Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 109

บทที่ 109

จะเป็นไปได้ยังไงกัน?! เจ้าคิดมากไปแล้ว!

ข้าวของในหีบนั้นดูกระจอกงอกง่อยอย่างยิ่ง มีทั้งลูกแก้วเด็กเล่น เชือกผูกผมหลายเส้น เหรียญอีแปะหลายเหรียญ มีกระทั้งกระดิ่งเหล็กอันหนึ่ง…

สับสนปนเปกันไปหมด ข้าวของในกล่องมีมากมาย ทว่า ล้วนเป็นของไม่มีราคาค่างวดทั้งสิ้นใช้เงินแค่ไม่กี่อีแปะ ก็ซื้อหาได้แล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดในหีบคงจะเป็นปิ่นทองแดงด้ามนั้น แต่ก็คงมีราคาไม่เกินหนึ่งตำลึง…

ไม่คิดเลยว่าของที่ท่านอ๋องผู้สง่างามมอบให้คู่หมั้นจะกระจอกงอกง่อยเช่นนี้ สู้พวกบัณฑิตอวดรู้จากตระกูลเล็กๆ ยังไม่ได้เลยด้วยซํ้า!

สีหน้าของกู้เซี่ยเทียนไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีเขายังรู้สึกว่าวันนี้บุตรสาวของตนทำตัวไม่เหมาะสมเท่าไหร่ บัดนี้พอได้เห็นสิ่งของเหล่านี้จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่ว่าบุตรสาวจะทำอย่างไรก็ไม่ถือว่ามากเกินไป!

ทว่าอย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงองค์ชาย ทั้งยังเป็นคู่หมั้นของซีจิ่ว ถ้าทำให้ลำบากใจจนเกินไป ภายหน้าซีจิ่วออกเรือนไปแล้วจะวางตัวลำบาก…

กู้เซี่ยเทียนยื่นมือไปปิดหีบนั้น ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเห็นเรื่องน่าขายหน้า ถอนหายใจแล้วกล่าว “จิ่วเอ๋อร์ อย่างไร นี่ก็เป็นของที่องค์ชายสิบสองมอบให้เจ้า ถึงจะเป็นของขวัญเล็กน้อยแต่ก็มอบให้ด้วยใจ ข้าวของเหล่านี้พ่อจะเก็บไว้ให้เจ้าก่อน อีกหน่อยเจ้าออกเรือนแล้วค่อยคืนให้เจ้า…”

จากนั้นก็มององค์ชายหรงเหยียน “องค์ชายสิบสอง จะอย่างไรจิ่วเอ๋อร์ก็เป็นคู่หมั้นของพระองค์โปรดรักมั่นต่อนาง เพราะฉะนั้นไม่ควรจะนำของไม่มีค่า…ของธรรมดาๆ เหล่านี้มายึดถือเป็นจริงเป็นจัง ต่อไปพระองค์ต้องดีกับนาง อย่าทำให้นางต้องผิดหวัง”

องค์ชายหรงเหยียนทั้งอับอายทั้งขายหน้า จึงตอบอึกๆ อักๆ “ข้า…ต่อไปข้าจะดีกับนางแน่นอน”

กู้ซีจิ่วเอียงศีรษะมองเขา “ดีมากแค่ไหนหรือ?”

พลัน เสริมขึ้นอีกประโยค “จะดีเหมือนที่ดีต่อพี่เทียนฉิงหรือไม่?”

องค์ชายหรงเหยียนชะงักงัน สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ฉีกยิ้มพลางกล่าวชี้แจง “ข้ากับพี่เทียนฉิงของเจ้าเป็นสหายกัน จึงดีต่อนางเหมือนสหาย แต่เจ้าไม่เหมือนกัน เจ้าเป็นชายาในอนาคตของข้า อย่าพูดจามั่วซั่วสิ”

ปากเขาพูดชี้แจงอยู่ ทว่าหัวใจเขากลับเต้นแรง

หรือว่าเด็กคนนี้จะหึงหวง?

อืม ถ้าหึงหวงนั่นก็แปลว่าหัวใจยังคงอยู่ที่เขา

กู้ซีจิ่วร้องโอ้ ออกมา “ที่แท้พระองค์กับพี่เทียนฉิงก็เป็นเพียงสหายกันสินะ ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าเคยมีคนกล่าวไว้ ว่า เพื่อสหายแล้วยอมปักมีดไว้ที่ซี่โครงสองข้าง[1] สหายดั่งแขน ภรรยาดั่งเสื้อผ้า พระองค์จะไม่เสียสละเสื้อผ้าเพื่อแขนใช่ไหม?”

เขายิ้มแห้งๆ “จะเป็นไปได้ยังไงกัน?! เจ้าคิดมากไปแล้ว! ต่อไปข้าจะดีกับเจ้าแน่นอน จะไม่ให้ผู้ใดมารังแกเจ้าได้”

กู้ซีจิ่วประคองถ้วยชาขึ้นมา ขอคำปรึกษาจากกู้เทียนฉิงอย่างจริงใจใสชื่อ “เป็นข้าคิดมากไปจริงๆ หรือ?”

สีหน้าของกู้เทียนฉิงจากซีดขาวกลายเป็นเขียวคลํ้า โกรธเสียจนมือที่อยู่ในแขนเสื้อสั่นไม่หยุด แต่ไม่สามารถแสดงโทสะออกมาได้ เลยฝืนยิ้ม “น้องน้อย เจ้าคิดมากไปแล้วจริงๆ ข้ากับองค์ชายสิบสอง…เป็นเพียงสหายกันจริงๆ”

เมื่อ เหตุการณ์ผ่านพ้นไป เช่นนี้ องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวที่ชมละครฉากนี้อยู่เงียบๆ มาโดยตลอด ยามนี้เขาลุกยืนขึ้น ชูจอกสุราไปทางกู้เซี่ยเทียน “แม่ทัพกู้ท่านเป็นเสาหลักของราชวงศ์เปิ่นกงขอคารวะท่านหนึ่งจอก”

ตามกฎเกณฑ์ของอาณาจักรเฟยซิง หากษัตริย์คารวะสุรา ขุนนางจะต้องคุกเข่าขอบพระทัยแล้วคารวะ สุรากลับ

กู้เซี่ยเทียนรู้กฎเกณฑ์นี้เป็นอย่างดี จึงรีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่าลง “ข้าพระบาทขอบพระทัยองค์รัชทายาท มิบังอาจ ให้พระองค์มาคารวะ เป็นข้าพระบาทที่ควรคารวะ พระองค์..”

องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวก้าวออกมาสองก้าว คิดจะมาช่วยประคอง

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเท้าของเขากลับสะดุดขาเก้าอี้ตัวที่กู้ซีจิ่วนั่งอยู่เข้า ท่าทางคล้ายจะทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายเสียหลักถลาไปหากู้ซีจิ่ว!

กู้ซีจิ่วเห็นอยู่ว่าใบหน้าหล่อๆ ของเขาขยายใหญ่อยู่เบื้องหน้าอย่างกะทันหัน เธอกำมือ คิดจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาออกมาตามสัญชาตญาณ แต่นัยน์ตากลับ สาดแสงขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วอดกลั้นเอาไว้สุดชีวิต จึงถูกองค์รัชทายาทหรงเจียหลัวที่ถลามาชนเข้าอย่างจัง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version