Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 11

บทที่ 11

ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย สังหารหมดไม่ละเว้น!

เขาพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเศษผ้าชิ้นหนึ่งถูกโยนใส่หน้าเขา นายท่านเอ่ยออกมาด้วยนํ้าเสียงเย็นยะเยือก

“ไสหัวไปสืบหาที่มาของเศษผ้านี้ให้ข้า ถ้าหากภายในหนึ่งชั่วยามยังสืบไม่พบ เจ้าก็ไปตายซะ!”

“ขอรับ!” มู่เฟิงไม่กล้าชักช้ารีบโดดเข้าไปคว้าเศษผ้าชิ้นนั้นแล้วหายลับไปอย่างรวดเร็ว

‘ในที่สุดนายท่านก็กลับมาเป็นปกติแล้ว’ อีกสามคนที่เหลือถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“มู่อวิ๋น มู่เหลย มู่เตี้ยน พวกเจ้าทั้งสามคนไปตรวจสอบบริเวณรอบๆ นี้ในระยะ 20 ลี้หาตัวเด็กคนหนึ่ง อายุประมาณ 10 ขวบ บนร่างสวมเสื้อคลุมของข้าอยู่ หลังจากหาพบแล้วจงสังหารทิ้งซะ!”

ทั้งสามคนเหลือบมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

นายท่านรักสะอาดอย่างยิ่ง ของทุกสิ่งที่เขาเคยใช้แล้วต้องนำมาทำลายทิ้ง ไม่มีทางมอบให้ผู้อื่นต่อเด็ดขาด แล้วเสื้อคลุมของนายท่านไปอยู่บนตัวเด็กคนหนึ่งได้อย่างไรกัน?

“นายท่าน เด็กคนนั้น…เป็นชายหรือหญิงขอรับ?” มู่อวิ๋น รวบรวมความกล้าถามออกไปประโยคหนึ่ง

นํ้าเสียงของนายท่านผู้นั้นเย็นเยียบ “ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย สังหารหมดไม่ละเว้น!”

เสื้อผ้าของนายท่านตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น แต่นายท่านกลับไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นชายหรือหญิง…หรือว่าจะโดนขโมยไป? ยังมีผู้ที่สามารถขโมยของไปจากมือนาย ท่านได้ด้วยหรือ?

ทะ…ท้าทายอำนาจเกินไปแล้ว! ความสงสัยที่อยู่ในใจของทั้งสามคนอาจทำให้พวกเขาตายได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าถามออกไป ทำได้เพียงตอบรับ และแยกย้ายกันไปค้นหาอย่างว่องไว

นายท่านผู้นั้นยืนอยู่ท่ามกลางความมืดในยามราตรี สายลมในภูเขาพัดผ่านมาทำให้เสื้อคลุมบนกายเขาปลิวไสว ราวกับจะลอยไปพร้อมสายลม

เด็กคนนั้นเพิ่งออกจากถํ้านี้ไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทั้งยังไม่มีพลังวิญญาณ ย่อมเดินทางได้ไม่เร็วนัก ต่อให้วิ่งได้ว่องไวเป็นพิเศษ ก็คงวิ่งไปได้ไม่เกิน 20 ลี้ ความ สามารถในการตามหาคนของพวกมู่อวิ๋นไร้เทียมทาน

พวกเขาต้องหาตัวเด็กอัปลักษณ์คนนั้นมาได้ในไม่ช้านี้…

บนโลกนี้ไม่เคยมีใครหน้าไหนได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเขามาก่อน แต่หากได้เห็นแล้วต้องตายสถานเดียว!

แต่เด็กเหลือขอคนนั้นไม่เพียงเห็นรูปร่างหน้าตาของเขา ยังลูบคลำไปจนถึงไหนต่อไหนอีก สมควรถูกเตะส่งไปลงนรกโดยเร็ว…

ขณะนี้กู้ซีจิ่วเด็กอัปลักษณ์ที่ถูกนายท่านกล่าวถึงไม่เพียงแต่วิ่งมาได้ใกลเกิน 20 ลี้เท่านั้น แต่ยังเข้าเมืองไปแล้วอีกด้วย

ยามนี้กำลังเดินลอยชายอยู่ในร้านเสื้อผ้าที่ปิดแล้ว

วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอไม่ได้ถูกจำกัดไว้ด้วยสิ่งของประเภทกำแพง ดังนั้นผนังอิฐหนาของร้านเสื้อผ้า และประตูใหญ่ที่ปิดไว้อย่างหนาแน่นก็ขวางกั้นเธอไม่ได้

กู้ซีจิ่วกระทำการรอบคอบอย่างยิ่ง เมื่อเธอลงจากเขามาก็ได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่า หากผู้ที่ครอบครองรูปสลักหยกพบว่าเสื้อผ้าหายไป จะต้องรู้แน่นอนว่ามีคนเข้าไป อาจจะออกค้นหาไปทุกหนทุกแห่ง ถ้าเธอยังสวมเสื้อคลุมนี้ไว้ก็คงสะดุดตาเกินไป เพราะฉะนั้นเปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าธรรมดาน่าจะปลอดภัยกว่า

ร้านแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเสื้อผ้างดงามหลากหลาย ละลานตา กู้ซีจิ่วเลือกดูเสื้อผ้าไปเรื่อย และแล้วก็หาเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเองได้ เพียงครู่เดียวก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย แล้วเคลื่อนย้ายออกมาจากร้าน ต่อมาก็เคลื่อนย้ายออกมาจากเมืองอีกครั้ง แล้วพับเสื้อคลุมสีขาวสะดุดตาตัวนั้น นำไปพันไว้กับหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง แล้วโยนลงไปในคูเมือง…

เธอปัดมือเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็เทพไม่รู้ผีไม่เห็น[1]แล้ว แค่รู้สึกเสียดายเสื้อคลุมที่งดงามตัวนี้อยู่บ้าง…

แต่พรุ่งนี้ยังต้องแสดงละครฉากใหญ่ เธอควรกลับไปพักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจได้แล้ว

ในยามดึก มู่เหลยและคนอื่นๆ ค้นหาบริเวณรอบๆ ภูเขา ในระยะ 20 ลี้ไปหนึ่งรอบแล้ว อย่าว่าแต่เด็กที่สวมเสื้อคลุมของนายท่านเลย แม้แต่กระต่ายป่าพวกเขาก็ยังเจอไม่ถึงสองตัว!

อีกทั้งพวกเขาก็ไม่รู้ว่ากลิ่นอายของเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร จึงใช้สุนัขล่าสัตว์ทำการดมกลิ่นค้นหาไม่ได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version