บทที่ 1215 ข้าเกือบจะมองเห็นเขาแล้วจริงๆ!
ตี้ฝูอีไม่ได้ลืมตา สุ้มเสียงอ่อนแรง “ซีจิ่ว ยามนี้ข้ายังบาดเจ็บอยู่ เจ้าทนเห็นข้าใช้วิชาต้องห้ามสลับร่างให้เจ้าได้หรือ?”
กู้ซีจิ่วบอก “…วิชาต้องห้าม? เป็นไปไม่ได้มั้ง? หลงซือเย่บอกว่าการสลับร่างไม่ต้องใช้พลังวิญญาณนี่”
“เจ้าเชื่อเขาหรือเชื่อข้า?”
กู้ซีจิ่วไม่พูดจาอันใดแล้ว
ทั้งสองต่างไม่มีใครพูดอะไรชั่วขณะ
หลังจากที่กู้ซีจิ่วทายาให้เขาเรียบร้อย จึงสงบจิตใจ อดไม่ได้ที่จะพูด “เจ้ามีอะไรปิดบังข้าหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ของพวกเรา ไม่ควรมีอะไรปิดบังกันอีกจริงๆ ข้าไม่อยากสงสัยในตัวเจ้า แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ปรารถนาให้สลับร่างคืนแม้แต่น้อย เจ้าหวาดระแวงอันใดหรือเปล่า?”
ตี้ฝูอีนิ่งเงียบครู่หนึ่งและไม่ได้ลืมตา “เจ้าคิดมากไปแล้ว ความจริงข้าเพียงไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าถึงยืนกรานที่จะสลับร่างเยี่ยงนี้ ข้าบอกแล้วความสามารถร่างนี้ของเจ้าดีกว่าคุณหนูจวนแม่ทัพนั่นอีก…”
“แต่ข้าชอบร่างนั้นนี่ ร่างนั้นมีกำไลคู่บุพเพ อีกอย่างตอนนี้ข้าไม่มีทางติดต่อกับเสี่ยวชางได้แล้ว…”
“เด็กโง่ มีกำไลคู่บุพเพหรือไม่ อย่างไรเจ้าก็เป็นภรรยาข้า เหตุใดต้องใส่ใจกับแค่กำไลวงเดียว? ส่วนปัญหาเรื่องการติดต่อของเจ้ากับหยกนภา เดี๋ยวข้าจะไปถามสาเหตุมัน หาวิธีให้มันติดต่อกับเจ้าในร่างนี้ได้”
กู้ซีจิ่วกล่าวอันใดไม่ออก ความหมายของเขาก็คือยังคงไม่อยากให้เธอสลับร่าง…
เธอไม่ยอมลดละ ยังเล่าที่หลงซือเย่พูดเรื่องความสอดคล้องด้านยีนส์พันธุกรรมของหลงฟั่นกับเธอออกมา
ตี้ฝูอีแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ จึงลองให้นางสัมผัสถึงตำแหน่งที่อยู่ของหลงฟั่น กู้ซีจิ่วอธิบาย “ก่อนหน้านี้ข้าเคยลองสัมผัสแล้วแต่สัมผัสไม่ถึงตัวเขา ไม่แน่อาจเป็นการสัมผัสได้เพียงทางเดียวก็ได้”
ถึงแม้จะอธิบายขนาดนี้แต่ท้ายที่สุดก็ตั้งใจสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอก ขณะที่ลืมตากลับรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ราวกับร่างกายอยู่ในสถานที่อันหนาวเหน็บยิ่งนัก รอบด้านล้วนเป็นนํ้าแข็งสีคราม และภายในนํ้าแข็งสีครามนั้นมีเงาร่างซ่อนอยู่ เธอพยายามมองดูทั้งตัวกลับร้อนผ่าวขึ้นมา เหมือนเธอถูกปลุกจากห้วงความฝัน ลืมตาขึ้นฉับพลัน “ข้าเกือบจะมองเห็นเขาแล้วจริงๆ!”
“อยู่ที่ไหน?”
“เหมือนอยู่บนทุ่งนํ้าแข็งหรือท้องทะเลอันเยือกเย็น เขาถูกแช่แข็งภายในนํ้าแข็ง…” กู้ซีจิ่วพยายามอธิบายสิ่งที่เธอ ‘มองเห็น’ ออกมาอย่างสุดกำลัง
ตี้ฝูอีพึมพำครู่หนึ่ง “สัญชาตญาณนี้ของเจ้ากำลังหลอนกระมัง?”
“หา?”
“เจ้าลองคิดดู ร่างโคลนนิ่งที่หลงซือเย่สร้างออกมาอยู่ภายในตำหนักนํ้าแข็ง ในวังใต้พิภพเจ้าก็ตื่นขึ้นมาในโลงผลึกแก้วอันหนาวเหน็บ เจ้ายังเห็นร่างโคลนนิ่งของโม่เจ้าถูกเก็บไว้ในโลงผลึกแก้วนํ้าแข็ง…บางทีนี่อาจทำให้เจ้าสร้างการตอบสนองภายใต้จิตสำนึกแบบมีเงื่อนไข คิดว่าเมื่อใดที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาจะต้องอยู่ในนํ้าแข็งอันหนาวเหน็บ และหากไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น หลงฟั่นไม่มีทางหลบหนีจากวังใต้พิภพและตายจากไป หากเขาต้องการฟื้นคืนชีพจำเป็นต้องฟื้นคืนชีพในร่างโคลนนิ่งอื่น ดังนั้นการตอบสนองภายใต้จิตสำนึกแบบมีเงื่อนไขของเจ้าเป็นเยี่ยงนี้ก็ไม่แปลกอันใด”
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง เธอขมวดคิ้ว ‘เป็นเช่นนี้หรอกหรือ?’
คำพูดนี้ของตี้ฝูอีฟังดูสมเหตุสมผล…
เธอหลุบตาลง สัมผัสถึงฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจสัมผัสได้แล้ว
……
ทวีปหลานเฟิงมีความคล้ายคลึงกับทวีปแอนตาร์กติกาในยุคปัจจุบัน เป็นดินแดนที่เกิดจากนํ้าแข็ง มีพายุหิมะตลอดทั้งปี ปกคลุมด้วยภูเขานํ้าแข็งและยอดเขานํ้าแข็งเป็นทิวแถว อุณหภูมิตลอดทั้งปีตํ่ากว่าลบสี่สิบถึงห้าสิบองศา ไร้ซึ่งร่องรอยมนุษย์ เวิ้งว้างหาที่เปรียบไม่ได้ นอกจากผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนํ้าที่เดินทางมาเป็นครั้งคราวเพื่อพัฒนาการฝึกฝนของตัวเองแล้วโดยปกติจะไม่มีผู้ใดเข้ามา