บทที่ 1310 ไปหานาง 2
คนผู้นั้นตอบด้วยใบหน้าอันซีดเผือด “มันคือมังกรปีศาจเงาสีรุ้งนี่ เจ้านี่มันอาฆาตพยาบาทยิ่งนัก เพียงแค่ทำร้ายนิดหน่อย มันก็อาจไล่ล่าเข่นฆ่าเจ้าให้ตายเอาได้…ยามนี้หากวิ่งหนี มันก็จะตามไปถึงในหมู่บ้าน!”
เช่นนั้นจะไม่ทำให้มังกรตัวนี้ทำลายหมู่บ้านหรืออย่างไร?
ดังนั้นพวกเขาเลยทำได้เพียงต่อสู้หัวชนฝาอยู่ที่นี่…
กู้ซีจิ่วมุ่นหัวคิ้ว “ในเมื่อรู้ว่ามันโหดร้ายถึงเพียงนี้ เหตุใดพวกเจ้าต้องไปหาเรื่องมัน?”
คนผู้นั้นแทบจะร้องไห้แล้ว “มังกรปีศาจตัวนี้บ้าคลั่ง มันแปลงกายได้ จึงแปลงเป็นงูเหลือมตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ในถํ้า ครั้งนี้หัวหน้า
ออกมาก็เพื่อล่างูเหลือม บอกว่าเนื้องูเหลือมอร่อยนัก หนังก็งดงาม หนังงูเหลือมสามารถทำรองเท้าดีๆ ได้คู่หนึ่งและยังเย็บกระเป๋าหนังงูเก็บสมุนไพรให้แม่นางกู้ได้อีก เลยไปยั่วโมโหมันเข้าให้…”
กู้ซีจิ่วทำแผลอย่างรวดเร็ว แทบจะทำแผลให้คนทั้งสามที่บาดเจ็บเรียบร้อยในชั่วพริบตา ขณะที่พันแผล เธอสังเกตการเคลื่อนไหวของมังกรปีศาจตัวนั้นขณะออกกระบวนท่าอย่างระมัดระวัง และคิดแผนการรับมืออยู่ในใจ
เมื่อเธอทำแผลเรียบร้อย แผนการรับมือนั้นก็คิดออกมาได้พอสมควรแล้ว เธอกระโดดไปด้านหน้าทันที แล้วเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย…
พริบตานี้ คนที่เป็นหัวหน้าล้อมโจมตีมังกรปีศาจคือไป๋หลี่เช่อ พลังวิญญาณของคนผู้นี้นับว่าสูงที่สุดในหมู่คนเหล่านั้น และเป็นแนวต้านหลักในยามนี้ เขาเห็นว่ากู้ซีจิ่วมาถึงนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถแบ่งสมาธิออกมาเพื่อทักทายได้ เมื่อเห็นนางเข้าร่วมการต่อสู้ก็พลันตกใจ ในความคิด ของเขา การล่าสัตว์และต่อสู้สัตว์ร้ายเป็นหน้าที่ของผู้ชาย ผู้หญิงอ่อนแอเกินไป คอยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก็ดีมากแล้ว
บัดนี้กู้ซีจิ่วกระโดดมาเข้าร่วมด้วย เขาจึงเอ่ยปากขึ้นโดยสัญชาตญาณ “แม่นางกู้ อันตรายเกินไป เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ามา!”
การพูดคุยทำให้เสียสมาธิ เขาเกือบถูกกรงเล็บของมังกรข่วนเข้าที่ท้องแล้ว!
เคราะห์ดีที่กู้ซีจิ่วดึงเขาเคลื่อนย้ายในพริบตายามคับขันหลบหนีกระบวนท่าพิฆาตของมังกรปีศาจนั้นไปได้
“พูดจาไร้สาระให้มันน้อยหน่อย พวกท่านแบ่งไปสามทาง…”
กู้ซีจิ่วเอ่ยคำขอจัดเตรียมกลุ่มต่อสู้สัตว์ร้าย ไป๋หลี่เช่อยังเชื่อคำนาง เรียกให้คนทำตามวิธีที่กู้ซีจิ่วบอก จัดกระบวนพลต่อสู้กับมังกรปีศาจ
การตีวงล้อมทั่วไปกับการตั้งกระบวนพลตีโอบเช่นนี้มีผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ละคนปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ประสิทธิภาพการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีทันใด!
บวกกับวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของกู้ซีจิ่วราวกับมือสังหารพิฆาตผู้หนึ่ง หากไม่ลงมือก็แล้วไป แต่หากลงมือเมื่อใดจะต้องทิ้งรอยแผลโชกเลือดไว้บนร่างของมังกรปีศาจเป็นแน่…
ถึงแม้จะไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ แต่ก็ทำให้มังกรตัวนี้เต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธได้!
เดิมทีมังกรปีศาจตัวนี้เป็นเหมือนงูเตร็ดเตร่ไปมา ไม่เคยส่งเสียงร้องคำรามใดๆ ทว่าในเวลาต่อมา มังกรปีศาจถูกกระตุ้นให้โกรธ ลมพายุพัดโหม มันแหงนหน้าร้องคำรามแล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันใด ราวกับสะพานสายรุ้ง พาดผ่านกลางท้องนภา…
เสียงคำรามของมันน่าตกตะลึงยิ่งนัก ทำให้คนเหล่านั้นที่ตั้งกระบวนพลโอบล้อมอยู่อกสั่นขวัญแขวน ความรวดเร็วของแต่ละคนก็ช้าลงเช่นกัน
และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในเวลานี้ ยามมังกรตัวนั้นโบยบินขึ้นไปกรงเล็บดึงแขนของไป๋หลี่เช่อไปด้วย จากนั้นก็ฉีกแขนของเขาออกอย่างรุนแรง!
หยาดเลือดไหลริน ไป๋หลี่เช่อส่งเสียงร้องโหยหวน เดินโซเซถอยไปด้านหลังหลายก้าว!
กู้ซีจิ่วบินโอบดั่งสายลมไปอยู่ข้างกายเขา กดจุดที่แขนหลายจุดเพื่อห้ามเลือดให้ทันที แล้วพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เก็บรักษาแขนข้างที่ขาดไว้ให้ดี ประเดี๋ยวข้าต่อให้ท่านได้!”
พร้อมทิ้งยาไว้ในมือเขาหนึ่งขวด “กินหนึ่งเม็ดก่อน!”
เธอหยุดอยู่ข้างกายเขาไม่เกินสามวินาที จากนั้นก็ไปต่อสู้กับมังกรปีศาจตัวนั้นอย่างสุดชีวิต
ความเจ็บปวดจากการแขนขาดปวดร้าวเข้าไปถึงในกระดูก ทว่าไป๋หลี่เช่อก็เป็นชายชาตรีเช่นกัน