Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 188

บทที่ 188

เด็กน้อย เจ้าทำปลาข้าตกใจจนหนีไปแล้ว

ตี้ฝูอี มองนางอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาวูบไหวเล็กน้อย

จะว่าไปแล้วคนที่น่าสนใจจนทำให้เขาอยากปั่นหัวเล่นมีอยู่ไม่มาก ทุกคนล้วนเป็นบุคคลโดดเด่นของโลกใบนี้

หลังจากคนเหล่านี้ถูกเขาแกล้ง ปฏิกิริยาก็แตกต่างกันไป

หากคนเหล่านั้นเผชิญสถานการณ์เช่นเดียวกันกับกู้ซีจิ่ว บ้างก็ไม่คำนึงถึงสิ่งใด ต่อสู้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างยอมแพ้เขา ตรงๆ บ้างหายตัวหลายครั้ง บ้างก็ร้องไห้คร่ำครวญดั่งดอกสาลี่ต้องสายฝน…

ที่จริงแล้วในใจของเขาคิดคำนวณปฏิกิริยาโต้ตอบที่เธออาจมีเอาไว้มากมาย เพึยงแต่ไม่ได้นึกถึงรูปแบบนี้ไว้

นางไม่มีอาการโกรธเกรี้ยวจนใบหน้างดงามแดงก่ำ และไม่ได้ ร้องไห้ แถมยังสงบเยือกเย็นไม่แยแสเขาเลย!

นางไม่ได้แกล้งทำเป็นสงบนิ่ง มิฉะนั้นหัวใจนางจะเต้นเร็วขึ้น อัตราการไหลเวียนโลหิตก็จะมากขึ้นด้วย…

แต่ไม่ว่าจะเป็นจังหวะหัวใจหรือการไหลเวียนของโลหิตล้วนเป็นปกติ ไม่มีอะไรผิดแผกไป

เวลาค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ หมู่ดาราบนขอบฟ้าทอแสงขึ้นมาแล้ว ดวงจันทร์เสี้ยวที่แหว่งเว้าเล็กน้อยแขวนอยู่ตรงนั้น ดวงดาราสุกสกาว พร่างพราวเต็มผืนฟ้า

แสงดาวส่องสะท้อนทะเลสาบ ระยิบระยับวับวาวดุจเศษเพชร

กู้ซีจิ่วนั่งสมาธิอยู่ในนํ้ามาหนึ่งชั่วยามแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบเธอ ไม่ได้ลืมตาขึ้นเลย เธอถึงขั้นเข้าสู่สภาวะจิตใจว่างเปล่าหลงลืมตัวตน ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

ริมฝีปากสีแดงระเรื่อของตี้ฝูอีเผยอเล็กน้อย หากแข่งเรื่องความอดทน คงไม่มีใครแข่งกับเขาได้…

ไม่รู้ว่าเขาหยิบเบ็ดไม้ไผ่คันหนึ่งออกมาจากที่ใด นั่งตกปลาอยู่ตรงนั้น

ปลาในทะเลสาบแห่งนี้เย่อหยิ่งนัก ตี้ฝูอีนั่งตกอยู่ตรงนั้นตั้งนานก็ยังตกขึ้นมาไม่ได้สักตัว

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีปลาสักตัวมาติดเบ็ด เขายกมือขึ้น กำลังจะยกปลาขึ้นมา ไม่ทันได้ระวังว่ากู้ซีจิ่วที่กำลังนั่งสมาธิอยู่กลับตื่นขึ้นกะทันหัน เธอขยับตัวทันที เกิดเสียงน้ำดังจ๋อม เสียงไม่ดังมาก แต่ก็ เพียงพอจะทำให้ปลาตัวนั้นตกใจจนหนีไป…

ตี้ฝูอีเห็นท่าไม่ดีจึงยกคันเบ็ดขึ้นทันที แต่จะทำอย่างไรได้ ปลาตัวนั้นหนีหายวับไปแล้ว เหลือเพียงรอยน้ำกระเซ็นและเงาหางปลาตัวหนึ่งไว้ให้เขา

ตี้ฝูอีนิ่งงัน

“เด็กน้อย เจ้าทำปลาข้าตกใจจนหนีไปแล้ว!” น้ำเสียงของเขาอึมครึม

กู้ซีจิ่วยื่นมือน้อยๆ ไปหาเขา “ข้าจะตกมาคืนท่านหนึ่งตัว”

“ปลาที่นี่ตกไม่ได้ง่ายๆ ข้ายังตกขึ้นไม่ได้แล้วเจ้าจะทำได้หรือ?”

กู้ซีจิ่วตอบ “ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?”

ชาติก่อนเธอเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันตกปลาเชียวนะ!

ตี้ฝูอี ยิ้ม ส่งคันเบ็ดให้เธอ “เด็กน้อย เจ้าลองเถิด”

คันเบ็ดไม้ไผ่นั้นเป็นสีเขียวมรกต สดใหม่จนคั้นน้ำได้ กู้ซีจิ่วชูสองนิ้วให้เขา “ข้ามีเงื้อนไขสองข้อ”

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “เงื่อนไขของเจ้าคงไม่แคล้วให้ข้าปล่อยเจ้าไปใช่ไหม?”

“ไม่ใช่” กู้ซีจิ่วส่ายศีรษะ

“โอ้ เช่นนั้นเจ้าลองพูดมาสิ”

“ข้อแรก ข้าจะขึ้นไปตกบนฝั่ง ข้อสอง เปลี่ยนสีคันเบ็ดนี่”

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้ขึ้นฝั่งแล้ว เนื้อตัวเธอมีหยดนํ้าเกาะพราว แช่อยู่ในทะเสสาบนานขนาดนี้ ผิวหนังเธอเปื่อยย่นไปหมดแล้ว!

เมื่อเข้าสู่ยามราตรี ริมทะะเสสาบค่อนข้างหนาวเย็น แถมเธอยังเปียกปอนไปทั้งตัว เพิ่งจะขึ้นฝั่งก็จามออกมา!

เธอเสยผมเปียกชุ่มเล็กน้อย กู้ซีจิ่วเจรจากับตี้ฝูอีที่นั่งอยู่บนฝั่งด้วยกัน “ข้าต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดนี้เปียกเกินไป ทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ ส่งผลกระต่อความสามารถปกติของข้า”

“จะไปเปลี่ยนที่ไหน?” ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว

“ตรงนั้น” กู้ซีจิ่วชี้จุดที่อยู่ไม่ไกล ที่นั่นมีกองโขดหินล้อมรอบสี่ทิศ ทั้งกันลมทั้งมิดชิด

“ไม่ได้ ที่นั่นสะดวกให้เจ้าหนีเกินไป ข้าขี้เกียจไล่ตามแล้ว” ตี้ฝูอี ปฏิเสธ

กู้ซีจิ่วลอบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เธอขอให้เขามาไล่ตามหรือไงเล่า? เป็นเขาที่ตามจองเวรไม่เลิกรามิใช่หรือ?!

เธอสูดลมหายใจเบาๆ “จะให้ข้าเปลี่ยนที่นี่ก็มิได้กระมัง? ชายหญิง ไม่ควรใกล้ชิดกัน ถึงข้าจะยังเด็กแต่ก็เป็นเด็กผู้หญิง…”

ตี้ฝูอียิ้มคล้ายไม่ยิ้มมองดูเธออยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยนํ้าเสียงอ่อนโยน “อืม ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กผู้หญิง…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version