Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 270

บทที่ 270

ตอนนั้นเด็กคนนี้อยู่ในสภาพใดกัน?

‘ประหลาดตรงไหน?’

‘ร่างของท่านเหมือนไม่ใช่สวะไร้พลังตั้งแต่กำเนิด แต่คล้ายกับถูกผู้ใดผนึกเอาไว้ด้วยวิธีพิเศษ’ นํ้าเสียงหยกนภาไม่แน่ใจนัก

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ‘ถูกผนึกไว้ด้วยวิธีพิเศษ?’

‘ใช่ เหมือนถูกผนึกไว้ บัดนี้พลังวิญญาณของท่านฟื้นฟูกลับมาได้เล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะตราผนึกถูกทำให้เกิดช่องโหว่ หากตราผนึกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ บางทีท่านอาจจะเป็นอัจฉริยะพลังวิญญาณจริงๆ แบบที่สังหารทุกสิ่งได้ในพริบตา’ หยกนภาวาดฝันอันสวยงามให้เธอ

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว ‘แปลกนัก เจ้าของร่างนี้ฐานะต่ำต้อย นิสัยอ่อนแอ อีกทั้งเป็นเพียงบุตรสาวแม่ทัพคนหนึ่ง ผู้ใดจะวางแผนร้ายใช้วิชาผนึกกับนาง? หรือจะเป็นคนในจวนแม่ทัพพวกนั้น? เหลิ่งเซียงอวี้? กู้เทียนเฉา?’

‘เจ้านาย ตราผนึกบนร่างท่านประหลาดนักและลํ้าเลิศยิ่ง อย่าว่าแต่คนในจวนแม่ทัพพวกนั้นเลย ต่อให้เป็นองค์รัชหายาทหรงเจียเองก็ทำไม่ได้ ไม่มีพลังยุทธ์มากเพียงนั้น’

‘เช่นนั้นจะเป็นใคร?’

‘เดาไม่ออกเลย’ หยกนภาก็มืดแปดด้าน

กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง ‘ใช่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหรือไม่?!’

ถึงอย่างไร หนนี้ผนึกของเธอก็ถูกเขาแก้ไปเล็กน้อย ผู้ใดผูกผู้นั้นย่อมแก้…

‘ไม่ใช่กระมัง? เขาจะสร้างความลำบากให้เด็กสาวคนหนึ่งไปทำไม?’

กู้ซีจิ่วนึกถึงวาจาที่ตี้ฝูอีเคยกล่าวไว้ว่ารู้จักกับฮูหยินแม่ทัพ หัวใจเธอพลันสั่นไหว!

หรือว่าในวาจาที่ตี้ฝูอีกล่าวมาทั้งหมดจะเป็นความจริงบางส่วน!

เช่นว่าหลัวซิงหลานเคยอุ้มลูกไปขอความช่วยเหลือจากเขา…

จากข่าวคราวที่เธอแอบสืบทราบมา หลัวซิงหลานมารดาเจ้าของร่างนี้เป็นสตรีห้าวหาญนางหนึ่ง ก่อนแต่งงานเป็นสตรีประหลาดที่ท่องอยู่ในยุทธภพอย่างผ่าเผย หลังจากนางแต่งให้กู้เซี่ยเทียนถึงอยู่บ้านเลี้ยงดูบุตร นางจะรู้จักทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ไม่นับว่าแปลกประหลาดเกินไป

แต่ว่า ทูตสวรรค์’ฝ่ายซ้ายฐานะสูงส่งถึงเพียงนี้ หากบุตรของหลัวซิงหลานไม่ได้อยู่ในสภาวะคับขันยิ่ง นางคงไม่ดักขวางทางขอความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอย่างสุดชีวิตหรอก…

ตอนนั้นเด็กคนนี้อยู่ในสภาพใดกัน?

หลัวซิงหลานคงไม่ถึงขั้นไปหาทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเพียงเพื่อให้ตรวจชะตาบุตรหรอกกระมัง?!

ปัจจุบันนี้คงมีเพียงตี้ฝูอีผู้เดียวที่ทราบความจริง เพียงแต่หากเขาไม่พูด เกรงว่าเธอก็ไม่กล้าถามเช่นกัน

เธอมุ่นหัวคิ้ว ช่างเถอะ ความจริงบางอย่างถ้ายังไม่ถึงเวลาก็ไม่เผยออกมาหรอก ตอนนี้ดีร้ายอย่างไรเธอก็ฟื้นฟูพลังวิญญาณบางส่วนกลับมาได้แล้ว ไม่เพียงแต่ภายหน้าจะฝึกฝนวิชาที่เกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณได้เท่านั้น วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอก็พัฒนาขึ้นมากเพราะเหตุนี้ด้วย

เมื่อครู่ยามเธอพาตี้ฝูอีเคลื่อนย้ายก็เหมือนจะกำหนดตำแหน่งได้แม่นยำขึ้น ไม่มีข้อผิดพลาดด้านระยะทางที่เธอคาดไว้เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ในอดีตเรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย!

เช่นนี้ต่อให้เธอถูกโยนเข้าไปในป่าทมิฬก็ใช่ว่าจะต้องสิ้นชีพ เธอมีความมั่นใจครึ่งหนึ่งว่าจะหนีออกมาได้!

ขอเพียงเธอออกมาจากป่าทมิฬได้ก็นับว่าเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์แล้ว ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะไม่มีเหตุผลมาจับกุมเธออีกต่อไป ไม่สามารถจับตามองเธอเหมือนวิญญาณตามติดได้อีก

ส่วนหลงซือเย่ เป้าหมายหลักของเขาคงเป็นหญ้าวิเศษ หากเธอเข้าตาจนจริงๆ ก็ใช้หญ้าวิเศษมาข่มขู่ บังคับให้เขาวางมือไปซะ…

ตอนนี้เธอยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ปะทะกับเขาแบบแข็งชนแข็งย่อมเป็นการเอาไข่ไปทุบหินอย่างไม่ต้องสงสัย อีกอย่างหญ้าวิเศษต้นนี้ไม่มีประโยชน์ต่อเธอแล้ว ไม่ว่าจะทำลายทิ้งหรือมอบให้เขาก็

เหมือนกัน

ขณะที่เธอใคร่ครวญลู่ทางในอนาคตอยู่ในใจ จู่ๆ ก็สัมผัสอะไรบางอย่างได้!

ด้านนอกมีคน!

ถ้ำที่เธอและตี้ฝูอีอยู่ไม่มีทางเข้าออก ด้านนอกมีภูเขาเป็นกำแพง ขวางกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่กำแพงภูเขานี้ก็หนาสองฉื่อ กล่าวกันตามเหตุผลแล้วค่อนข้างจะเก็บเสียง ทว่าตอนนี้เธอไม่เหมือนเมือก่อนแล้ว นั่งสงบใจอยู่ในถ้ำยังสามารถได้ยินความเคลื่อนไหวด้านนอกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version