บทที่ 1124 ใครมุ่งร้ายใคร 5
ในเวลาเดียวกันทั้งสองก็ได้ยินเสียงอุทานด้วยความตกใจแว่วมาจากอาคารฝั่งตรงข้าม กู้ซีจิ่วใจหายวาบ หันไปมองทันที ลอบสูดลมหายใจเยียบเย็นเข้าไปเฮือกหนึ่ง!
ในห้องนั้นของอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในทันใด
กู้ซีจิ่วตัวปลอมคนนั้นไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงนั่งไม่อยู่ไปชั่วขณะหนึ่ง ล้มลงไปด้านหน้าเสียงดังตุบ ตี้ฝูอีที่อยู่ข้างๆ นางย่อมยื่นมือไปช่วยพยุง กู้ซีจิ่วตัวปลอมโผใส่อ้อมอกเขา และฉวยโอกาสแทงมีดสั้นเล่มหนึ่งใส่ร่างของอิงเหยียนนั่ว!
โลหิตทะลักออกมา อิงเหยียนนั่วส่ายโงนเงน ผลักกู้ซีจิ่วตัวปลอมที่อยู่ในอ้อมอกออก “เจ้า…”
ลูกน้องทั้งสองของอิงเหยียนนั่วน่าจะถูกสั่งให้ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ยามนี้เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เสียงตะโกนโกรธเกรี้ยว ทั้งคู่ก็พุ่งกลับไป เพียงแต่ยังไม่ทันได้พุ่งเข้าไปในห้อง ก็ถูกพนักงานสี่คนขัดขวางไว้…
วรยุทธ์ของสี่คนนี้ล้วนไม่ต่ำต้อยเลย สกัดมู่อวิ๋นกับมู่เหล่ยไว้ตรงนั้นได้ สองคนนี้ฝ่าไปไม่ได้ชั่วขณะ
ส่วนอิงเหยียนนั่วที่อยู่ในห้องก็ประหลาดใจจริงๆ ถึงแม้เขาจะตกใจยิ่งนักที่ถูกแทง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ที่มีปฏิกิริยาว่องไวคนหนึ่ง ถอยหลังไปทันที ยกมือขึ้นคล้ายจะทำอะไร ทันใดนั้นในแจกันดอกไม้ที่อยู่ตรงมุมผนังด้านหลังเขาก็มีควันสีเขียวสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา เงาสีเขียวสายนั้นก่อตัวเป็นร่างคนผู้หนึ่งในชั่วพริบตา เป็นโม่เจ้า เขาชูมือคราหนึ่ง ลำแสงห้าสีสายหนึ่งเข้าปกคลุมอิงเหยียนนั่ว ร่างกายอิงเหยียนนั่วส่ายโงนเงนล้มลงไปแล้ว ใบหน้าที่เดิมทีขาวซีดปรากฏสีเขียวคลํ้าขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าถูกพิษแล้ว…
“เจ้า…” อิงเหยียนนั่วเงยหน้าถามกู้ซีจิ่วตัวปลอม แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
กู้ซีจิ่วตัวปลอมเม้มปากแน่นถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หยาดโลหิตหยดหนึ่งย้อยลงมาจากปลายมีดของนาง เรือนกายของโม่เจ้าไหววูบปลายนิ้วรับหยาดโลหิตหยดนั้นไว้ จรดจมูกดมคราหนึ่ง ยิ้มออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาจดจำกลิ่นโลหิตได้ เขาก้มตัวมองอิงเหยียนนั่ว “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย สบายดีหรือไม่?”
อิงเหยียนนั่วเบิกตาเล็กน้อย “หรงเช่อ?”
โม่เจ้ายิ้มนิดๆ “คาดไม่ถึงว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ มองออกด้วยว่าเป็นข้า…เพียงแต่หรงเช่อเป็นเพียงร่างอวตารของข้า มิใช่ร่างจริงของข้า เห็นแก่ที่เจ้ากำลังจะตายแล้วข้าจะบอกเจ้าก็ได้ ข้าคือมารสวรรค์นามว่าโม่เจ้า จำได้หรือไม่?”
สายตาของอิงเหยียนนั่วหันเหไปที่กู้ซีจิ่วตัวปลอม “นางเป็นตัวปลอมสินะ?! เป็นคนของพวกเจ้าใช่หรือไม่?! เป็นนางใช่ไหมที่เผยฐานะของข้า?”
โม่เจ้าถอนหายใจ “มิผิด ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายช่างเฉลียวฉลาดยิ่งนักโดยแท้ แต่จะบอกว่านางเป็นตัวปลอมก็ไม่ได้ เพราะอย่างไรนี้ร่างนี้ก็เป็นสังขารของนางจริงๆ เพียงแต่ดวงวิญญาณที่อยู่ด้านในมิใช่นาง…”
สีหน้าอิงเหยียนนั่วเขียวคลํ้าขึ้นเรื่อยๆ ทว่ายังคงฝืนทนดิ้นรนถามอีกประโยคหนึ่ง “เช่นนั้นนางตัวจริงอยู่ที่ไหน?”
“อย่าได้กังวล เจ้าจะได้พบนางแน่” โม่เจ้ายิ้มน้อยๆ นํ้าเสียงยังคงอ่อนโยนยิ่งนัก
….
เดิมทีกู้ซีจิ่วคิดว่าจะเกิดสงครามนองเลือดขึ้นสักฉาก กลับนึกไม่ถึงว่าจะจบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ ‘ตี้ฝูอี’ ที่อยู่ในภัตตาคารปล่อยให้ ‘กู้ซีจิ่ว’ แทงจนบาดเจ็บสาหัสเจียนจะสิ้นชีพ ถูกโม่เจ้าจับตัวได้แบบเป็นๆ ตี้ฝูอีคล้ายว่าไม่ได้จัดวางคนเลย และไม่ได้วางหลุมพรางใดไว้ เสมือนเนื้อที่ส่งตัวเองมาให้ถึงหน้าประตู ถูกโม่เจ้าจับกุมได้ในคราวเดียว
เดิมทีโม่เจ้าพาคนมากว่าหนึ่งร้อยคน วางแผนอย่างดีทีละขั้นว่าจะรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ นานาอย่างไร ถึงขั้นที่วางแผนไว้อย่างดีว่าหากนี่เป็นหลุมพรางของเขา เขาจะพาคนล่าถอยไปอย่างไร แม้แต่ภูมิประเทศในละแวกนี้ก็ศึกษาจนกระจ่างหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่าเขาที่ราวกับ กรีธาไพร่พลนับพันนับหมื่นมาออกศึกถึงหน้าประตู ผลคือพบว่าศัตรูไม่ได้ตระเตรียมหลุมพรางอันใดไว้เลยจริงๆ ข้างกายก็มีลูกน้องแค่สองคน…
เขารู้สึกเหมือนถูกหยอกล้อเล็กน้อย ยังคงไม่อยากเชื่ออยู่บ้าง