บทที่ 192
ยามนั้นช่างโง่งมเหลือเกิน!
มือของกู้ซีจิ่วชะงักเล็กน้อย เธอเป็นนักฆ่า เคยฝึกฝนทักษะการเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดารต่างๆ ที่ค่ายฝึกนักฆ่า การปิ้งย่างกลางแจ้งก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อก่อนเธอไม่ชอบทำอาหาร ดังนั้นทักษะที่เรียนรู้มาจึงธรรมดามาก
มีครั้งหนึ่งออกไปทำภารกิจกับหลงซี เขาจับปลามาแล้วให้เธอย่าง เธอย่างออกมาได้น่าสังเวชมาก หลงซีกินเข้าไปแล้วเกือบเป็นพิษ
ตั้งแต่นั้นเธอก็มุมานะฝึกฝนทักษะนี้ เธอเฉลียวฉลาดคล่องแคล่ว ขอเพียงตั้งใจเรียนก็ไม่มีอะไรที่เรียนไม่ได้
เธอฝึกฝนอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็ฝึกฝนทักษะนี้จนเข้าขั้นปรมาจารย์ ดังนั้นจึงตั้งใจเชิญหลงซีมากินอาหารอีกครั้ง…
หลังจากหลงซีกินแล้วก็ประหลาดใจมาก ชมเชยว่าเธอฉลาด ตั้งแต่นั้นมาพอทั้งสองคนมีเวลาว่างก็จะออกไปปิกนิกกัน
เขารับหน้าที่ตกปลา เธอรับหน้าที่ย่างปลาตุ๋นปลา…
ทั้งสองคนมีความสุขมาก เพื่อให้สุขยิ่งขึ้นไปอีก กู้ซีจิ่วถึงขั้นไปเรียนตกปลากับปรมาจารย์ด้านการตกปลาโดยเฉพาะ เรียนรู้ลักษณะนิสัยและวิธีการปรุงของปลาชนิดต่างๆ…
โง่จริงๆ! ยามนั้นช่างโง่งมเหลือเกิน!
เธอเหยียดยิ้มเย้ยหยัน มุมปากหยักเป็นรอยยิ้มบางๆ
ถือโอกาสตอบตี้ฝูอีไปด้วย “ย่างอยู่บ่อยๆ ข้าชอบกินปลา คนที่กินปลาเยอะๆ จะฉลาด”
“ที่แท้เจ้ามีงานอดิเรกเช่นนี้นี่เอง เป็นความเคยชินที่ดี ใส่ใจการบำรุงรักษา” ตี้ฝูอีนํ้าเสียงอ่อนโยน มองบรรดาเครื่องปรุงเหล่านั้น ของเธออีกครา แววตาลึกลํ้านิดๆ
เขาเคยเห็นวิธีย่างปลาที่คล้ายกันนี้จากผู้อื่น…
กู้ซีจิ่วตั้งใจย่างปลามาก ตี้ฝูอีรับไว้แล้วกินไปคำหนึ่งด้วยสีหน้าซับซ้อน
“เป็นอย่างไรบ้าง?” กู้ซีจิ่วมองดูเขา ดวงตาของเธอเปล่งประกาย อยู่ในความมืดยามราตรี
“พอใช้ได้” ตี้ฝูอีนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเกียจคร้าน แขนข้างหนึ่งคํ้าศีรษะไว้ “เจ้ามีวิธีปรุงปลาพวกนี้กี่วิธี?”
“ต้มผัดแกงทอดล้วนทำได้หมด”
“อ้อ เช่นนั้นก็มีอยู่สี่วิธีสินะ?” ตี้ฝูอีดูเหมือนจะสนใจการกินปลาเข้าแล้ว เขาโบกไปทางด้านหลังโดยไม่หันหลังไป ลำแสงห้าสีพุ่งลงไปในน้ำ…
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีปลาลอยขึ้นมาอย่างต่อเนื่องสี่ตัว หล่นอยู่ตรงปลายเท้ากู้ซีจิ่วเสียงดังตุบตับ
“เอาไปซะ ทำมาอย่างละหนึ่งตัว ให้ข้าได้ชมฝีมือเจ้าหน่อย”
กู้ซีจิ่วมองปลาตรงปลายเท้า ปลาทั้งสี่ตัวล้วนเป็นปลาสารทเหลือง ที่อวบอัดพ่วงพี ขนาดไล่เลี่ยกัน เรียงรายอยู่ที่ปลายเท้าเธอเหมือนเข้าแถว…
กู้ซีจิ่วมองตี้ฝูอีด้วยสายตาที่ใช้มองผู้ป่วยโรคประสาท คนผู้นี้แค่ขยับมือก็สามารถจับปลาขึ้นมาได้ แต่กลับต้องการจะเรียนรู้การเป็นยอดฝีมือผู้สันโดษ ไปนั่งตกปลาอยู่ตรงนั้น!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงตกไม่ได้ ที่แท้การตกปลาของเขาก็เป็นแค่การเสแสร้ง…
เนื่องจากเครื่องครัวไม่ครบครัน สุดท้ายกู้ซีจิ่วจึงทำปลาอออกมาสองอย่าง ตุ๋นตัวหนึ่ง เนื้อปลาลวกจิ้มอีกหนึ่งตัว…
กองไฟยังคงลุกโชนอยู่ คนทั้งสองนั่งประจันหน้ากัน ลิ้มปลาร่ำสุรา
กู้ข้จิ่วเป็นนักฆ่า วิธีการลงมือของนักฆ่าไม่ได้มีแค่จับมีดถือปืน นั่น เป็นกลยุทธ์ขั้นสุดท้าย บางครั้งก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆ บ้าง บางโอกาส แล้วหาโอกาสฆ่าคนโดยไม่ให้รู้ตัว
ด้วยเหตุนี้เธอย่อมทราบมารยาทบนโต๊ะจีนอย่างลึกซึ้ง เมื่อชนแก้วบนโต๊ะจีนแล้ว บางทีศัตรูทั้งสองฝ่ายอาจสามารถจับมือเจรจากัน ชูจอกสุราพูดคุยกัน จากศัตรูแปรเปลี่ยนเป็นมิตรที่ดีได้…
ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ เดิมทีทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้มาเพื่อจับกุมเธอ บัดนี้กลับนั่งลิ้มสุรากินปลาอยู่ที่นี่กับเธอ พูดคุยกันอย่างสันติ
ดึกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว พวกเขาลิ้มสุราไปแล้วสองกา ปลาหลายตัวก็เหลือเพียงก้างเล็กน้อย
ตี้ฝูอีเป็นผู้หอบสุราออกมา ของที่เขาหอบมาแต่ละอย่างย่อมเป็นของชั้นเลิศทั้งหมด สุราก็เช่นกัน
แม้กระทั่งชุดสุราของเขาชุดนั้นก็ทำให้สายตาคนเปล่งประกายได้ ดั่งจอกวิภาส กาวิภาส[2]ในตำนาน
สุราของเขารสชาติเยี่ยมยอดนัก กู้ซีจิ่วจึงเผลอดื่มมากไปโดยไม่รู้ตัว
………………………
[1]หมากมาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อมะแขว่น เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง รสชาติเผ็ดร้อนคล้ายพริกไทยดำ
[2]จอกวิภาส กาวิภาส เป็นชุดกาสุราของจีน สร้างขึ้นจากหยก เมื่อรินสุราใส่แล้ววางไว้ใต้แสงจันทร์ชุดกาสุราจะเรืองแสง