บทที่ 213
ดูราวกับเยาะเย้ยอะไรอยู่
ครั้นมองเห็นหลงซือเย่โน้มตัวอุ้มก้อนผ้าห่มที่พิงอยู่ตรงนั้น เขาตะลึงงัน ซัดฝ่ามือไปทางอีกฝ่าย “อย่าขยับ!”
อันที่จริงเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะซัดโดนหลงซือเย่ อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็มีฐานะเป็นยอดฝีมือของที่นี่ วรยุทธ์สูงส่งกว่าเขาไม่รู้กี่ขั้น!
ฝ่ามือที่เขาซัดออกไป อีกฝ่ายควรจะหลบได้อย่างง่ายดายยิ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าสำนักหลงผู้นี้กลับยืนอยู่ตรงนั้นราวกับคนโง่งม ถูกพลังของเขาซัดจนซวนเซ
ผู้ติดตามคนนั้นงุนงง
เจ้าสำนักถามสวรรค์ผู้นี้คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกกระมัง?!
ต่อมาเมื่อเขามองไปยังก้อนผ้าห่มตรงนั้น ก็ต้องตกตะลึงเช่นกัน!
ก้อนผ้าห่มนั้นถูกดึงออกแล้ว เผยให้เห็นหุ่นคนทำจากไม้ตัวหนึ่ง อยู่ด้านใน…
ถึงจะกล่าวว่าเป็นหุ่นไม้ แต่อันที่จริงคือเสาไม้วาดหน้าคนต้นหนึ่งเท่านั้น ขนาดใกล้เคียงกับร่างกายกู้ซีจิ่ว กำลังแสยะยิ้มพิงอยู่ตรงนั้น ปากที่วาดมีขนาดใหญ่ มุมปากยกขึ้นแทบจรดท้องฟ้า ดูราวกับเยาะเย้ยอะไรอยู่ ที่แท้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายส่งหุ่นปลอมตัวหนึ่งมาไว้บนรถเขา หลอกให้เจ้าสำนักหลงผู้นี้ไล่ตามรถคันนี้มา…
“ตี้ฝูอี!” หลงซือเย่กำมือแน่น!
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยว ทั่วทั้งร่างเขาเต็มไปด้วยไอสังหาร แรงกดดันอันทรงพลังทำให้ผู้ติดตามคนนั้นขนลุกชี้เล็กน้อย สองขาอ่อนแรง แทบจะลงไปคุกเข่าแล้ว
แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ติดตามของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย มีร่างกระดูกเหล็ก ถึงแม้จะถูกแรงกดดันนั้นกดดันอย่างหนักจนร่างกายแทบค้อมต่ำ แต่เขายังคงยืนหยัดยืดตัวเหยียดตรงอยู่เหมือนเดิม!
เคราะห์ดีที่หลงซือเย่ไม่มีเจตนาจะพาลเอากับผู้อื่น เขาสะบัดแขนเสื้อ หายตัวไปจากบนรถ เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขามาอยู่บนหลังนกกระเรียนมงกุฎแดง เพียงชั่วพริบตาก็จากไปไกลแล้ว
ผู้ติดตามคนนั้นอกสั่นขวัญแขวน เช็ดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผาก ดูเหมือนว่าเจ้าสำนักหลงจะโกรธเข้าจริงๆ เสียแล้ว…
ได้ยินมาว่าเจ้าสำนักหลงมีนิสัยเยือกเย็นและสง่างาม ยากมากที่จะโกรธเกรี้ยว แต่ยามนี้แค่ไล่ตามรถผิดคันก็โกรธถึงเพียงนี้ จะน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยแล้ว!
ผู้ติดตามคนนั้นบังคับรถต่อไปพลางครุ่นคิดอยู่ในใจ สุดท้ายจู่ๆ ก็สรุปข้อวินิจฉัยออกมาข้อหนึ่งซึ่งทำให้ตัวเขาเองตกตะลึง!
คงไม่ใช่ว่า…
คงไม่ใช่ว่าระหว่างเจ้าสำนักหลงกับนายท่านของพวกเขามี…มี เรื่องราวบางอย่างกระมัง?!
นายท่านของพวกเขานอกใจไปมีสัมพันธ์กับเจ้าเศรษฐีอ้วนกลมผู้นั้น ทำให้เจ้าสำนักหลงโกรธเกรี้ยวด้วยความหึงหวง ฉะนั้นจึงมาไล่ล่าสังหาร…
ความคิดของผู้ติดตามคนนั้นเลยเถิดไปอย่างยิ่ง ในสมองปรากฏฉากละครชายรักชายที่ทั้งรักทั้งแค้นกันขึ้นมาทันที
ยามที่กู้ซีจิ่วรู้สึกตัวก็พบว่าตนเอนกายอยู่บนเตียงใหญ่หลังหนึ่ง เตียงหลังใหญ่วิจิตรตระการตา ม่านมุ้งงดงาม เธอกลอกตามองรอบๆ แวบหนึ่ง พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่หรูหราอลังการ
ที่นี่คือที่ไหน?
เหตุการณ์บนรถม้าแวบผ่านเข้ามาในหัวเธอ!
เธอกระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง ก้มมองร่างกายตนตามสัญชาตญาณ เมื่อพบว่ายังอยู่ในรูปลักษณ์เศรษฐีอ้วนกลมเหมือนเดิม เสื้อคลุมที่สวมก็ไม่ได้ผลัดเปลี่ยน ยังคงสวมเสื้อคลุมปักลายดอกไม้แวววาวชุดนั้นเหมือนเดิม…
บนโต๊ะมีกระจกสำริด เธอหยิบกระจกขึ้นมาส่องทันที ในกระจกสะท้อนภาพใบหน้าอ้วนกลมขรุขระ…
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วนั่งลง ดูเหมือนท่านทูตสวรรค์วิปริตผู้นั้นจะไม่ได้ฉวยโอกาสตอนเธอสลบแก้ไขวิชาแปลงโฉมของเธอตามอำเภอใจ
กู้ซีจิ่วลอบตรวจสอบกำลังภายในบนร่างดู ค่อยยังชั่ว กำลังภายในยังอยู่
เธอหลับตาลงเล็กน้อย แล้วใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาอีกครั้ง…
‘พลั่ก!’ ร่างกายของเธอกระแทกประตู!
เคราะห์ดีที่ท่าเท้าเธอยอดเยี่ยม จึงถอยหลังไปสองก้าวแล้วยืนอย่างมั่นคงได้ทันที
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอไม่จำกัดพื้นที่ กำแพงหรือผนังใดๆ ก็ทะลุผ่านได้เหมือนกัน แล้วทำไมหนนี้…
กู้ซีจิ่วกำลังจะตรวจสอบว่าประตูบานนั้นมีอะไรประหลาด จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิด สาวน้อยผมดำถักเปียนางหนึ่งเดินเข้ามา สาวน้อยมองเธอพลางยิ้มละไม “คุณชาย ท่านตื่นแล้วหรือ? ต้องการดื่มชา ไหมเจ้าคะ? หรือว่าต้องการล้างหน้า?”