บทที่ 272
วิกฤตคลี่คลายลงเช่นนี้หรือ?
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “ข้าได้รับบาดเจ็บ พลังยุทธ์เสื่อมถอยกว่าครึ่ง เดิมคิดหาสถานที่เงียบสงบสักแห่งเพื่อพักฟื้นสักหน่อย ยังถูกท่านสะกดรอยตามจนเจอ ขัดจังหวะการโคจรฟื้นฟูพลังของข้า หากทูต สวรรค์ฝ่ายขวาต้องการถือโอกาสนี้สะสางความแค้นส่วนตัวที่นี่ ข้าก็คงจนปัญญา”
กู้ซีจิ่วใจกระตุก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเทียนจี้เยวี่ยมาร้าย ตี้ฝูอีบ้าไปแล้วหรือ? เหตุใดถึงพูดความจริงออกมาจนหมด?! หนนี้เทียนจี้เยวี่ยต้องเล่นงานแน่!
ดวงตาเทียนจี้เยวี่ยสาดแสงแวบหนึ่ง ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม ทว่า อานุภาพรอบกายกลับค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น
พวกเขาสองคนจะเปิดฉากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นที่นี่หรือไม่?
ความคิดกู้ซีจิ่วเพิ่งจะมาถึงตรงนี้ ฝ่ามือตี้ฝูอีก็กดลงบนบ่าเธอ ก่อนยิ้มละไม “หรือท่านทูตสวรรค์มิเชื่อ? แม่นางกู้ผู้นี้สามารถเป็นพยานได้ นางถูกหลงซือเย่ลักพาตัวกลับไปที่สำนักถามสวรรค์ ข้าไปเจรจาด้วยตนเอง ถึงแม้จะโชคดีประสบความสำเร็จ แต่ก็ถูกกองกำลังพิทักษ์หุบเขาของเขาทำร้ายจนบาดเจ็บ มาถึงที่นี่ก็ยืนไม่อยู่อีก และหล่นลงมาจากชั้นเมฆ…จนถึงตอนนี้ยังคงวิงเวียนตาลายอยู่บ้าง ข้าในตอนนี้แรงเชือดไก่ยังไม่มีเลย จะเคลื่อนไหวยังต้องให้แม่นางกู้คุ้มกัน น่าสังเวชเสียจนไม่อาจสังเวชมากไปกว่านี้แล้ว หากท่านทูตสวรรค์ต้องการลงมือก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี”
ยามที่เขากล่าวหน้าผากมีหยาดเหงื่อผุดซึม สีหน้าก็ซีดเซียวอย่างยิ่ง ท่าทางเหมือนอ่อนแอเหลือเกิน
เทียนจี้เยวี่ยร้องเหอะ สะบัดหน้าจากไปทันที เขาเหินร่างขึ้นบนพญาอินทรีเนตรทองด้านนอก เพียงชั่วพริบตาก็จากไปไกลแล้ว
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
วิกฤตคลี่คลายลงเช่นนี้หรือ?!
จะง่ายดายเกินไปหน่อยแล้ว!
