Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 24

บทที่ 24

คำว่าผดุงความเป็นธรรมไม่เข้ากับเขาสักเท่าไหร่

ประโยคนี้เหมือนเป็นการเปิดโปง ฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของกู้เทียนฉิงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็นเฉียบ แต่สีหน้ายังคงอ่อนโยนใสซื่อ ท่าทีสงบนิ่งเหมือนเคย

องค์ชายหรงเหยียนลนลานทันที “เสด็จพี่แปดทรงล้อเล่นเสียแล้ว ข้าไหนเลยจะเทียบกับเสด็จพี่ได้? เสด็จพี่เป็นหนึ่งในสี่ยอดคุณชายแห่งเมืองหลวง ชื่อเสียงเลื่องลือ…”

“น้องสิบสองไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอก หลังจากที่ตรวจพบว่าเจ้ามีรากฐานวิญญาณธาตุทองเมื่อปีกลาย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว ชื่อเสียงเจ้าพุ่งทะยานดั่งดอกงาแทงยอดสูง[4] ในที่สุดน้องสิบสองก็เชิดหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว” องค์ชายหรงเช่อยิ้มบางๆ

กู้ซีจิ่วได้ฟังคำแก้ตัวขององค์ชายหรงเหยียนก็ลอบยิ้มเยาะ

คู่หมั้นราคาถูกคนนี้ของเธอเป็นพระโอรสของจักรพรรดิ รัชกาลปัจจุบันกับสนมขั้นรองนางหนึ่ง สนมนางนี้ไม่ค่อยได้รับความโปรดปรานสักเท่าไหร่ ยามองค์ชายหรงเหยียนอายุได้ 3 ขวบก็ถูกพบว่ามีรากฐานวิญญาณธาตุนํ้าที่แสนอ่อนแอ ถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่สามารถมีอนาคตที่รุ่งเรืองได้จึงไม่ได้รับความสนใจจากองค์จักรพรรดิ ชีวิตความเป็นอยู่ของสองแม่ลูกในวังเลยไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ต่อมาจักรพรรดิได้กำหนดตัวกู้ซีจิ่วของสกุลกู้ไว้เป็นสะใภ้ทว่ายังไม่ได้ระบุว่าจะให้แต่งกับองค์ชายองค์ไหน จนกระทั่งกู้ซีจิ่วอายุได้ 3 ขวบ หลังจากถูกพบว่าไม่มีรากฐานวิญญาณ เป็นแค่สวะไร้ค่า เหล่าสนมของจักรพรรดิที่มีบุตรชายอายุเข้าเกณฑ์ไม่ว่าใครก็ล้วนไม่อยากให้บุตรชายรับการหมั้นหมายครั้งนี้ ยามจักรพรรดิถามหยั่งเชิงดูก็จะใช้สารพัดวิธีเพื่อหลีกเลี่ยง องค์จักรพรรดิไม่อยากผิดคำพูดกับสกุลกู้จึงรู้สึกพิโรธอยู่บ้าง พระมารดาขององค์ชายหรงเหยียนเข้าอกเข้าใจผู้อื่นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของจักรพรรดิ จึงเสียสละบุตรชายของตนให้องค์ชายหรงเหยียนเป็นผู้รับการหมั้นหมายครั้งนี้ เป็นเพราะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิรู้สึกติดค้างพวกเขาแม่ลูกอยู่นิดหน่อย ในที่สุดก็ดีกับสองแม่ลูกขึ้นมาบ้าง ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจึงดีขึ้นไม่น้อย องค์ชายหรงเหยียนและพระมารดาได้ดีดลูกคิดรางแก้วไว้แล้ว ถึงอย่างไรเสียหรงเหยียนในยามนั้นก็ดีกว่าเศษสวะเพียงเล็กน้อย ภายภาคหน้าในยามที่ต้องสมรสย่อมไม่อาจแต่งกับตระกูลดีๆ ได้ ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะทั้งอัปลักษณ์ และไร้ค่า แต่จะดีจะร้ายอย่างไรก็ยังเป็นบุตรสาวฮูหยินใหญ่ของแม่ทัพใหญ่ จวนแม่ทัพก็นับเป็นแหล่งพึ่งพิงที่มั่นคงไม่เลวสำหรับพวกเขา กล่าวอีกแง่ก็คือ บุรุษในอาณาจักรเฟยซิงสามารถมีภรรยาได้หลายคน ต่อไปหลังจากที่แต่งกับกู้ซีจิ่วแล้ว บุตรชายก็ยังตบแต่งหญิงสาวงดงามอ่อนหวานมาเป็นอนุภรรยาได้ แต่พระมารดาขององค์ชายหรงเหยียนเองก็นึกไม่ถึงว่า ในร่างขององค์ชายหรงเหยียนยังมีรากฐานวิญญาณอีกชนิดหนึ่งแอบแฝงอยู่ จนกระทั่งอายุสิบห้าปีถึงได้ปรากฏออกมา อีกทั่งรากฐานวิญญาณชนิดนี้ยังเป็นรากฐานวิญญาณธาตุทองระดับสูงที่พบได้ยากยิ่ง! ทำให้ยามนี้องค์ชายหรงเหยียนมิเพียงแต่ไม่ใช่สวะ แต่ยังเป็นอัจฉริยะอีกด้วย กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่โดดเด่นจากบรรดาองค์ชายทั้งหมด!

