Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1273

บทที่ 1273 ออกหน้าให้เธอ 3

“วิถีชีวิตของทุกคนที่นี่ไม่ง่ายดายเลย ทุกคนที่นี่เป็นครอบครัวเดียวกัน สมควรสามัคคีปรองดอง! ร่วมกันต่อสู้กับศัตรูจากภายนอก มิใช่ใช้ลูกไม้สกปรกมาลอบเล่นงานกันลับหลัง ปลาเน่าเช่นนี้หากปล่อยไว้ในหมู่บ้านต่อไปไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ดังนั้นจะต้องตรวจสอบ!”

สีหน้าของหวงซังเซียงแปรเปลี่ยนแล้ว “อย่างไรล่ะ…จะตรวจสอบอย่างไร?”

หลัวจั่นอวี่กล่าวว่า “ง่ายมาก ทั้งหมู่บ้านรวมแม่นางกู้แล้วมีทั้งหมดสี่สิบเอ็ดคน ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพอดี เมียเหลิ่งเอ้อร์ข่าวลือนี้เจ้าฟังมาจากผู้ใด?”

ยามที่เขาทำหน้าเคร่งขรึม อำนาจบนกายจะมหาศาลนัก อีกทั้งทุกคนที่นี่ล้วนเลื่อมใสนับถือเขา ย่อมจัดการตามที่เขาบอก ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงพากันบ่งชี้ว่าที่แท้แล้วตนได้ฟังมาจากผู้ใดทีละคนๆ…

เมื่อคนหนึ่งชี้ตัวคนหนึ่งเช่นนี้ สุดท้ายเบาะแสก็สาวมาถึงตัวหวงซังเซียง

หวงซังเซียงหน้าซีดเผือด ทว่าบอกไม่ได้ว่าตนได้ยินมาจากผู้ใด เพราะว่านอกจากคนของกลุ่มเก็บเกี่ยวแล้ว ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ ถ้าชี้ตัวไปมั่วๆ ย่อมไม่มีผู้ใดยอมรับ นางตัดสินในทันใด นางตัดสินกล่าวไปส่งๆ ว่ามาจากคนหนึ่งในกลุ่มเก็บเกี่ยว อาศัยว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ที่นี่ นางจึงคิดจะแถให้ผ่านครั้งนี้ไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

นึกไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะเม้มปากเล็กน้อย เอ่ยเรียบๆ ประโยคหนึ่งว่า “ข้าจะไปเชิญคนผู้นั้นลงมา”

เรือนกายไหววูบ หายไปในพริบตา

หวงซังเซียงตะลึงงัน

เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาที กู้ซีจิ่วก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้พาคนผู้นั้นที่หวงซังเซียงกล่าวถึงกลับมาด้วย

ตอนที่ลงมาเห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นยังงงงันอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รอจนหลัวจั่นอวี่เล่าเรื่องราวให้ฟังรอบหนึ่ง คนผู้นั้นจึงเดือดดาลขึ้นมาทันที มองหวงซังเซียงอย่างโกรธเคือง “ข้าไปพูดแบบนี้กับเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เมื่อวานข้าไม่ได้คุยกับเจ้าเลยไม่ใช่หรือไง?! ข้อนี้พี่น้องของข้าสามารถเป็นพยานให้ข้าได้ เมื่อวานหลังจากกลับมาข้าก็รํ่าสุราอยู่กับเหล่าพี่น้อง ดื่มเสร็จก็นอนหลับไป เช้าวันนี้ก็ออกไปรวมกลุ่ม ไม่ได้เจอเจ้าเลย!”

เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว ผู้ใดคือคนที่แพร่กระจายข่าวลือนั้นก็เห็นกันอยู่ชัดเจนประหนึ่งหาเหาบนศีรษะล้านเลี่ยนแล้ว

หลัวจั่นอวี่กล่าวอย่างเยือกเย็น “หวงซังเซียง เจ้ายังมีอะไรจะพูดไหม?”

หวงซังเซียงค่อนข้างกระวานกระวาย กล่าวว่า ข้าๆ อยู่นานสองนานก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก สุดท้ายจึงใช้แผนเรียกความเห็นใจ “เป็น…เป็นข้าเห็นแม่นางกู้ถูกพวกเขารายล้อมเสมือนดาวล้อมเดือน และเห็นว่าแม่นางกู้พูดคุยกับหัวหน้าเหลิ่งมากไปสองสามประโยค ดังนั้น…ดังนั้นข้าจึง เข้าใจผิด คิดว่าข้อสงสัยของตนเป็นความจริงแล้วพูดออกไป…ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ แค่พลั้งปากไปชั่วครู่…”

ดวงตาของหลัวจั่นอวี่กลับฉายแววผิดหวังออกมา เอ่ยอย่างเฉยเมย “หวงซังเซียง เดิมทีข้าคิดจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ขอเพียงเจ้ายอมรับผิดอย่างจริงใจ ขอขมาต่อแม่นางกู้ ข้าอาจจะไม่ลงโทษเจ้ารุนแรงเกินไป…กลับนึกไม่ถึงว่าตราบจนยามนี้เจ้าก็ยังเอ่ยโป้ปดอย่างเต็มปากเต็มคำอยู่! เจ้านี่มันหมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆ!”

เขาสั่งการคนที่อยู่ข้างกาย “จางรุ่ยเตรียมเสบียงสำหรับห้าวันให้นาง แล้วส่งนางไปซะ”

ที่นี่ไม่อาจออกไปไหนได้ ดังนั้นที่บอกว่าส่งนางไปซะก็คือการส่งไปที่ภูเขาด้านหลัง ปล่อยให้มีชีวิตตามยถากรรม

ในภูเขามีสัตว์ร้ายมากมาย ปกติเวลาออกไปล่าสัตว์ทุกคนจะจับกลุ่มกัน ยามนี้ส่งนางไปที่นั่นคนเดียว เป็นการส่งนางไปตายอย่างมิต้องสงสัยเลย

เห็นได้ชัดว่าหวงซังเซียงคาดไม่ถึงว่าจะได้รับโทษทัณฑ์หนักหนาเช่นนี้ ในที่สุดก็ตระหนกลนลานแล้ว คุกเข่าลงเสียงดังตึง โขกศีรษะไม่หยุด “พี่ใหญ่หลัว ข้าทราบความผิดแล้ว! เห็นแก่ที่ข้าชอบพอท่านมานานหลายปี เย็บเสื้อผ้าทำอาหารให้ท่านเป็นประจำ ครั้งนี้ละเว้นข้าเถิด ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว!”

ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีสตรีอยู่น้อย สตรีที่ยังไม่ออกเรือนยิ่งลํ้าค่าประหนึ่งหมีแพนด้าก็มิปาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version