บทที่ 198
พวกเขาก็อยากไปแอบดูต่อเหมือนกันนะ
เด็กหนุ่มทั้งสี่ตะลึงงัน พวกเขาแทบจะร้องไห้แล้ว คุกเข่าลงทันที “นายท่าน! ข้าน้อยทราบความผิดแล้ว!”
ตี้ฝูอีสะบัดแขนเสื้อ มีเก้าอี้พับได้ตัวเล็กๆ ที่ประณีตงดงามสี่ตัวเรียงแถวอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ นํ้าเสียงที่เอ่ยอ่อนโยนยิ่ง “มาเถอะ พวกเจ้าสี่คนนั่งกันคนละตัว นั่งลงไปแล้วใช้วิชาขับพิษที่ข้าสอนให้ขจัดพิษ ซะ สามวันให้หลังทุกคนต้องเขียนความรู้สึกเมื่อได้รับพิษคนละหนึ่งแผ่นมาส่งข้า”
ว่าจบก็หมุนกายหายตัวไปจากจุดเดิม
เด็กหนุ่มทั้งสี่อับจนวาจา พวกเขาเศร้าระทม มองดูเก้าอี้แล้วก็มองรอบๆ ต่อ
ลมทะเลสาบพัดโชยมา ผืนทะเลสาบกระเพื่อมไหว สถานที่แห่งนี้ ทิวทัศน์ไม่เลว ยุงก็ไม่น้อย พวกเขาทั้งสี่เป็นผู้คุ้มกันข้างกายทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สง่างาม แต่กลับต้องมานั่งเรียงแถวอยู่ที่นี้ให้ยุงกัดถึงสามวัน…
หากมีใครมาเห็นเข้า…พวกเขามิป่นปี้หมดหรือ!
“ทั้งสี่ท่าน ไม่ต้องกังวลไป พวกเราพี่น้องเก็บกวาดสถานที่แห่งนี้แล้ว จะไม่มีใครมาอีก พวกท่านสามารถขับพิษได้อย่างสบายใจ” เด็กสาวผู้งดงามสี่คนบินมาจากจุดที่อยู่ไม่ไกล เป็นเด็กสาวที่โบก สะบัดแถบแพรอยู่บนเรือในยามนั้นนั่นเอง
เด็กสาวทั้งสี่ยิ้มหัว แต่ดวงตากลับฉายแววยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่นอย่างมิปิดบังอำพราง และไม่เข้ามาใกล้ด้วย
เด็กสาวผู้เป็นหัวหน้ากล่าวอย่างสบายอารมณ์ “ศิษย์พี่มู่เฟิง มู่อวิ๋น มู่เหลย มู่เตียน ทั้งสี่ท่านยังลุกขึ้นยืนได้หรือไม่? ต้องการให้พวกเราพี่น้องใช้พลังปราณเคลื่อนย้ายพวกท่านไปนั่งบนเก้าอี้ไหม? นายท่านกำขับไว้ สามวันนี้พวกท่านไม่สามารถเคลื่อนไหวผาดโผนได้ มิเช่นนั้นเป็นขันทีไปแล้วจะแย่ไปกันใหญ่”
เด็กหนุ่มทั้งสี่นั่งเงียบ พวกเขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขุ่นเคือง แต่ไม่ได้เอ่ยตอบโต้ และไม่กล้าชักช้าเสึยเวลา ต่างคนต่างรีบไปนั่งบนเก้าอี้ตัวน้อย
มู่เฟิงยังคงไม่วางใจ “พวกเราแปดคนอยู่ที่นี่ แล้วนายท่านจะทำอย่างไร? พวกเจ้าอยู่คุ้มกันที่นี่คนเดียวก็พอ สามคนที่เหลือรีบไปอยู่ข้างกายนายท่านเถิด เกิดนายท่านเรียกหาขึ้นมา…”
เด็กสาวผู้เป็นหัวหน้าแย้มยิ้ม “ไม่ลำบากท่านต้องสิ้นเปลืองความคิดหรอก พวกเราพี่น้องจัดการกันเองได้ พวกท่านขจัดพิษอย่างสบายใจไปเถิด” ทั้งยังทอดถอนใจด้วยแววตาเป็นประกาย
“เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีคนทำให้นายท่านเสียเปรียบได้เช่นนี้…อยากจะเห็นเด็กสาวผู้นั้นเสียจริง”
เด็กหนุ่มทั้งสี่คนเงียบงัน อันที่จริงพวกเขาก็อยากไปแอบดูต่อเหมือนกันนะ ฮือๆๆ!
