Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1170

บทที่ 1170 วายร้ายตัวน้อยผู้ดื้อดึง!

กู้ซีจิ่วที่เป็นนักฆ่าเยือกเย็น ขี้สงสัย โหดเหี้ยม ทว่าเธอที่สูญเสียความทรงจำประหนึ่งผ้าขาวผืนหนึ่ง ถึงแม้จะมีนิสัยตรงไปตรงมา แต่เห็นได้ชัดว่ายังไร้เดียงสา บุ่มบ่ามไปบ้าง ทำสิ่งใดไม่อ้อมค้อม ดังนั้นเรื่องบางเรื่องตี้ฝูอีจึงบอกเธอไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจโดนโม่เจ้าใช้วาจาหว่านล้อมได้อย่างง่ายดาย…

ในที่สุดของที่สุด กู้ซีจิ่วก็ย่างปลาตัวหนึ่งให้ตี้ฝูอี ส่วนต้ม ผัด แกง ทอดอะไรนั่นไม่มีอีกแล้ว

ตี้ฝูอีนิ่งอึ้ง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำสิ่งใดให้นางไม่พอใจ เพียงแต่รู้ว่าท่าทีที่นางมีต่อเขาเย็นชากว่าเดิม

ความจริงแล้วตี้ฝูอีไม่ได้สนใจการกินปลาสักเท่าใด สิ่งที่เขาร้อนรนใจมากที่สุดคือช่วยนางตามหาความทรงจำกลับคืน ดังนั้นหลังจากที่กินปลาย่างตัวนั้นเรียบร้อย เขาเร่งเร้าให้นางลุกขึ้นไปค้นหาความทรงจำด้วยกันต่อ คาดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วกลับไม่สนใจแล้ว “ข้าไม่อยากตามหาความทรงจำอะไรนั่นอีก ข้าว่าข้าที่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว! เจ้าไปเสียเถิด! ไม่ต้องเข้ามาในความฝันของข้าอีกต่อไป!”

เพิ่งกล่าวประโยคนี้ไม่ทันไร ด้านหน้าของตี้ฝูอีพลันดำมืด เขาถูกส่งออกจากห้วงความฝันของนาง…

บนโต๊ะมีโคมไฟสลัว ตี้ฝูอียืนอยู่หน้าเตียงกู้ซีจิ่ว จ้องมองใบหน้ายามหลับใหลของนาง ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกขับไล่ออกมาเช่นนี้!

เขากระชับนิ้วมือแน่น ทั้งที่หากวันนี้เขาเพียรพยายามอีกสักเล็กน้อย ก็จะสามารถปลดพันธนาการที่ปิดกั้นความทรงจำในห้วงความฝันของนาง และนางก็จะกลับคืนสู่ร่างกายเดิมได้อย่างราบรื่น คาดไม่ถึง…

เขาไม่ยอมแพ้ นิ้วมือทำมุทราเล็กน้อย ปรารถนาจะกลับเข้าไปในห้วงความฝันของนางอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าร่างกายของเขาเพิ่งเข้าใกล้นางก็ถูกดีดกลับออกมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าจิตใต้สำนึกของนางปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าไปอีกครั้ง…

แท้จริงแล้วจิตใต้สำนึกของนางแข็งแกร่งมาก หากไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้าไป ต่อให้เป็นตี้ฝูอีก็ไม่มีทางเข้าไปได้ วายร้ายตัวน้อยผู้ดื้อดึงนี่!

ตี้ฝูอีอยากจับนางมาตีสั่งสอนเสียให้เข็ดหลาบ นิ้วมือเขากระชับเบาๆ ขณะกำลังจะทำบางสิ่ง เขาสังเกตเห็นบางอย่าง เงาร่างพลันหายวับไป

กู้ซีจิ่วในห้วงความฝันยืนอยู่ที่เดิมดังกล้องสลับลาย เห็นตี้ฝูอีหายสาบสูญไปในพริบตาแล้วก็หลับตาลง ความฝันของเธอ เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ต้องมีผู้ใดมาควบคุม!

เธอสูดลมหายใจเบาๆ มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง ทิศทางนั้นเป็นสถานที่ที่มีสีสันแพรวพราวที่สุด อีกทั้งยังชัดเจนและอบอุ่นที่สุด ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของเธอได้อย่างน่าประหลาด อีกไม่นานก็จะได้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่าตรงนั้นมีอะไรกันแน่ ทันใดนั้นกำแพงแนวหนึ่งปรากฏเบื้องหน้า เฉกเช่นครั้งที่แล้ว สูงเสียดฟ้าตํ่าจรดดิน ต่อให้เธอติดปีกคู่หนึ่งก็ไม่อาจบินข้ามไปได้ คราวที่แล้วเธอก็เหมือนจะมาได้ถึงตรงนี้ ขณะกำลังทำลายเขตแดนก็ถูกปลุกให้ตื่น…

คราวนี้เธอจะไม่เป็นเช่นนั้น!

เธอจะผ่านมัน ไปให้ได้!

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องฝ่าเข้าไป!

หากข้ามผ่านตรงนี้ไปไม่ได้เธอจะไม่ตื่น เธอไม่อยากทนทุกข์ทรมานอยู่ในที่แบบนี้อีกแล้ว!!

เธอเริ่มโจมตีกำแพงที่ประหลาดนั้น กำแพงนี้ไม่ได้แข็งแรงทนทานธรรมดา ความหนาราวกับหล่อด้วยเหล็กกล้า เธอพยายามทุกวิถีทางก็ไม่อาจหาช่องทางด้านบนที่ออกไปได้ เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยล้าผิดปกติ เธอรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยจวนจะกระอักเลือด กำแพงนั้นสูงตระหง่านประหนึ่งระเบิดลูกหนึ่งก็ไม่อาจระเบิดทลายได้…

สิ่งที่เธอไม่อาจรับรู้ได้ก็คือ ถึงแม้เธอเหนื่อยล้าจะเป็นจะตาย แต่พละกำลังที่ปลดปล่อยออกมากลับมากขึ้นเรื่อยๆ แสงสีขาวจางๆ ปรากฏขึ้นรอบกายเธอ ภายใต้แสงสีขาวนั้นมีเจ็ดสีเรืองรองอยู่รางๆ…

เธอก็ไม่รู้ว่าพยายามมานานเท่าไรแล้ว เพิ่งจะรู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม แสงหลากสีสายหนึ่งพลันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา!

และในพริบตานั้น กำแพงที่มั่นคงจนมิอาจทำลายล้างได้เบื้องหน้าก็พังทลายเสียงดังกึกก้อง ตัวเธอโน้มลงพุ่งเข้าไปในกำแพงนั้น ภาพฉากนับไม่ถ้วนซัดถาโถมเข้ามาที่ตัวเธอราวกับเกลียวคลื่น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version