บทที่ 1169 คราวนี้เขาคิดเลยเถิดไปไกลแล้ว!
ตี้ฝูอีนิ่งอึ้ง เอาเถิด คราวนี้เขาคิดเลยเถิดไปไกลแล้ว!
กู้ซีจิ่วฉลาดเฉลียวยิ่งนัก หากนางควบคุมความฝันได้ นั่นคือปรารถนาสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะปรากฏออกมาจริงๆ นางตกปลากะพงในทะเลสาบแห่งนี้ได้ ตระเตรียมอยู่ตรงนั้นอย่างดีอกดีใจ “ชอบรสปลากะพงที่สุดเลย เจ้าอยากกินแบบตุ๋นหรือแบบย่าง?”
ตี้ฝูอีเข้าใจดี เนื่องจากครั้งที่แล้ว กู้ซีจิ่วไม่ได้ให้เขากินปลา ในใจยังคงรู้สึกผิด ดังนั้นครั้งนี้จึงอยากชดเชยให้เขา เขาอบอุ่นในหัวใจ นั่งลงข้างกายนาง ดวงตาวาบไหวจ้องมองคันเบ็ดของนาง “ตกมาหลายตัวหน่อย ทั้งตุ๋น ทั้งย่าง ทั้งทอด…”
คนผู้นี้ช่างละโมบเสียจริง!
ทว่ากลับไม่น่ารังเกียจ
กู้ซีจิ่วเป็นมือหนึ่งเรื่องการตกปลา เพียงครู่เดียวก็ตกปลาได้อีกตัว จากนั้นจึงโยนให้ตี้ฝูอี “เจ้ารับผิดชอบจัดการ”
ตี้ฝูอีไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด ย่อตัวลงนั่ง เริ่มต้นชำแหละปลา
กู้ซีจิ่วยังตกปลาต่อไป ทั้งสองคนแบ่งงานช่วยเหลือกัน เข้าขาอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อกู้ซีจิ่วตกปลาขึ้นมาสามตัว ปลาของตี้ฝูอีก็ถูกชำแหละเรียบร้อยแล้ว รอดูว่านางจะย่างหรือทอด
กู้ซีจิ่วจิตใจเหม่อลอย พลันรู้สึกว่าคนสองคนความสัมพันธ์เรียบง่ายเช่นนี้ช่างอบอุ่นหัวใจกันประหนึ่งคู่สามีภรรยาธรรมดา ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายทำนองนั้น น่าพึงพอใจและสบายใจยิ่ง จนถึงขั้นยังตื้นตันใจด้วย ความรู้สึกเจ็บแปลบอย่างประหลาดก่อตัวขึ้น เธอรู้สึกหวาดกลัวพิธีวิวาห์ในวันพรุ่งนี้ขึ้นมาในบัดดล…
ในส่วนของพิธีวิวาห์วันพรุ่งนี้ ความจริงแล้วส่วนลึกในใจเธอคัดค้านมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกชอบโม่เจ้ามาก แต่กลับหวาดกลัวอย่างมิอาจบรรยายได้ เหตุที่เธอตกลงก็เพราะโม่เจ้าไม่เว้นที่ว่างให้เธอปฏิเสธได้เลย และเธอก็เคยชินกับการเชื่อฟังคำพูดของเขา เธอเหม่อลอยไปชั่วขณะ ไม่ทันระวังโดนก้างปลาทิ่มเข้าไปค่อนข้างลึก หยดโลหิตพลันไหลออกมา
“เหตุใดถึงไม่ระวังขนาดนี้?” ตี้ฝูอีคว้ามือนางมาทันที เมื่อเห็นหยาดโลหิตไหล เขาดูดนิ้วมือนางซับเลือดให้ด้วยปาก หัวใจของกู้ซีจิ่วเต้นระรัว!
นิ้วมือที่ถูกสัมผัสนั้นมีความรู้สึกไวผิดปกติ เปียกชื้น อบอุ่น ความรู้สึกซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูกส่งผ่านมาที่ปลายนิ้วเป็นระลอก ทำให้หัวใจของเธอเต้นตึกตัก เธอรีบดึงมือตัวเองกลับมา “เจ้า…”
ตี้ฝูอีกลับไม่ได้สนใจ อธิบายให้นางฟัง “ในห้วงแห่งความฝัน หากบาดเจ็บจะไม่สามารถใช้ยารักษาได้ หากใช้ก็ไม่มีประโยชน์ ข้าดูดสักประเดี๋ยว บาดแผลเจ้าก็หายแล้ว ไม่เชื่อเจ้าดูเอาเอง”
เมื่อกู้ซีจิ่วก้มหน้าลงมอง บาดแผลที่นิ้วมือของเธอหายไปแล้ว ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนตอนแรก คาดไม่ถึงว่าการดูดซับด้วยปากของเขามีสรรพคุณเช่นนี้…
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตัวเองรู้บางอย่างเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ดวงตาเธอวาบไหวมองตี้ฝูอี “เจ้า…เจ้าไม่ได้เป็นคนรักสะอาดมาตลอดหรือ? เช่นนี้เจ้าไม่รังเกียจว่ามันสกปรกรึ? ข้าเพิ่งหยิบฟืนมาด้วย…”
ตี้ฝูอีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เหตุใดเจ้าถึงรู้ว่าข้ารักสะอาด?”
กู้ซีจิ่วกล่าวอันใดไม่ออก ทว่าจิตใต้สำนึกของเธอบอกว่ารู้…
สายตาตี้ฝูอีพลันวูบไหว “เจ้านึกอะไรบางอย่างออกใช่หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ไม่ใช่”
เธอไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นดวงตาที่หมองหม่นลงในทันใดของเขา
“คนที่เจ้าชอบคือข้าคนที่มีสิ่งที่เรียกว่าความทรงจำนั่นใช่ไหม? ข้าในตอนนั้นมีลักษณะเช่นไร?”
ตี้ฝูอีไม่ทันสังเกตท่าทีของนาง จึงเอ่ยปากบอกเล่านิสัย และอารมณ์ของนางในตอนนั้น
กู้ซีจิ่วไม่พูดอันใดแล้ว
ความจริงรูปแบบินสัยของคนคนหนึ่งกับสิ่งแวดล้อมที่เติบโตขึ้นมามีความสัมพันธ์กันมาก เหมือนวิญญาณดวงหนึ่งกลับชาติมาเกิดก็มิใช่ว่าลักษณะนิสัยของทุกชาติจะเหมือนกันเสมอไป เธอที่สูญเสียความทรงจำกับคนก่อนหน้าย่อมแตกต่างกันอย่างยิ่ง
กู้ซีจิ่วที่เป็นนักฆ่าเยือกเย็น ขี้สงสัย และโหดเหี้ยม