หายากนักที่เจ้านายของพวกเขาจะสนใจคนผู้หนึ่งถึงเพียงนี้…
อย่างไรก็ตาม เด็กสาวที่ไม่กล้วตายผู้นี้ทำให้นายท่านเสียเปรียบครั้งใหญ่ ไม่รู้ว่านายท่านจะจัดการกับนางอย่างไร?
ยามกู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาหนีมา ในใจก็คิดแผนดีๆ ไว้แล้ว
ดูเหมือนคำว่าสวรรค์ประทานความสามารถให้ของเธอจะไปเปิดกล่องแห่งความลับ แหย่รังแตนเข้าอย่างจัง!
จักรพรรดิซวนตามหาเธอ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ตามหาเธอ หลงซือเย่ก็ไม่ยอมวางมือ…
อยู่ที่อาณาจักรเฟยซิงแห่งนี้ต่อไม่ได้แล้ว ไม่สู้เธอไปสำรวจอีกสองอาณาจักรที่เหลือ ลองดูขนบธรรมเนียมของสองอาณาจักรนั้น และถือโอกาสลี้ภัยไปด้วย
ในบรรดาคนที่ตามติดเธอไม่ปล่อยเหล่านี้ ยังคงเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นที่กู้ซีจิ่วหวั่นเกรงที่สุด
คนผู้นี้โรคจิตเกินไป เธอไม่ควรไปยั่วยุเขาชั่วคราว ใน 36 กลยุทธ์ มีเพียงหนีเท่านั้นคือสุดยอดกลยุทธ์[1 ] หาสถานที่กบดานสักสองปีฝึกฝนวรยุทธ์ให้ดีแล้วค่อยว่ากันภายหลัง
ด้วยระดับความเร็วการฝึกฝนของเธอในปัจจุบัน ระยะเวลาสองปี เพียงพอจะทำให้เธอกลายเป็นยอดฝีมือแล้ว ต่อให้ไม่มีพลังวิญญาณ แต่ก็มีกำลังภายในที่ลึกลํ้ามาก ขอเพียงไปถึงระดับเดียวกับชาติก่อนได้ ผนวกกับวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอ ก็เพียงพอจะท่องทั่วยุทธ์จักร ใช้ชีวิตอิสระตามใจตนได้แล้ว
และอีกสองปีให้หลัง สัญญาหมั้นหมายระหว่างเธอกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ก็จะสลายหายไปโดยปริยาย เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง
การแต่งงานของเธอ เธอจะกำหนดมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องการให้ผู้ใดมาบังคับ!
อีกอย่างเธอก็ไม่คิดจะแต่งกับใครอีกแล้ว ใช้ชีวิตแบบโสดๆ คนเดียวสบายใจกว่าอีก แน่นอนว่าเธอจะหาสมุนไพรมารักษาปานแดงบนหน้าด้วย ความจริงเครื่องหน้าของร่างนี้งดงามยิ่งนัก ขอเพียงบำรุงรักษาให้ดีๆ ทรวดทรงผิวพรรณจะดีขึ้นมาก เมื่อกำจัดปานแดงทิ้งเธอจะกลายเป็นโฉมสะคราญงามล่มเมืองอย่างแน่นอน
…………………
[1] ใน 36 กลยุทธ์มีเพียงหนีเท่านั้นคือสุดยอดกลยุทธ์เป็นหนึ่งในกลศึกสามก๊ก หมายถึง เมื่อทำการศึกสงครามกับสัตรู หากศัตรูเป็นต่อในทุกๆ ด้าน ขืนนำกำลังเข้าต่อสู้ก็มีแต่สูญเสีย การถอยหนีย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า