องค์ชายหรงเหยียนจึงได้เปลี่ยนจากไก่ป่าเป็นหงส์ฟ้า กลายเป็นบุคคลที่ได้รับความชื่นชมจากบรรดาคุณหนูลูกผู้ดีมีสกุลในเมืองหลวง รวมไปถึงกู้เทียนฉิงด้วย…

องค์ชายหรงเหยียนและพระมารดาย่อมเริ่มรู้สึกไม่พออกพอใจกู้ซีจิ่วขึ้นมา จึงสรรหาแผนการร้อยแปดพันเก้าเพื่อจะถอนหมั้นเสีย

แต่จนปัญญาที่ว่าจักรพรรดิทรงยึดถือว่าคำพูดกษัตริย์ ตรัสแล้วไม่อาจคืนคำ จึงไม่ยินยอมให้พวกเขาถอนหมั้น พวกเขาเลยได้แต่คิดวิธีการโสมมเช่นนี้ขึ้นมาเพื่อให้ร้าย กู้ซีจิ่ว…

เมื่อก่อนยามที่องค์ชายหรงเหยียนยังไร้ความสามารถอยู่ ก็ปฏิบัติต่อกู้ซีจิ่วค่อนข้างดี ในหนึ่งปีจะมาจวนแม่ทัพอยู่หลายคราเพื่อเยี่ยมเยียนกู้ซีจิ่ว ทั้งยังพานางไปเที่ยวเล่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กู้ซีจิ่วคนเดิมมอบหัวใจทั้งดวงไว้ที่เขา ยึดถือเขาเป็นแสงสว่างเดียวในชีวิตนี้ไหนเลยจะคาดว่าเขาจะประสงค์ร้ายต่อนางเช่นนี้จึงถูกหลอกให้เอาชีวิตไปทิ้งอย่างง่ายดาย…

กู้ซีจิ่วยืนพิงเสาอยู่ พลางเหลือบตามององค์ชายหรงเช่อคราหนึ่ง วันนี้องค์ชายแปดผู้ดูเหมือนอบอุ่นเจ้าสำราญ แต่ในความเป็นจริงกลับหยิ่งทระนง เอาแต่พูดแทนเธอ ทั้งในที่ลับและที่แจ้งอยู่ตลอดที่แท้แล้วมีเจตนาอะไรกันแน่?

อยากผดุงความยุติธรรม?

ไม่น่าจะใช่ เล่าลือกันว่าองค์ชายแปดผู้นี้มีนิสัยชั่วร้ายและเลือดเย็น ดูเหมือนจะสุภาพอ่อนโยนกับหญิงสาวทุกคน แต่แท้จริงแล้วแสนเย็นชาและไร้ไมตรี เขารัก อิสระเสรี ถึงจะมีหญิงสาวมากมายรายล้อม แต่เขาก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนไหนเลย

คำว่าผดุงความเป็นธรรมจึงไม่เข้ากับเขาสักเท่าไหร่

……………………………

[1]ฉื่อ เป็นหน่วยการวัดของจีน โดย 1 ฉื่อ = 10 นิ้ว

[2]มิได้กระทำเรื่องน่าละอาย ย่อมไม่หวาดกลัวปีศาจ มาเคาะประตู มีความหมายว่า หากไม่ได้ทำเรื่องน่าละอายใจ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะถูกจับได้หรือถูกเปิดโปง

[3]ปาท่องโก๋แก่ หมายถึง ผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชน หรือคนเจนโลก ลื่นไหลไปกับสถานการณ์

[4]ดอกงาแทงยอดสูง เป็นการเปรียบเปรยถึงชีวิตของคนที่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับดอกของต้นงาที่แทงยอดจนสูงชะลูดแล้วค่อยเบ่งบาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version