Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1267

บทที่ 1267 ไม่ถอดใจ

หากว่าเขาคือกู้เทียนนั่วจริงๆ การกระโดดหน้าผาของมารดาต้องส่งผลกระทบต่อเขาอย่างใหญ่หลวงแน่นอน ประกอบกับการขวัญหนีดีฝ่อในป่าทมิฬ ไม่แน่อาจจะพบอันตรายเข้าจริง ๆ แล้วรอดมาได้อย่างหวุดหวิด จึงเสียความทรงจำไปก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล…

สมองของมนุษย์มีความสามารถในการป้องกันตามสัญชาตญาณอยู่อย่างหนึ่ง เมื่อได้รับความสะเทือนใจเกินไปจากเรื่องราวที่เลวร้าย มีความเป็นไปได้ที่สมองจะเกิดปฏิกิริยาป้องกันขึ้น ลืมเลือนเรื่องในอดีตไป

บางคนสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป บางคนก็เหลือความทรงจำอยู่บางส่วน บางคนถึงขั้นที่ความทรงจำย้อนกลับไปอยู่ในวัยแบเบาะ มีกรณีตัวอย่างอยู่มากมาย บางทีหลัวจั่นอวี่ในตอนนี้ก็อาจเป็นเช่นนี้ด้วย

เนื่องจากกู้ซีจิ่วเคยถูกหลงฟั่นเล่นงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงชิงชังเรื่องการเสียความทรงจำเช่นนี้อย่างยิ่ง ตัวเธอเองก็เป็นหมอ ในอดีตก็เคยศึกษาอาการความจำเสื่อมมาบ้าง ครั้งนี้หลังจากออกมาจากตำหนักใต้ดินแห่งนั้นของหลงฟั่น ก็ศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้มาโดยตลอด มุมานะหาทางให้ชั่วชีวิตนี้ไม่เสียความทรงจำไปอีก ไม่ว่าจะถูกฉีดยาหรือให้กินยาอะไรเข้าไปอีก เธอก็ไม่อยากสูญเสียความทรงจำไปอีกแล้ว

เธอฉลาดปราดเปรื่อง เมื่อไม่นานมานี้ได้ข้อวินิจฉัยจากการศึกษาค้นคว้าทางด้านนี้มามากมาย อาการความจำเสื่อมแบบหลัวจั่นอวี่ เธอสามารถรักษาให้หายขาดได้จริงๆ เพียงแต่ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยด้วย ต้องการสื่อชักนำในหลายๆ ด้าน

หลัวจั่วอวี่ผู้นี้ดูเผินๆ เหมือนจะปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างสุภาพ แต่นิสัยกลับเย็นชานัก เข้าถึงได้ยาก เขาไม่ชอบสนิทชิดเชื้อกับสตรีเป็นพิเศษ เขาเกิด ความรู้สึกต่อต้านเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้น หลังจากเขาเป็นผู้ใหญ่ ยามนั้นมีสตรีที่ยังไม่ออกเรือนล้วนเคยมาสารภาพรักกับเขาแทบทุกคน ถูกเขาปฏิเสธอย่างไม่เกรงใจยิ่งนั้นไปทั้งสิ้น

สตรีเหล่านั้นเมื่ออยู่กับบุรุษอื่นจะถูกประคบประหงมเอาใจปานองค์หญิง แต่อยู่กับเขากลับเสมือนเตะถูกแผ่นเหล็กเข้า ถูกปฏิเสธมากมายหลายหนเข้า สตรีส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับการตอบรับจากเขาจึงหมดหวังไป หันเหไปซบอกบุรุษคนอื่นเสีย

มีเพียงสตรีนามว่าหวงซังเซียงที่ตามตื้อเขามาเจ็ดแปดปีแล้ว ยังคงไม่ถอดใจ

หวงซังเซียงรูปโฉมงดงามที่สุดในบรรดาสตรีทั้งแปดนาง และได้รับการประคบประหงมที่สุด นิสัยค่อนข้างเย่อหยิ่ง นอกจากหลัวจั่นอวี่ที่ตามตื้อไม่สำเร็จ ฝีมือในการควบคุมบุรุษของนางยังคงลํ้าเลิศนัก ทำให้มีบุรุษกลุ่มหนึ่งวนเวียนมาห้อมล้อมนาง

หลังจากกู้ซีจิ่วมาถึง ก็ชิงความนิยมของนางไปไม่น้อย ไม่เพียงแต่งดงามกว่านางเท่านั้น ความสามารถก็เหนือกว่านางด้วย บุรุษมากมายที่เคยวนเวียนมาห้อมล้อมนางก็เริ่มไปรายล้อมกู้ซีจิ่วแทน นี่ทำให้นางหงุดหงิดใจยิ่งนัก และที่ทำให้นางหงุดหงิดกว่าเดิมคือ กู้ซีจิ่วสนใจในตัวหลัวจั่นอวี่อย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่สอบถามเรื่องราวของหลัวจั่นอวี่จากหลายช่องทางเท่านั้น หาข้ออ้างไปพบหัวจั่วอวี่อยู่เสมอ!

หลัวจั่นอวี่เองก็แปลก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขาไม่เคยแสดงทีท่าต่อสตรีนางใดเลย แต่กลับมีความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ให้กู้ซีจิ่วเพียงคนเดียว พูดคุยกับนางอย่างอ่อนโยนนัก

นี่ทำให้ความรู้สึกวิกฤตของหวงซังเซียงปรี่ล้นขึ้นมาในทันใด เริ่มจับผิดกู้ซีจิ่วอย่างเจตนาและมิเจตนา แอบเล่นงานเธอ

เพื่อความอยู่รอด ทุกคนที่นี่ล้วนต้องทำงานทุกคน บ้างก็เก็บเกี่ยว บ้างก็ตัดเย็บอาภรณ์ บ้างก็ล่าสัตว์ บ้างก็ทำอาหาร…

โดยทั่วไปแล้วพวกผู้หญิงจะอยู่ในหมู่บ้านตัดเย็บเสื้อผ้า หรือไม่ก็ทำอาหาร เหล่าบุรุษจะออกไปเก็บเกี่ยวและล่าสัตว์

การเก็บเกี่ยวของที่นี่ก็อันตรายมากเช่นกัน กิ่งก้านของต้นไม้ยักษ์ทั้งสูงทั้งชัน เปลือกไม้ก็เรียบลื่นเหมือนกระจก ไม่ว่าใบหรือผลล้วนงอกงามอยู่ในจุดที่สูงขึ้นไปนับร้อยเมตร คิดจะเก็บเกี่ยวพวกมันจึงยากเย็นเป็นที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นคือบนคาคบไม้มีลิงบาบูนที่พลังวิญญาณบรรลุขั้นห้าแล้วฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ ลิงบาบูนฝูงนี้ก็ใช้ใบและผลของต้นไม้ยักษ์เลี้ยงชีพเช่นกัน เมื่อมนุษย์ขึ้นมาเก็บเกี่ยวก็เท่ากับมาแย่งเสบียงกับพวกมัน ย่อมถูกพวกมันล้อมโจมตี…

ถึงแม้พลังวิญญาณของพวกมันไม่นับว่าสูง แต่พวกมันเชี่ยวชาญการโจมตีเป็นกลุ่ม ลิงบาบูนหนึ่งร้อยแปดสิบตัวจะเข้าโจมตีพร้อมกันเสมอ

มนุษย์ที่ขึ้นมาเก็บเกี่ยวยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกลิงบาบูนฝูงนี้กระหน่ำโจมตีอย่างสับสนอลหม่านแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version