Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1275

บทที่ 1275 พี่ชาย

แม่นางกู้ผู้นี้ไม่เพียงแต่วรยุทธ์เลิศลํ้าเท่านั้น ยังเป็นหมอมากฝีมือคนหนึ่งด้วยหรือ?!

เป็นไปไม่ได้กระมัง?

ท้าทายสวรรค์ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!

ฝูงชนเบิกตามองกู้ซีจิ่ว คล้ายเชื่อและมิเชื่อ

ขาที่เป็นง่อยว่ากว่าสิบปีสามารถรักษาให้หายดีได้หรือ?

นัยน์ตาของหลัวจั่นอวี่ที่ราบเรียบมองอารมณ์ไม่ออกเสมอมาก็เจิดจ้าแล้วเช่นกัน ฝืนข่มความตื่นเต้นในใจเอาไว้ “แม่นางกู้ ขานี้ของข้า…”

“ระบบไหลเวียนของโลหิตในขาท่านยังใช้ได้ เส้นเอ็นและเส้นประสาทในส่วนการโคจรการเคลื่อนไหวได้รับความกระทบกระเทือน เกิดการอุดตันในจุดสำคัญ จึงไหลเวียนไม่ได้ ขาของท่านหากข้าเดาไม่ผิด เป็นเพราะขาของท่านเคยได้รับความเย็นยิ่งนักมาก่อน…ปกติแล้วจะไร้ความรู้สึก เอาเข็มแทงก็ไม่เจ็บไม่คัน มีเพียงยามจื่อของทุกวันที่จะเจ็บปวดรวดร้าวเข้าไปถึงกระดูก…”

กู้ซีจิ่วเริ่มกล่าวอาการเฉพาะของขาเขาออกมา ยิ่งพูดยิ่งตรงจุด

มือของหลัวจั่นอวี่เริ่มสั่น สะท้านแล้ว พยักหน้าไม่หยุด “ถูกต้อง! ที่แม่นางกู้กล่าวมาไม่ผิดเลยสักนิด!”

เขาสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง “รักษาตามที่แม่นางกู้พูดเถอะ! จะเริ่มได้เมื่อไหร่?”

ไม่มีผู้ใดยินดีจะเป็นคนง่อย เขาปรารถนาที่จะลุกขึ้นยืนมานานแล้ว ปรารถนาจนหัวใจเจ็บปวดไปหมดแล้ว!

กู้ซีจิ่วยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “ข้าต้องไปเก็บสมุนไพรสองสามอย่างก่อน ถึงจะหลอมโอสถที่ต้องการได้”

“แม่นางยังหลอมโอสถเป็นอีกหรือ?!” ในหมู่ชายฉกรรจ์ที่มุงดูอยู่มีคนถามขึ้นมา

“อืม สามารถหลอมโอสถประมาณระดับหกได้” กู้ซีจิ่วก็ไม่ถ่อมตัวเช่นกัน บอกไปตามตรง

ฝูงชนทึ่มทื่อกันหมดแล้ว เรื่องนี้ทำให้ทุกคนแตกตื่นคึกคักขึ้นมา!

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวที่ฝึกฝนวรยุทธ์ ระหกระเหินอยู่ในโลกภายนอกมานานหลายปี ย่อมทราบถึงความสำคัญและความล้ำค่าของยาลูกกลอนดี ยาลูกกลอนไม่เพียงแต่รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น ยังยกระดับพลังยุทธ์ของผู้คนได้ด้วย ปรับปรุงสมรรถภาพร่างกายคนถึงขั้นที่ลดอันตรายจากการฝ่าทะลวงขั้นลงได้มากนัก ทำให้ฝึกวรยุทธ์อย่างสบายใจหายห่วงได้ และคนเหล่านี้ล้วนเป็นสายฝึกยุทธ์ทั้งสิ้น เชี่ยวชาญการฝึกวรยุทธ์ หลอมโอสถไม่เป็น ในบรรดาสี่สิบกว่าคนนี้มีหลัวจั่นอวี่คนเดียวที่เป็นหมอ ถึงวิชาแพทย์ของเขาจะลํ้าเลิศ แต่กลับหลอมโอสถไม่เป็น

ปกติแล้วเมื่อทุกคนป่วยไข้หรือได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ล้วนนำสมุนไพรมาต้มหรือไม่ก็ทำเป็นยาพอก ไม่ได้ลิ้มรสยาลูกกลอนอันใดมาเนิ่นนานปีแล้ว ยามนี้ไม่น่าเชื่อว่าแม่นางผู้นี้จะหลอมโอสถเป็น?!

ซํ้ายังเป็นยาลูกกลอนระดับหกด้วย!

โอ้สวรรค์ เรื่องนี้ต่อให้เป็นที่โลกภายนอก วิชาหลอมโอสถเช่นนี้ก็คงท้าทายสวรรค์มากเช่นกันกระมัง?!

แม่นางผู้นี้อ่อนเยาว์ปานนี้ อายุน้อยขนาดนี้ นางเชี่ยวชาญรอบด้านถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน?!

“แม่นางกู้ ขอถามอย่างละลาบละล้วงสักประโยคเถิด เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?”

บางคนเริ่มสงสัยแล้วว่ากู้ซีจิ่วจะมีวิชาคงโฉม อายุขัยที่แท้จริงน่าจะไม่น้อยแล้ว

มีคนถามอีกว่า “แม่นางกู้ ก่อนข้าจะเข้ามาที่นี่ เคยได้ยินว่ามีสตรีศักดิ์สิทธิ์นางหนึ่งวิชาแพทย์เลิศลํ้า วิชาหลอมโอสถเก่งกาจนางมีนามว่ากู่ซีซี เจ้า กับนาง…”

กู้ซีจิ่วตอบกลับอย่างราบเรียบ “ข้าเป็นบุตรีของแม่ทัพกู้เซี่ยเทียน แห่งอาณาจักรเฟยซิง อายุสิบเจ็ดปี ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกู่ซีซีแห่งสำนักถามสวรรค์”

ในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่มีคนหนึ่งที่เข้ามาเมื่อเก้าปีก่อน เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของกู้ซีจิ่วมาบ้าง เอ่ยโพล่งออกมา “ข้าจำได้ว่าแม่ทัพกู้ให้กำเนิดบุตรสาวที่เป็นสวะไร้พลังอยู่คนหนึ่ง ซํ้ายังมีปานเต็มหน้า นามว่ากู้ซีจิ่วเช่นกัน…”

เมื่อมองเห็นผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใยของกู้ซีจิ่วเขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “หรือว่าจวนแม่ทัพจะมีคุณหนูกู้ซีจิ่วสองคน?”

เรื่องนี้จะเล่าไปก็ยืดยาว

กู้ซีจิ่วไม่คิดจะป่าวประกาศอดีตของตนให้ผู้อื่นทราบ ตอบไปเพียงว่า “ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคุณหนูกู้ซีจิ่วมีเพียงคนเดียวเท่านั้น อดีตผ่านพ้นไปแล้ว จงดูกันที่ปัจจุบัน ถือเสียว่าข้าถือกำเนิดใหม่แล้ว”

วาจาสั้นๆ ไม่กี่ประโยค คล้ายว่าจะแฝงอดีตที่โหดร้ายคาวโลหิตมากมายเอาไว้

ทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่อาจกล่าวถึงด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเลือกที่จะไม่ซักถามต่ออีกอย่างเฉลียวฉลาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version