนี้ก็เป็นของชั้นเลิศที่หาได้ยาก!
กู้ซีจิ่วแอบทอดถอนใจอยู่ภายในใจ คงต้องนั่งอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ย่อมตกอยู่ในสายตาของคนมากมายที่อยู่ในงานเลี้ยง
คิดไม่ถึงเลยว่าองค์รัชทายาทผู้สูงส่งจะมีนํ้าใจถึงเพียงนี้! แถมฝ่ายที่ได้รับนํ้าใจยังเป็นหญิงอัปลักษณ์ที่ไม่น่าสนใจที่สุดนางนั้น…
หญิงสาวมากมายทั้งอิจฉาทั้งริษยาและรู้สึกประหลาดเล็กน้อยอีกด้วย อย่างไรเสียองค์ชายหรงเหยียนคู่หมั้นในนามของกู้ซีจิ่วก็ยังอยู่ที่นี่ องค์รัชทายาทผู้นี้กลับมีไมตรีจิตต่อคู่หมั้นของน้องชายขนาดนี้จะดีหรือ?
องค์ชายหรงเหยียนเองก็รู้สึกโกรธจนหน้าร้อนผ่าว ถึงขั้นรู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจ แต่แปลกที่ตรงไหนเขาก็บอกไม่ถูก
เขาสรุปเอาว่าความรู้สึกแปลกๆ ในใจตนคงเป็นสาเหตุที่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย…
เขากระแอมเบาๆ ขณะกำลังจะพูดบางอย่าง องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวกลับเอ่ยออกมาอีก “คุณหนูกู้หก มารดาของเจ้าและเสด็จแม่ของเปิ่นกงเคยเป็นสหาย สนิทกัน พระองค์ได้ยินว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าได้รับความตื่นตระหนกเพราะเกือบโดนคนใส่ร้ายป้ายสี ก็ทรงพิโรธเป็นอย่างยิ่ง จึงมีรับสั่งให้เปิ่นกงนำของสิ่งหนึ่งมามอบให้เจ้าเป็นพิเศษ…”
พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ วางไว้กลางฝ่ามือ แล้วยื่นไปตรงหน้ากู้ซีจิ่ว
หลังจากเห็นสิ่งนั้นชัดๆ สายตาของฝูงชนก็ลุกวาว ทว่าหัวใจกู้ซีกลับเต้นระรัว!
สิ่งนั้นเป็นกำไลอัญมณีหลากสีสันเส้นหนึ่ง นอกจากขาดรัศมีแสงไปแล้วรูปแบบและสีสันของอัญมณีบนกำไลเส้นนี้เหมือนกับร่างเดิมของหยกนภามาก
กู้ซีจิ่วยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร ทว่าหยกนภาที่อยู่บนข้อมือเธอกลับรู้สึกรับไม่ได้อย่างยิ่ง!
‘ของปลอม! ละเมิดลิขสิทธิ์! ของก็อปเกรดเอ! ไม่สิ ไม่ใช่เกรดเอ เป็นของก็อปเกรดต่ำ! ร่างเดิมของข้าดูดีกว่านี้ตั้งร้อยล้านเท่า! ถ้าไม่เชื่อข้าจะเปลี่ยนกลับไปเทียบให้ดู…’ หยกนภาโหวกเหวกโวยวายอยู่ในสมองของกู้ซีจิ่ว ดูราวกับว่าโมโหจนแทบจะพ่นไฟได้แล้ว!
‘เสี่ยวชาง ตั้งสติ!’ กู้ซีจิ่วลูบไล้กำไลบนข้อมือเบาๆ ขยับมืออย่างอ่อนโยน แต่เสียงที่ส่งไปหาหยกนภากลับแกร่งกร้าวมาก ‘เขาคิดจะลองเชิงข้า หากเจ้ากล้า เปลี่ยนกลับร่างเดิมตอนนี้ล่ะก็ ข้าจะโยนเจ้าลงบนเตียงหยกเหมันต์แล้วแช่แข็งไว้หมื่นปี!’
หยกนภาเงียบทันที มันไม่กล้าโวยวายแล้ว ได้แต่หุบปากลงอย่างคับข้องใจ
กู้ซีจิ่วไม่สนใจมัน เพียงส่ายศีรษะน้อยๆ ให้องค์รัชทายาทหรงเจียหลัว ยิ้มอย่างเยือกเย็น “องค์รัชทายาทเกรงใจกันเกินไปแล้ว ทว่าไม่มีความชอบไหนเลยจะกล้ารับรางวัล หม่อมฉันจะรับของมีค่าขนาดนี้จากองค์รัชทายาทได้อย่างไรล่ะเพคะ? อีกอย่างคือซีจิ่วเองก็มีกำไลหยกแล้ว เลยไม่ต้องการกำไลเส้นนี้เพคะ” สายตาขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวมองไปที่กำไลหยกเขียวบนข้อมือเธอ “กำไลนี้ของแม่นาง…ดูธรรมดา หาได้ทั่วไป ไม่ค่อยเหมาะสมกับแม่นางเลย…” หยกนภาสะเทือนใจนัก มันอยากจะวิ่งหนีไปเสียจริง!