ตอนที่ 165
ข้าจับชีพจรให้นาง
“เงี่อนไขอะไรหรือ?” จักรพรรดิซวนและกู้เซี่ยเทียนกล่าวขึ้นพร้อมกัน
“ให้นางกราบข้าเป็นอาจารย์ ติดตามข้ากลับเขาถามสวรรค์”
จักรพรรติซวนตกตะลึง ที่แท้เจ้าสำนักหลงผู้นี้ลงเขามามิใช่เพื่อกู้หน้า แต่มาเพื่อแย่งตัวลูกศิษย์!
สีหน้าของเขาไม่ดีนัก
เนื่องจากประชาชนอาณาจักรเฟยซิงที่กราบเข้าเป็นศิษย์สำนักถามสวรรค์ เมื่อสำเร็จวิชา เรื่องที่ชมชอบกระทำที่สุดคือออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทวีป ตรวจรักษาผู้คนโดยไม่แบ่งแยกชนชาติ น้อยมากที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อสร้างคุณูปการแก่บ้านเมืองโดยเฉพาะ
อาณาจักรเฟยซิงของเขาในยามนี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีหมอเทวดาสักคนก่อกำเนิดและเติบโตขึ้นมา ฝึกอบรมเพียงนิดหน่อยก็สามารถกลายเป็นหมอหลวงประจำราชวงศ์ได้แล้ว บัดนี้ต้องถูกเจ้าสำนักหลงผูนี้นำตัวไปหรือ?!
เมื่อเขานำตัวคนไปแล้ว ย่อมไม่ปล่อยคนกลับมาภายในสามปีห้าปี
หยาดเหงื่อปรากฏขึ้นบนหน้าผากของจักรพรรดิซวน อดจะเงยหน้ามองไปทางประตูตำหนักไม่ได้
ทำไมท่านทูตสวรรค์ซ้ายขวายังไม่มาอีกนะ…
“ซีจิ่ว เจ้าต้องการกราบข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?”หลงซือเย่ไม่สนใจท่าทีของจักรพรรดิซวน สายตาของเขาอยู่ที่ร่างกู้ซีจิ่ว
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เหลือบตาขึ้น แย้มรอยยิ้ม “ท่านเจ้าสำนักหลง หากว่าข้าไม่กราบท่านเป็นอาจารย์ ท่านจะไม่รักษาปานแดงบนใบหน้านี้ของข้าใช่ไหมเจ้าคะ?”
หลงซือเย่เงียบงัน
เขาหลุบตามองเธอ ไม่ได้ตอบออกมาตรงๆ “เจ้าไม่ยินดีกราบข้าเป็นอาจารย์หรือ?”
นัยน์ตากู้ซีจิ่วมืดดำลํ้าลึกดุจรัตติกาล ยิ้มจนเต็มแก้ม “สามารถกราบเจ้าสำนักหลงเป็นอาจารย์ได้ เป็นโชคที่ผู้อื่นปรารกนาก็ไม่สามารถได้ครอบครอง แล้วซีจิ่วจะไม่ยินดีได้อย่างไรเจ้าคะ?”
เธอดูเปิดเผยยิ่งนัก ท่าทางยินดีมากจริงๆ
หลงซือเย่มองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก้นบึ้งนัยน์ตามีแววมืดมนวาบผ่าน “ข้านึกว่าเจ้าไม่ยินดีเสียอีก”
กู้ซีจิ่วคล้ายจะประหลาดใจเล็กน้อย “เหตุใดจะไม่ยินดีล่ะเจ้าคะ?”
หลงซือเย่มองเธออยู่เงียบๆ เหมือนอยากจะค้นหาอะไรบางอย่างจากท่าทีของเธอ
แต่เขาก็ต้องผิดหวัง ท่าทีของกู้ซีจิ่วสงบเยือกเย็นมากมาโดยตลอด ราวกับสามารถติดตามเขาไปได้ทันที
ความเท็จเป็นจริง ความจริงเป็นเท็จ[1]เขามองอารมณ์ของเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้านี้ไม่ออกเลย แทบจะไม่กล้ายืนยันแล้วว่านางใช่ ‘เธอ’ หรือไม่…
เมื่อมองเห็นทั้งสองคนนี้เข้ากันได้ดี จักรพรรดิซวนจึงข่มความกระวนกระวายไว้ไม่ได้แล้ว ในที่สุดเขาก็คิดเหตุผลที่จะขัดขวางออก “เจ้าสำนักหลง ช้าก่อน ท่านยังพานางไปไม่ได้!”
“เพราะเหตุใด” หลงซือเย่เลิกคิ้ว
“เพราะทักษะของนางสวรรค์เป็นผู้ประทานให้! จักรพรรดิซวนตอบอย่างชัดถ้อยชัดดคำ “ฐานะเช่นนี้ของนางไม่สามารถกราบผู้ใดเป็นอาจารย์ได้ รวมถึงเจ้าสำนักหลงด้วย”
หลงซือเย่หน้าเปลี่ยนสี มองดูกู้ซีจิ่ว “เจ้าบอกว่าทักษะของเจ้า สวรรค์เป็นผู้ประทานให้หรือ?!”
“เจ้าค่ะ มีปัญหาอะไรหรือเจ้าคะ?”กู้ซีจิ่วยังมีท่าทีไม่แยแสอยู่เหมือนเก่า
“เจ้า…ก่อเรื่องแล้ว!” หลงซือเย่กุมข้อมือเธอไว้ “ไปกับข้า!”
แม้แต่งานเลี้ยงเขาก็จะไม่ร่วมแล้ว ดึงกู้ซีจิ่วคิดจะจากไป
จักรพรรดิซวนจะยินยอมปล่อยคนไปได้อย่างไร
เขาโบกมือให้สัญญาณ องครักษ์เสื้อแพรที่อยู่นอกตำหนักก็กรูเข้ามา ปิดกั้นหนหางไปของหลงซือเย่
“เจ้าสำนักหลง ท่านขัดขืนเช่นนี้ไม่ดีกระมัง?” จักรพรรดิซวนเดินลงมา
“ทวีปซิงเยวี่ยมีกฎเกณฑ์ ผู้ที่สวรรค์ประทานความสามารถให้ทั้งหมดไม่อาจกราบผู้อื่นเป็นอาจารย์ได้อีก เพราะพวกเขาเป็นสานุศิษย์ของสวรรค์เบื้องบน…”
หลงซือเย่มือหนึ่งโอบกู้ซีจิ่วไว้ในอ้อมแขน มือหนึ่งร่ายคาถา กล่าวอย่างเรียบเฉย “ในเมื่อนางเป็นผู้ที่สวรรค์ประทานความสามารถให้ ข้าก็ไม่สามารถรับนางเป็นศิษย์ได้ แต่สามารถเชิญนางไปเป็นแขก ที่เขาถามสวรรค์ได้ ข้าจะรักษาปานแดงบนหน้านางให้หายดีภายในหนึ่งปีนี้”
เหตุผลนี้ของเขาก็นับว่าพอจะสมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่จักรพรรดิซวนไม่เชื่อเขาเด็ดขาด!
ยามปกติเจ้าสำนักผู้นี้หาตัวยากยิ่งนัก ผู้อื่นปรารถนาจะกราบคำนับเชื้อเชิญเขาไปรักษา ก็ไม่แน่ว่าเขาจะยอมลงมือ แต่ยามนี้เขากลับดันทุรังกับสาวน้อยคนหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย อยากจะเชิญคนไปรักษา ทั้งยังคิดจะลักพาตัวคนขึ้นเขา…