บทที่ 1133 เจ้าฝันเฟื่องไม่ยอมตื่นหรือ?
“เช่นนี้แล้วกัน เจ้าปล่อยนาง แล้วให้ข้าไปเป็นตัวประกันของเจ้าเป็นอย่างไร?”
“ไม่ได้!” มู่อวิ๋นกับมู่เหลยต่างโพล่งออกมา สีหน้าท่าทางตื่นตระหนก “ไม่ได้เด็ดขาด! นายท่าน พวกข้ายินยอมเป็นตัวประกันของเขาเพื่อแลกแม่นางกู้กลับคืนมา!”
เทียนจี้เยวี่ยขมวดคิ้ว “ตี้ฝูอี เจ้าอย่าวู่วาม! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก มิอาจให้เจ้าตัดสินใจเองได้!”
กู่ฉานโม่ก้าวมาด้านหน้า “คนชราอย่างข้ายอมเสียสละตัวเองเป็นตัวประกัน! แต่จะให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นตัวประกันไม่ได้เด็ดขาด!”
แผ่นดินนี้ถึงแม้เคารพเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นหลัก ทว่าผู้ที่แบกรับภาระเมื่อเกิดปัญหา คอยปัดเป่าทุกข์ยากให้แก่ปวงชน อีกทั้งวางแผนการทั้งหมดกลับเป็นตี้ฝูอีมาโดยตลอด
โม่เจ้าผู้นี้เกลียดเขาเข้ากระดูกดำ หากเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของโม่เจ้า ก็เป็นสถานการณ์เป็นตายโดยแท้!
ทุกคนต่างพากันคัดค้าน
กู่ฉานโม่กล่าวอย่างอดไม่ได้ “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านอย่ายอมถูกเขาข่มขู่ ตอนนี้เขากำลังตกเป็นรองอย่างสิ้นเชิง ไม่กล้าทำอะไรกู้ซีจิ่วจริงๆ หรอก เขารู้ว่าท่านไม่กล้าเดิมพัน…”
ตี้ฝูอีทอดถอนใจเบาๆ “ข้าไม่กล้าเดิมพันจริง และไม่คิดจะเอาชีวิตของนางมาเดิมพัน!”
กู่ฉานโม่กล่าวไม่ออก
ตี้ฝูอีมองไปทางโม่เจ้าพลางเอ่ยเบาๆ “ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้าได้เพียงเท่านี้ หากเจ้ายังไม่ยินยอม เช่นนั้นพวกข้าคงทำได้แค่เพียงสู้จนตกตายไปด้วยกัน…”
เขามองไปที่กู้ซีจิ่ว โม่เจ้าคงเกรงว่ากู้ซีจิ่วจะหาโอกาสต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ดังนั้นจึงทำให้กู้ซีจิ่วสติพร่าเลือนไปแล้ว
ยามนี้นางถูกโม่เจ้าจับไว้ราวกับเป็นหุ่นกระบอก ถึงแม้ดวงตาเบิกกว้าง แต่กลับไม่มีจิตวิญญาณใดๆ เห็นได้ชัดว่าไม่มีสติสัมปชัญญะ
เขายกมือขึ้นข้างหนึ่ง นิ้วมือทำมุทรา กล่าวต่อว่า “หากข้าช่วยชีวิตนางไม่ได้จริงๆ ข้าจะปลิดชีวิตนางก่อนที่เจ้าจะได้ทรมานนาง!”
เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ โม่เจ้าทำได้เพียงแค่ตอบรับ ทว่าเขาเพิ่มเงื่อนไขขึ้นมาอีกสองข้อ หนึ่งคือปล่อยคนของเขาทั้งหมด สองคือเขาจะไม่ปล่อยตัว กู้ซีจิ่วแต่สัญญาว่าจะไม่ทำร้ายนางอีกเด็ดขาด สามารถให้คำสัตย์สาบานได้
ตี้ฝูอียอมรับเงื่อนไขทั้งสองข้อนี้ของเขา ทว่าตี้ฝูอีจะเป็นคนกำหนดคำสาบานเอง
สิ่งที่ให้เขาสาบานก็คือ ‘ในชาตินี้ชีวิตนี้จะไม่มีทางทำร้ายกู้ซีจิ่วอีก หากกระทำเมื่อใดจะได้รับโทษทัณฑ์จากสวรรค์ ใช้ชีวิตทั้งชาติท่ามกลางเพลิงนรก ไม่อาจหลุดพ้นชั่วกัปชั่วกัลป์’
ผู้คนในทวีปนี้ไม่ได้สาบานกันโดยง่าย หากผิดคำสาบานก็ต้องได้รับโทษ ไม่มีการลดหย่อนผ่อนให้แม้เพียงน้อย
โม่เจ้าชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่ายังคงเอ่ยคำสาบานที่เลวร้ายเช่นนี้ภายใต้เงื่อนไขที่ตี้ฝูอีกล่าวมาก่อนหน้า…
……
แสงไฟภายในวังใต้พิภพสว่างไสวตลอดทั้งปี หลอดไฟเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะมีในยุคสมัยนี้ อีกทั้งยังเป็นหลอดไฟประหยัดพลังงาน
การมาถึงวังใต้พิภพนี้ราวกับการเข้าสู่ฐานทดลองที่ทันสมัย ตี้ฝูอีเห็นอะไรก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ทั้งนั้น
เพื่อความปลอดภัย โม่เจ้าให้ตี้ฝูอีกลืนกินโอสถพิษกว่าเจ็ดถึงแปดชนิด อีกทั้งยังกดจุดเขาอีกสิบกว่าจุด ซํ้ายังใช้มีดแทงไปหนึ่งแผล!
แน่นอน ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการให้ตี้ฝูอีตาย ดังนั้นมีดที่แทงเข้าไปจึงไม่อันตรายถึงชีวิต เพียงแต่แทงไปที่จุดชี่ไห่[1] ทำให้เขาไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ อย่าว่าแต่ตี้ฝูอีคิดเล่นตุกติกอะไรภายในวังใต้พิภพของเขา แค่แม้แต่จะเดินยังลำบากเลย
เขาส่งลูกน้องสองคนไปช่วยตี้ฝูอีลงจากเรือเหินอักคี เดิมทีเขาสั่งการลูกน้องสองคนนั้นให้ลากตัวตี้ฝูอีไป ทว่าตี้ฝูอีคนนี้เจ้าอารมณ์ยิ่งนัก เขารักสะอาด ไม่ต้องการให้ใครมาลากเขา ถึงขั้นต้องการจะกระโดดลงสระลาวาอย่างเด็ดขาด…
ไม่รู้ว่าร่างกายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้เป็นอย่างไร กดจุดอวินซุ่ย[2]ก็ไม่สลบ ยังมั่นคงโดยตลอด ทั้งที่สูญเสียพลังวิญญาณทั้งหมดไป แต่กลับยังสามารถใช้วิชาหยั่งรากได้ เมื่อต้องลากตัวเขาที่หนักอึ้งเช่นภูผาทั้งลูก ข้ารับใช้ทั้งสองของวังใต้พิภพจึงสิ้นเปลืองพละกำลังมากกว่าปกติ