บทที่ 214
รังของทูตสวรรค์ซ้ายจอมโรคจิตผู้นั้นหรือ?!
คุณชาย….เห็นทีสาวน้อยคงไม่ทราบฐานะของเธอ
กู้ซีจิ่วพยักหน้าน้อยๆ ใช้น้ำเสียงบุรุษสอบถาม “ที่นี่คือที่ไหน?”
“เรียนคุณชาย ที่แห่งนี้คือวังคํ้านภาเจ้าค่ะ ที่นี่เป็นเรือนรับแขกที่ท่านทูตสวรรค์จัดเตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ” นํ้าเสียงสาวน้อย แจ่มใส
วังคํ้านภา?!
รังของทูตสวรรค์ซ้ายจอมโรคจิตผู้นั้นหรือ?!
กู้ซีจิ่วทวนซ้ำอีกประโยค “จัดเตรียมไว้ให้ข้าโดยเฉพาะหรือ?”
“ใช่เจ้าค่ะ คุณชาย ท่านทูตสวรรค์อุ้มท่านลงจากรถด้วยตัวเอง ทั้งยังสั่งการให้คนจัดแจงตกแต่งที่นี่ใหม่ตามแบบที่ท่านชอบ จากนั้นค่อยพาคุณชายมาพำนักที่นี่ คุณชายท่านลองชมที่นี่ดูเถิด พอใจหรือไม่เจ้าคะ?”
มุมปากกู้ซีจิ่วกระตุกเล็กน้อย!
แบบที่เธอชอบ? เธอชอบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เธอก้มหน้าลงโดยไม่ได้ตั้งใจ พอมองเห็นเสื้อคลุมของตนถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง!
รูปแบบการตกแต่งของห้องนี้เหมือนกับรูปแบบเสื้อคลุมของเธอไม่มีผิด ล้วนเป็นแบบที่สามารถทำให้คนตาพร่าได้ แฝงกลิ่นอายความเป็นเศรษฐีใหม่ไว้อย่างเติมเปี่ยม…
เธอคิดไม่ออกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้คิดอะไรอยู่ ถึงขั้นเดาจุดประสงค์ของเขาไม่ออก
เบาะแสยังน้อยเกินไป หากเธอซี้ซั้วเดา ไม่แน่ยิ่งเดาอาจยิ่งออก ทะเลไปไกล เช่นนั้นกู้ซีจิ่วก็ไม่เดาเลยแล้วกัน
เธอพูดคุยกับสาวน้อยผู้นั้นอีกหลายประโยค ทราบว่านางมีนามว่า โม่อวี่เยียน เป็นสาวใช้ของวังคํ้านภา ถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโยกย้ายให้มารับใช้เธอโดยเฉพาะ และตัวเธอนอนหลับอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน ตามที่โม่อวี่เยียนผู้นี้บอก ตลอดทั้งคืนนี้เธอหลับลึกยิ่งนัก ไม่แม้แต่จะพลิกตัวเลยด้วยซ้ำ ส่วนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เขาพาเธอมาส่งที่ห้องนี้ สั่งให้ดูแลด้านนอกให้ดี จากนั้นก็ไม่เคยเข้ามาอีก
โม่อวี่เยียนผู้นี้มือเท้าคล่องแคล่วและช่างเจรจายิ่ง จัดเตรียมอุปกรณ์ล้างหน้าให้กู้ซีจิ่ว พลางพูดคุยกับเธอไปด้วย กู้ซีจิ่วได้ทราบเรื่องราวจากปากนางไม่น้อยเลยจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้จะบอกว่าวังคํ้านภาแห่งนี้เป็นจวนของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย แต่ที่จริงแล้วนายท่านกลับไม่ค่อยพำนักอยู่ที่นี่ ในหนึ่งปีหากพำนักอยู่ที่นี้สักสามถึงห้าคืนก็นับว่าดีมากแล้ว ในวังคํ้านภามีบ่าวรับใช้อยู่มากมาย ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ และเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของอาณาจักรเฟยซิงทั้งหมด บางคนถึงขั้นเป็นลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ด้วยซ้ำ
เนื่องจากท่านทูตสวรรค์เฝ่ายซ้ายไม่ค่อยพำนักอยู่ที่นี่ ดังนั้นพวกเขาที่รับใช้อยู่ที่นี่จึงสุขสบายเป็นอันมาก ขอเพียงไม่ละเมิดกฎ ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะยังคงสุขเสรียิ่งนัก
อีกทั้งท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ไม่ข่มเหงบ่าวไพร่ หนำซ้ำยังเลี้ยงดูอย่างดี ไม่เพียงให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างไร้กังวลเท่านั้น ยังเชิญอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงมาอบรมสั่งสอนด้วย ทำให้พวกเขาซึ่งอยู่ที่นี่ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย
สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ บางครั้งถ้าท่านทูตสวรรค์เฝ่ายซ้ายอารมณ์ดี จะชี้แนะพวกเขาด้วยตนเองหลายประโยค ทำให้พวกเขา ได้รับประโยชน์มหาศาล…
กู้ซีจิ่วฟ้งอยู่ตลอด เมื่อได้ยินสาวน้อยโอ้อวดทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ ราวกับเป็นพระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิต เธอเพียงแย้มยิ้มว่างเปล่าให้แก่การประเมินค่าเหล่านี้ คนผู้นั้นเคยสั่งสอนประสบการณ์บ้าบอให้เธอด้วยตนเองมากมาย เขาเป็นพระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิตงั้นหรือ? โม้แล้วล่ะ!
วันนั้นในบ่อนํ้าร้อน เธอเห็นเองกับตาว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้สั่งลงโทษคน!
โม่อวี่เยียนดูสดใสไร้เดียงสา แต่สามารถเป็นบริวารรับใช้ของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจอมโรคจิตผู้นี้ได้ จะมีนิสัยซื่อตรงเปิดเผยเช่นนี้ได้อย่างไร?
แน่นอนว่ากู้ซีจิ่วไม่ได้โต้แย้งสาวน้อย เธอซึมซับแค่ข้อมูลที่เธอต้องการเท่านั้น
โม่อวี่เยียนอธิบายกฎให้เธออย่างเน้นยํ้า ขอเพียงเคารพกฎเกณฑ์ ก็สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสะดวกสบายยิ่ง แต่ถ้าละเมิดกฎเมื่อใดจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง!
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าสาวน้อยกล่าวประโยคนี้ให้เธอฟัง จุดประสงค์คือให้เธอเชื่อฟัง ไม่ก่อเรื่องที่นี่
กู้ซีจิ่วเงียบอยู่ครู่หนึ่งจึงสอบถาม “ท่านทูตสวรรค์เฝ่ายซ้ายทิ้งวาจาใดไว้ให้ข้าไหม?”
“เป็นเด็กดีซะ อย่าคิดหนีเลย เจ้าหนีไม่พ้นหรอก”สาวน้อยตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด