Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 271

บทที่ 271

หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง?

ตอนแรกด้านนอกมีเพียงเสียงลมพัดและเสียงสัตว์ป่าเดินผ่านนานๆ ครั้ง แต่บัดนี้กลับมีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน!

คนผู้นั้นเคลื่อนไหวแผ่วเบายิ่ง กระทั่งทำให้คนไม่ได้ยินเสียงลมหายใจของเขา แต่กู้ซีจิ่วสัมผัสเจอเขาแล้ว สัญชาตญาณของเธอถึงขั้นรู้สึกได้ถึงอันตรายร้ายแรง!

คนผู้นั้นคงจะเป็นคนที่ตี้ฝูอีต้องการหลบเลี่ยงเมื่อครู่…

กู้ซีจิ่วอดมองไปทางตี้ฝูอีไม่ได้ เห็นเขายังนั่งหลับตาอยู่เหมือนเดิม มีแสงจางๆ แผ่ออกมาจากร่าง ดูราวกับพระพุทธในแสงทองก็มิปาน

เฮอะ คนผู้นี้ไม่เหมือนพระพุทธหรอก เหมือนอสุราเสียมากกว่า

อย่างมากก็เป็นอสุราที่สวมร่างเป็นพระพุทธ…

ใกล้ถึงครึ่งชั่วยามแล้ว เขาน่าจะโคจรพลังเกือบเสร็จแล้วกระมัง? เธอฟังความเคลื่อนไหวด้านนอกพลางเขยิบเข้าใกล้ตี้ฝูอีอย่างไร้สุ้มเสียง

ในเมื่อเธอรับปากเขาแล้วก็ต้องทำให้ใด้ อุ้มเขาหนียามจำเป็น!

กลิ่นอายของคนด้านนอกใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงเคาะที่ดังลอดเข้ามา…

กู้ซีจิ่วกลั้นหายใจ คนที่อยู่ด้านนอกผู้นั้นเคาะเบาๆ ย่อมมิใช่การเคาะประตูตามมารยาท แต่เป็นการตรวจสอบว่าผนังถ้ำกลวงหรือไม่!

เสียงเคาะดังขึ้นสองครั้งก็หยุดลงทันที จากนั้นแรงกดดันมหาศาลก็ ถาโถมเข้ามา…

ผนังหินหนาสองฉื่อเกิดเสียงประหลาด มีทีท่าจะถล่มลง!

ไม่ดีแล้ว เกรงว่าคนผู้นี้คงพังผนังเข้ามาได้ในชั่วพริบตา กู้ซีจิ่วไม่ลังเลอีกต่อไป ก้าวเข้าไปอุ้มตี้ฝูอี…

เขานั่งอยู่เช่นนี้ เธอจึงทำได้เพียงอุ้มเขาด้วยท่าเจ้าหญิง วางแขนข้างหนึ่งไว้ด้านหลังเขา แขนอีกข้างซ้อนเข้าที่ข้อพับเข่า…

เขาตัวสูง ส่วนกู้ซีจิ่วทั้งผอมทั้งเตี้ย ทำท่าทางเช่นนี้เปลืองแรงอย่างยิ่งจริงๆ!

ขณะที่เธอกำลังอุ้มเขาขึ้นมา เขาที่อยู่ในอ้อมกอดเธอกลับลืมตากะทันหัน…

แขนกู้ซีจิ่วแข็งทื่อ ชั่วขณะที่เขาลืมตาขึ้น ก้นบึ้งดวงตาคล้ายมีแสงศักดิ์สิทธิ์วูบวาบ เสมือนบ่อนํ้าลึกกินคนที่ต้องการจะดูดคนเข้าไปจริงๆ!

กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง “ท่าน…”

‘ตู้ม…’ ในที่สุดผนังหินด้านนอกก็ถล่ม ท่ามกลางเศษหินที่ปลิวว่อน คนผู้หนึ่งก้าวเข้ามาอย่างองอาจ…

กู้ซีจิ่วเกร็งไปทั้งร่าง ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวอะไร อ้อมแขนพลันเบาโหวง ตี้ฝูอีเหินไปยืนบนพื้นแล้ว เขายิ้มอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนให้กับผู้ที่พังกำแพงเข้ามา “ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเข้ามาซะดังสนั่นสั่นไหวถึงเพียงนี้ เป็นเพราะตามหาข้าหรือ?”

ผู้ที่มาสวมอาภรณ์ดำ ใบหน้าสวมหน้ากากแสนเย็นชา แต่กลิ่นอายเช่นนั้น บุคลิกเช่นนั้น กู้ซีจิ่วคุ้นเคยดี

ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเทียนจี้เยวี่ย!

นึกไม่ถึงว่าคนที่ตี้ฝูอีต้องการหลบเลี่ยงเมื่อครู่ก็คือคนผู้นี้!

รํ่าลือกันว่าถึงแม้ทูตสวรรค์ซ้ายขวาเป็นสหายร่วมราชสำนัก ทว่าก็เป็นศัตรูคู่อาฆาต บาดหมางกันเสมอ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง?

แสงดาวส่องเข้ามาภายในถ้ำ ทูตสวรรค์ซ้ายขวายืนประจันหน้ากัน ตี้ฝูอีเอ้อระเหยดุจสายลม เทียนจี้เยวี่ยลึกลํ้าดุจมหาสมุหร สายตาเทียนจี้เยวี่ยตกลงบนร่างตี้ฝูอี ผ่านไปครู่หนึ่งจึงยิ้มบางๆ “ตอนข้าสัมผัสได้ว่าสหายตี้อยู่ที่นี่ ข้ายังแคลงใจอยู่บ้างว่าเหตุใด บุคคลเช่นท่านถึงมารํ่าไรอยู่ในสถานที่เปลี่ยวร่างเช่นนี้ เกรงว่า สหายตี้จะมีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นจึงมาสอดส่องดู นึกไม่ถึงว่าสหายตี้กับคุณหนูกู้จะหลบซ่อนอยู่ด้านหลังผนังเขาลูกนี้ กำลังทำอะไรกันอยู่หรือ?”

ตี้ฝูอีพาดแขนข้างหนึ่งไว้บนบ่ากู้ซีจิ่ว ยิ้มเอื่อยเฉื่อย “ที่แท้สหายจี้เยวี่ยมาดูเพราะไม่วางใจนี่เอง ข้านึกว่าท่านมาเพราะต้องการซ้ำเติมเสียอีก”

นัยน์ตาเทียนจี้เยวี่ยวูบไหวเล็กน้อย เอ่ยนํ้าเสียงเยือกเย็น “ท่านคิดมากไปแล้ว!ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

ตี้ฝูอีเอนตัวพิงผนังเขา “ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานแก่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาด้วยหรือ?”

เทียนจี้เยวี่ยเงียบงัน เห็นได้ชัดว่าฝีปากเขาสู้ตี้ฝูอีไม่ได้ จึงตัดบท ไม่พูดอีก ทว่าสายตาที่มองคนทั้งสองกลับแฝงแววเฉียบคม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version