บทที่ 1276 สุนัขมากเนื้อน้อย
ความสนใจของทุกคนกลับมาอยู่ที่การหลอมโอสถของกู้ซีจิ่วอีกครั้ง พากันสอบถามว่าเธอต้องการสมุนไพรอะไรบ้าง คนเหล่านี้ขึ้นเขาไปล่าสัตว์เป็นประจำ ตรงไหนมีสมุนไพชนิดใดพวกเขาทราบแจ่มแจ้งยิ่งนัก
กู้ซีจิ่วจดรายการสมุนไพรทั้งหมดที่ต้องการออกมาหนึ่งแผ่น หลัวจั่นอวี่รับไปอ่านดูก่อน มอบหมายให้คนแยกกันไปเก็บทันที ในนั้นมีตัวยาชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่สมุนไพร แต่เป็นกระดูกของสัตว์ชนิดหนึ่ง และสัตว์ชนิดนี้ก็เป็นสัตว์ร้ายขั้นเจ็ด อาศัยอยู่ในส่วนลึกที่สุดของภูเขา
หลัวจั่นอวี่เอ่ยขึ้นว่า “ชนิดนี้ข้าจะไปเก็บด้วยตัวเอง แม่นางกู้ เจ้าไปกับข้าไหม?”
กู้ซีจิ่วตอบทันที “ได้!”
ฝูงชนมองหน้ากันเหลอหลา
เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าหลัวเชื้อเชิญสตรีให้ร่วมทางไปกับเขา หรือว่าในที่สุดหัวหน้าหลัวก็หวั่นไหวแล้ว?
ใช่แล้ว เด็กสาวนางนี้เฉลียวฉลาด สวยสดงดงาม ฝีมือสูงส่ง ซ้ำยังมีความสามารถมากถึงเพียงนี้ บุรุษคนใดบ้างเล่าไม่ชมชอบ?
อันที่จริงเหล่าชายโสดที่อยู่ที่นี่ไม่รู้ว่าตกเป็นจำเลยรักของแม่นางกู้ไปสักกี่มากน้อยแล้ว ในใจครุ่นคิดว่าจะไล่ตามโฉมงามอย่างไรดี กลยุทธ์ที่แต่ละคนคิดขึ้นในใจสามารถเขียนเป็นตำราสามสิบหกกลยุทธ์พิชิตใจนารีเล่มหนึ่งได้แล้ว!
แต่ถ้าหากหัวหน้าหลัวก็มาร่วมการแข่งขันด้วย…
หวา ความกดดันในการแข่งขันสูงนัก!
ที่นี่มีบุรุษมาก แถมยังเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ด้วย ดังนั้นบุรุษเหล่านี้จึงมีนิสัยห่ามๆ เป็นธรรมดา กระทำการใดก็ผ่าเผยใจกว้าง การพิชิตใจสตรีก็พิชิตกันอย่างซื่อตรงเป็นธรรม ถ้ามีเหตุผลก็กระทำได้เ ต็มที่
ดังนั้นบุรุษจึงมีคนอื่นๆ ก้าวออกมาขันอาสา “อสรพิษหุ้มเกราะตัวนั้นเป็นสัตว์ร้ายระดับเจ็ด! รับมือได้ยาก ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย!”
“หัวหน้าหลัว ข้าก็จะไปด้วย! นับข้าอีกคน!”
คิดจะไล่ตามสตรีก็ต้องลงทุนลงแรงกันหน่อย โดยเฉพาะสตรีที่งดงามและมีความสามารถมากถึงเพียงนี้ยิ่งต้องทุ่มเทสุดกำลัง!
ชายโสดเหล่านี้ล้วนอยากแสดงความมีตัวตนต่อหน้ากู้ซีจิ่วดังนั้นจึงพากันลงสมัคร
แต่หลัวจั่นอวี่กล่าวประโยคหนึ่งที่เปรียบเสมือนการราดนํ้าเย็นลงบนศีรษะพวกเขา ยับยั้งฮอร์โมนเพศชายที่พลุ่งพล่านอย่างยิ่งของพวกเขา “ไม่ต้อง พวกเราไปกันสองคนก็พอแล้ว พวกเจ้าควรทำอะไรก็ไปทำเถอะ”
อย่าทำแบบนี้น่าลูกพี่ ท่านคิดจะเป็นนกยูงที่รำแพนหางต่อหน้าโฉมงาม ก็ควรอนุญาตให้นกยูงตัวอื่นร่วมประลองด้วยสิ ดีร้ายอย่างไรก็ให้พวกเขาได้รำแพนหางต่อหน้าโฉมงามบ้างสิ!
ด้วยเหตุนี้ จึงมีบางคนที่โต้แย้งอย่างไม่ถอดใจอยู่ ถึงขั้นยกประเด็นเรื่องขาที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกของหลัวจั่นอวี่มาบอกว่าไม่เหมาะกับการขึ้นเขาล่าสัตว์
หลัวจั่นอวี่ไม่พูดจาไร้สาระกับเขา จัดการทุบตีคนผู้นั้นจนแข้งขาเคลื่อนไหวไม่สะดวกทันที คาดว่าเขาน่าจะลุกไม่ขึ้นไปอีกสามวันห้าวัน
เมื่อจัดการคนเสร็จ หลัวจั่นอวี่หน้าไม่แดงไม่หอบหายใจ กวาดตามองเหล่า ‘นกยูงตัวผู้’ ที่อยู่รอบๆ อย่างดุดันแวบหนึ่ง “ยังมีใครคิดจะพูดเหลวไหลอยู่หรือไม่?”
เหล่า ‘นกยูงตัวผู้’ ทั้งหลายแตกฮือออกไปปานวิหคตื่น สัตว์ตระหนก
สุนัขมากเนื้อน้อย สตรีน้อยเกินไป ทำให้เหล่าบุรุษของที่นี่ไม่มีแหล่งระบายปราณหยางที่อัดแน่นอยู่เต็มกาย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเปลี่ยนความเศร้าหมองให้เป็นพลัง ร้องตะโกนแย้วๆ แล้วจับกลุ่มกันขึ้นเขาไปสู้ตายกับสัตว์ร้าย
….
“พี่เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ สตรีมีน้อยเกินไป”
ระหว่างที่เดินทางไปยังภูเขาด้านหลัง กู้ซีจิ่วมองดูชายฉกรรจกลุ่มหนึ่งที่กำลังย่ำยีดอกเบญจมาศของสัตว์ร้ายตัวหนึ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ตามปกติแล้วผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะมีความต้องการสูง โดยเฉพาะผู้ชายวัยหนุ่มยิ่งมีฮอร์โมนเพศชายที่เปี่ยมล้วนอยู่ทุกวัน หากไม่ได้รับการปลดปล่อยเป็นเวลานาน จะเก็บกดจนวิปริตได้!
ตอนที่กู้ซีจิ่วอยู่ในยุคปัจจุบัน เคยเห็นข่าวหนึ่ง บอกว่าพวกผู้ชายที่ทำงานอยู่ในภูเขาอะไรสักอย่างเก็บกดจนเลือดขึ้นหน้า จับแม่หมูตัวหนึ่งมายํ่ายี แถมยังข่มขืนแม่วัวด้วย…
มีเรื่องพิสดารเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนจากเหตุผลสารพัด และที่นี่มีผู้หญิงทั้งหมดแปดคน แถมยังออกเรือนไปแล้วหกคนด้วย…