“ท่านใช้กลยุทธ์เมืองร้าง[1]หรือ? พลังยุทธ์ของท่านยังไม่ฟื้นฟูกลับมาจริงๆ ล่ะสิ?” กู้ซีจิ่วเอ่ยปากถามอย่างอดใจไว้ไม่ได้
ตี้ฝูอีนั่งลงบนหินเขียวก้อนหนึ่ง กล่าวเรียบๆ ว่า “ไหนเลยจะฟื้นฟูได้เร็วปานนั้น! ข้าแค่ใช้แผนปลอมเสมือนจริง จริงเสมือนปลอม หลอกให้เขาจากไป”
“เช่นนี้เขาก็ถูกหลอกง่ายเกินไปแล้ว” กู้ซีจิ่วส่ายหัว
รู้ส7กว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาช่างดูไม่เหมือนตัวละครขี้สงสัยเช่นซือหม่าอี้[2] แต่ก็ถูกหลอกเหมือนซือหม่าอี้จนได้
ดูท่าเมื่อก่อนเทียนจี้เยวี่ยคงถูกตี้ฝูอีหลอกบ่อยๆ ถึงเป็นเหมือนนกขี้ตื่นเช่นนี้…
“ในประโยคเมื่อครู่ข้าจงใจเหลือช่องโหว่เอาไว้ ถึงแม้กองกำลังพิทักษ์หุบเขาของสำนักถามสวรรค์จะร้ายกาจ ทว่าทำให้ข้าบาดเจ็บจริงๆ ไม่ได้หรอก อีกอย่างหากกองกำลังพิทักษ์หุบเขา เคลื่อนไหวจริง จะสามารถมองเห็นได้จากภายนอก เทียนจี้เยวี่ยผู้นี้น่าจะไปที่สำนักถามสวรรค์มาแล้ว เลยทราบว่ากองกำลังพิทักษ์หุบเขามิได้เคลื่อนไหว ดังนั้นยิ่งข้ากล่าวเช่นนี้เขายิ่งไม่กล้าลงมือ” ขณะนี้ตี้ฝูอีอารมณ์ดียิ่งนัก อธิบายแก่กู้ซีจิ่วเบาๆ
“เขาโดนท่านหลอกอยู่บ่อยๆ ใช่ไหม?”กู้ซีจิ่วถามคำถามสำคัญออกมา
“หวา เจ้าฉลาดเสียจริง!” ตี้ฝูอียกมือลูบศีรษะเธอพลางหัวเราะเบาๆ “เมื่อคนผู้หนึ่งโดนหลอกบ่อยครั้งเข้าย่อมหวาดระแวงกันบ้าง ก็ไม่มือะไรเสียหาย”
กู้ซีจิ่วตอบสนองว่องไว หลบเลี่ยงฝ่ามือเขา
อาจเป็นเพราะตี้ฝูอีในวันนี้พูดจาดีเป็นพิเศษ หรืออาจเป็นเพราะถึงอย่างไรคนทั้งสองก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาระยะหนึ่ง เมื่อกู้ซีจิ่วพูดคุยกับเขาก็ไม่ได้พะว้าพะวงมากขนาดนั้นแล้ว จึงหลุดปากออกไปประโยคหนึ่ง “ท่านกัปทูตสวรรค์ฝ่ายขวามีความแค้นอันใดกัน?”
“อืม เพียงแค่ทัศนคติด้านการเมืองไม่ตรงกันเท่านั้น อันที่จริงก็ไม่ได้แค้นเคืองกันมากมายนัก หากต้องหาข้อบาดหมางสักข้อออกมา ข้าสังหารลูกศิษย์ของเขานับหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วถาม “…เขามีลูกศิษย์กคน?”
“เพียงคนเดียว” ตี้ฝูอีถอนหายใจ “เขาค่อนข้างจู้จี้จุกจิกมากเรื่อง คัดเลือกลูกศิษย์เข้มงวดยิ่งกว่าคัดเลือกภรรยาเสียอีก เขารับคนผู้นั้นไว้เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ทำราวกับเก็บสมบัติลํ้าค่าได้”
กู้ซีจิ่วพูดอะไรไม่ออก
สังหารลูกศิษย์เพียงคนเดียวของผู้อื่น ไหนเลยจะเป็นเพียงทัศนคติด้านการเมืองไม่ตรงกัน นี่มันหนี้โลหิตชัดๆ!
………………………
[1] กลยุทธ์เมืองร้าง เป็นกลยุทธ์หนึ่งในเรื่องสามก๊ก จัดอยู่ในลำดับที่ 32 ของ 36 กลยุทธ์จีน
[2] ซือหม่าอี้ ตัวละครหนึ่งในเรื่องสามก๊ก