Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 750

บทที่ 750 มีวูบหนึ่งที่อยากเตะเจ้าคนผู้นี้ให้กระเด็น

ฝีเท้าหลงซือเย่หยุดชะงัก มองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แม้แต่เสียงทักทายก็ไม่มี หันหลังรีบก้าวออกไป

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

ปากเธออ้า ออกนิดๆ ในใจใคร่ครวญว่าต้องตามไปบอกเรื่องที่เธอสลับร่างกับตี้ฝูอีให้หลงซือเย่ทราบหรือไม่…

เท้าเธอเพิ่งจะขยับ ประตูห้องพลันเปิดออก สาวน้อยนางหนึ่งยืนขวางประตูอยู่ ดวงตาคู่นั้นมองมาที่เธอ มุมปากยิ้มมิเชิงยิ้ม เอ่ยทักทายเธอด้วยนํ้าเสียงใสกระจ่าง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

สาวน้อยผู้นั้นคือร่างของ…กู้ซีจิ่ว

เป็นครั้งแรกที่กู้ซีจิ่วได้ยืนพินิจร่างกายตัวเองจากมุมมองของคนนอก มองเห็นร่างของตนเอ่ยทักทายตน เธอรู้สึกปวดประสาทเหลือเกิน…

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ สาวเท้าเข้าไปด้านใน “พวกเรามาคุยกันหน่อย!”

เธอต้องรู้ให้ได้ว่าสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น!

หลานไว่หูก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วเข้ามา จึงทำความเคารพเธอก่อน “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”

กู้ซีจิ่วเจ็บปวดนัก แต่กยังโบกมือให้นางลุกขึ้น กล่าวกับหลานไว่หูอย่างอ่อนโยน “จิ้งจอกน้อย เจ้าออกไปก่อน ข้า…ตัวข้ามีเรื่องต้องคุยกับแม่นางกู้”

เรื่องนี้ประหลาดและน่าเหลือเชื่อเกินไป ด้วยลางสังหรณ์ของกู้ซีจิ่วจึงไม่อยากให้มีคนรู้มากนัก เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เสียงนี้ของเธอทำให้หลานไว่หูเบิกตากว้างมองเธออย่างยากจะอธิบาย

จิ้งจอกน้อยชื่อเล่นนี้มีเพียงคนที่สนิทชิดเชื้อกันถึงจะเรียกขานนางเช่นนี้ อย่างเช่นกู้ซีจิ่ว เชียนหลิงอวี่ เยี่ยนเฉิน…

นึกไม่ถึงว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็จะเรียกขานนางเช่นนี้ด้วย

กู้ซีจิ่วเห็นหลานไว่หูมีท่าทางคับข้องหมองใจก็ประหลาดใจอยู่บ้าง หัวใจเต้นแรงแวบหนึ่ง หรืออีกฝ่ายจะกลั่นแกล้งเอาเปรียบจิ้งจอกน้อย?!

สายตาเธอมองไปที่ร่างกายของตนทันที!

สายตาของ ‘ก็ซีจิ่ว’ ที่อยู่ตรงข้ามนิ่งเฉยไม่รู้สึกรู้สา นั่งเอื่อยเฉื่อยไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น ทว่าแย้มยิ้มแวบหนึ่ง “วันนี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอ่อนโยนเหลือเกิน”

แล้วหันไปคุยกับหลานไว่หู “หลานไว่หู เจ้าออกไปก่อน ตัว…ข้า มีบางอย่างจะคุยกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”

หลานไว่หูเม้มริมฝีปากน้อยๆ สุดท้ายก็ออกไป

ในที่สุดภายในห้องก็เหลือเพียงคนทั้งสอง กู้ซีจิ่วมอง ‘ตัวเอง’ ที่อยู่ตรงหน้า “ตี้ฝูอี นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”

ตี้ฝูอีถอนหายใจหนักๆ “ก็อย่างที่เจ้าเห็น พวกเราสลับร่างกัน”

“เป็นเล่ห์กลของเจ้าใช่ไหม?” กู้ซีจิ่วสูดหายใจ

ตี้ฝูอีแบมือยักไหล่ “ข้าไม่ถึงขั้นล้อเล่นกับเรื่องเช่นนี้ ตอนข้าตื่นขึ้นมาก็ตกใจเหมือนกัน!”

กู้ซีจิ่วจ้องมองเขา คิดจะมองหาพิรุธเล็กน้อยจากใบหน้าของเขา แต่ก็มองไม่เห็น

ตี้ฝูอีค่อยๆ เพ่งพิศกู้ซีจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า “สังขารนี้เจ้าคุ้นชินหรือไม่? มีจุดไหนที่รู้สึกไม่สบายหรือเปล่า? นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่สังขารข้าถูกผู้อื่นเข้าครอบครอง”

จากนั้นก็เพ่งพิศเธออีกครา ก้าวเข้ามาหา “ผูกสาบเสื้อหลวมเกินไป”

แล้วยื่นมือมาจัดการสาบเสื้อให้เธอ

กู้ซีจิ่วรีบถอยหลังทันที “อย่าขยับมือไม้วุ่นวาย! มีวิธีเปลี่ยนกลับไปหรือไม่?”

ตี้ฝูอีมองเธอ “เจ้าใช้ร่างของข้า ทำสีหน้าดั่งยอมตายเพื่อรักษาพรหมจรรย์ เช่นนี้คงไม่มีกระมัง? หรือเจ้าเกรงว่าข้าจะใช้ร่างกายนี้ข่มเหงตน?”

เส้นเลือดบนหน้าผากกู้ซีจิ่วปูดโปน กล่าวอย่างเหลืออด “เจ้าอย่าได้ใช้ร่างข้ามาปรนนิบัติเอาใจ…”

ตี้ฝูอีกลับไปนั่งอีกครั้ง “เช่นนั้น เจ้าก็ใช้ร่างข้ามามาปรนนิบัติเอาใจดีไหม? มา! ทุบขาให้ข้าก่อน แล้วก็มานวดไหล่ ข้าไม่ใส่ใจหรอก”

กูซีจิ่วพูดไม่ออก

เหตุใดมีวูบหนึ่งที่เธออยากเตะเจ้าคนผู้นี้ให้กระเด็นกันนะ!

“พูดจาเหลวไหลให้น้อยหน่อย! สรุปแล้วมีวิธีเปลี่ยนกลับหรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version