Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 696

บทที่ 696 ข้าไม่ต้องการเจ้า 4

‘ฉึก!’ กระบี่ลํ้าค่าของอวิ๋นชิงหลัว แทงเข้าที่อกขวาของกู้ซีจิ่ว

ความเร็วในการเคลื่อนย้ายของกู้ซีจิ่วว่องไวเหลือเกิน เธอไม่หยุดฝีเท้าเลย ไม่สนใจกระบี่ลํ้าค่าที่แทงทะลุอกขวาเคลื่อนย้ายไปปรากฏเบื้องหน้าอวิ๋นชิงหลัวทันที ซัดฝ่ามืออันทรงอานุภาพออกไป!

‘ปัง!’ ฝ่ามือของเธอซัดใส่ทรวงอกของอวิ๋นชิงหลัวอย่างจัง!

จะอย่างไรอวิ๋นชิงหลัวก็คิดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะใช้วิธีเช่นนี้มาสู้สุดชีวิตกับนาง ถึงขั้นไม่เกรงกลัววซึ่งความตายเลย!

ระหว่างที่นางตกตะลึงก็ถูกฝ่ามือกู้ซีจิ่วซัดกระเด็นออกไปหล่นลงไปจากเวที…

การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไป ทุกอย่างแทบจะจบสิ้นในชั่วพริบตาเดียว

จวบจนยามนี้ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเวทีถึงได้ร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ…

อวิ๋นชิงหลัวหล่นกระแทกพื้นเสียงดังปัง ทรวงอกของนางเจ็บปวดอย่างยิ่ง รู้สึกว่าซี่โครงของตนถูกซัดหักแล้ว…

ส่วนกู้ซีจิ่วที่ถูกกระบี่เสียบอก กระบี่เล่มนั้นแทงทะลุจากทรวงอกด้านหน้าของเธอโผล่ออกมาที่ด้านหลัง โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาจากหน้าอกและแผ่นหลังเธอ เธอยืนอยู่ตรงนั้นร่างกายซวนเซเล็กน้อย แต่กลับยิ้มออกมา ยิ้มอย่างภูมิใจ “อวิ๋นชิงหลัวเจ้าแพ้แล้ว!”

คณะอาจารย์ทั้งหมดที่อยู่บนเวทีลุกพรวดขึ้นมา แม้แต่ตี้ฝูอีก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน ร่างสูงเขาไหววูบ พุ่งเข้าหากู้ซีจิ่ว…

หลงซือเย่ก็ทะยานเข้ามาในเวลาเดียวกัน “ซีจิ่ว!”

กู้ซีจิ่วฝืนไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ร่างกายล้มหงายหลัง หล่นลงในอ้อมแขนคนผู้หนึ่ง อ้อมแขนคนผู้นั้นมีกลิ่นหอมจางที่คุ้นเคย เคยโอบกอดเธอ

เอาไว้หลายครา เคยทำให้เธอลุ่มหลงถึงขั้นอาวรณ์อยู่บ้าง แต่ตอนนี้พอเธอร่วงสู่อ้อมแขนคนผู้นี้ กลับเสมือนถูกแมงป่องต่อย รีบ

ดิ้นรนทันที “ปล่อยนะ!”

ในเวลาเดียวกันนี้หลงซือเย่ได้พุ่งมาอยู่ด้านหน้าแล้ว ช้ากว่าตี้ฝูอีเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น พลาดโอกาสจากกู้ซีจิ่วไปต่อหน้าต่อตา บัดนี้เขายืนอยู่เบื้องหน้าตี้ฝูอี สีหน้าเขาไม่ดียิ่งนัก “ตี้ฝูอี มอบนางให้ข้า!”

ตี้ฝูอีไม่มองหลงซือเย่เลย แขนซ้ายโอบกู้ซีจิ่วไว้ มือขวาวนเวียนอยู่ที่บาดแผลเธอ “เจ้าบ้าไปแล้ว!”

ยามนี้กู้ซีจิ่วรู้สึกเจ็บปวดจนตัวเธอขดงอแล้ว ใบหน้าเธอซีดเผือด ทว่าไม่อยากสัมผัสใกล้ชิดกับตี้ฝูอี จึงดิ้นรนอย่างไม่คิดชีวิต “เจ้าปล่อยข้านะ! เจ้าสำนักหลงช่วยข้าด้วย…”

หลงซือเย่ก็เอ่ยขึ้นว่า “ให้ข้าดูอาการนาง!”

คิดจะแย่งตัวคนมา…

แต่ตี้ฝูอีขยับร่างแวบหนึ่ง หลบหลีกเขา จากนั้นก็อุ้มคนหายไปในชั่วพริบตา

หลงซือเย่โกรธจนตัวสั่น “ตี้ฝูอี เจ้าจะพานางไปไหน?!”

ตี้ฝูอีหายไปว่องไวนัก มือเขายื่นออกมาทว่าแม้แต่มุมชุดของอีกฝ่ายก็ฉวยไว้ไม่ได้ อาจารย์ของชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งปราดมาขวางเขาไว้ “เจ้า สำนักหลง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่แม่นางกู้คนเดียว นู่น ยังมีแม่น่างอวิ๋นด้วย รบกวนท่านช่วยดูอาการนางทีเถิด”

ยามนี้หลงซือเย่ไหนเลยจะสนแม่นางเมฆแม่นางฝน[1]อะไรอีก เขาคร้านจะพูดจาไร้สาระกับผู้อื่น ร่างกายวูบไหวหายไปทันที

อวิ๋นชิงหลัวที่อยู่บนพื้นเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมา ซี่โครงของนางหักไปอย่างน้อยสี่ซี่ จะหายใจก็แทบลำบากแล้ว แต่กลับจ้องเขม็งไปบนเวทีในทิศทางที่กู้ซีจิ่วหายลับไป ใบหน้าซีดขาวจนน่ากลัว ขนริมฝีปากแน่นจนเลือดออก…

ฝ่ายหลานไว่หูและคนที่เหลือก็เพิ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองในยามนี้ หลานไว่หูมองโลหิตที่เจิ่งนองอยู่ใต้ฝ่าเท้า ตกใจจนใบหน้าน้อยไร้สีเลือด “ซีจิ่ว…”

ฝูงชนก็มีอาการเจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า เช่นกัน จากนั้นสายตาก็หันเหไปที่ร่างอวิ๋นชิงหลัวอย่างพร้อมเพรียง เมื่อครู่ถึงแม้ทุกคนจะขวางไว้ไม่ทัน แต่ทุกคนก็เห็นการจู่โจมด้วยกระบี่เล่มนั้นของอวิ๋นชิงหลัวอย่างชัดเจน กระบี่นั้นโหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ยิ่ง เสมือนปฏิบัติต่อศัตรูคู่อาฆาต ถ้าตำแหน่งที่เล็งเป็นทรวงอกด้านซ้ายของหลานไว่หู มิใช่กู้ซีจิ่วทุ่มสุดชีวิตเพื่อสกัดไว้ ยามนี้ผู้ที่นอนอยู่บนพื้นคงเป็นหลานไว่หูแล้ว!

ถึงแม้จะกล่าวไว้ล่วงหน้าชัดเจนแล้วว่าการประลองครั้งนี้เดิมพันด้วยชีวิต ทุกคนต้องทุ่มเทสุดกำลัง แต่…

——————————————————————

[1] เป็นการเล่นคํา ตัวอวิ๋นในชื่อของอวิ๋นชิงหลัว มีความหมายว่าเมฆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version