บทที่ 273
มีดของข้าไม่รู้จักท่าน
ไม่แปลกเลยที่ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาจะจงเกลียดจงชังเขา!
หากลูกศิษย์ที่เธออบรมสั่งสอนด้วยความเหนื่อยยากถูกเขาเชือดทิ้ง เธอก็จะตามล่าเขาอย่างสุดชีวิตเช่นกัน!
“แล้วทำไมท่านต้องสังหารเขา? ลูกศิษย์เขากระทำความผิดมหันต์หรือ? ใช่แล้ว ลูกศิษย์ของเขาเป็นหญิงหรือชายเล่า?”
ชาติก่อนกู้ซีจิ่วอ่านนิยายรักแนวศิษย์อาจารย์มาไม่น้อย ยามนี้จึงสังหรณ์ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเทียนจี้เยวี่ยกับลูกศิษย์อาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจอธิบายได้
แขนข้างหนึ่งของตี้ฝูอีพาดบนไหล่กู้ซีจิ่วอีกครั้ง “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปหน่อยแล้ว จำคำพูดข้าเอาไว้ ความอยากรู้อยากเห็นไม่เพียงฆ่าแมวได้ ยังฆ่าคนได้อีกด้วย ถ้าอยากมีชีวิตยืนยาวหน่อย ก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นของเจ้าเอาไว้ซะ…”
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
เหตุผลข้อนี้เธอเข้าใจดียิ่งกว่าใคร ตามปกติแล้วเธอก็ไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นมากนัก เพียงแต่คืนนี้…คืนนี้ตนค่อนข้างนิสัยเสียจริงๆ!
เธอยกยิ้มแล้วดึงแขนเขาออกอย่างว่องไว ถอยไปด้านหลังหลายก้าวอย่างลื่นไหลประดุจคลื่น จากนั้นกล่าวเฉยชา “หากท่านยังอยากมีชีวิตกลับไป ก็เก็บมือเท้าที่ชอบรุ่มร่ามของท่านไปซะ!”
ดวงตาตี้ฝูอีเป็นประกายแวบหนึ่ง ยื่นมือจะดึงเธอเข้าไปใกล้ๆ “ห้ามหนี!”
มือของเขาเกือบชนเข้ากับมีดเจ็ดสีเคลือบพิษของเธอแล้ว!
กู้ซีจิ่วไขว้มีดไว้ตรงอก ยิ้มคล้ายมิยิ้มพลางขู่ “โปรดระวังหน่อย ข้ารู้จักท่าน แต่มีดของข้าไม่รู้จักท่าน!” แล้วจึงถอยหลังไปอีกก้าว เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก”
ถ้าหนีตลอดก็ต้องถูกไล่ล่าไปตลอด มิสู้เผชิญหน้าตรงๆ เลยดีกว่า
เด็กสาวคนนี้ขี้โมโหยิ่ง ถึงแม้จะอ่อนแอทว่าไม่ยอมถูกดูหมิ่น…
ตี้ฝูอีลุกขึ้นยืน “ที่นี่ไม่เหมาะจะเป็นสถานที่นั่งสมาธิฟื้นฟูแล้ว เมื่อครู่เทียนจี้เยวี่ยตกใจกลัวหนีไป หากเขาจับจุดได้อาจย้อนกลับมาหาเรื่อง พวกเรากลับไปกันเถอะ”
เขาเพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ ด้านนอกก็พลันมืดทะมึน เทียนจี้เยวี่ย ปรากฏตัวตรงปากถํ้า “นึกว่าข้าเป็นหนูหรืออย่างไร? ไหนเลยจะถูกเจ้าทำให้ตกใจกลัวจนหนีไปง่ายดายปานนั้น!”
ตี้ฝูอีและกู้ซีจิ่วตกตะลึง
สายลมพัดโหมดุจกระแสนํ้า เมฆขาวลอยล่องดั่งระลอกคลื่น กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนหลังอาชาเวหา เม้มปากมองตี้ฝูอีที่นั่งอยู่ตรงข้าม คนผู้นี้ปากแดงฟันขาว ไหนเลยจะมองอาการป่วยทางจิตออก? ชุดคลุมสีม่วงของเขาสะอาดสะอ้าน ทุกรอยพับรอยจีบล้วนเปิดเผยงามสง่า ยิ่งไม่คล้ายจะเป็นผู้ที่เพิ่งหลอกลวงคนมา
ขณะนี้เขากำลังเป่าขลุ่ยอย่างสบายอกสบายใจ เสียงขลุ่ยอ้อยอิ่ง ดุจนางแอ่นล้อเกลียวคลื่น ดั่งมัจฉาแหวกว่ายใต้ธารา ท่วงทำนอง สำราญแจ่มชัด แว่ววนในเมฆาและจันทรา
กู้ซีจิ่วนึกถึงฉากการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น อดจะนวดคลึงหว่างคิ้วไม่ได้
ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาผู้น่าสงสาร ถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหลอกอีกแล้ว!
เมื่อบทสนทนาภายในถํ้าของเธอกับตี้ฝูอีรั่วไหลออกไป ก็ดึงดูดให้เทียนจี้เยวี่ยปรากฏตัวออกมาในที่สุด
เดิมทีเทียนจี้เยวี่ยต้องการจะเล่นงานตี้ฝูอีให้หมอบกระแตเพื่อล้างแค้นให้ลูกศิษย์ เมื่อปรากฏตัวก็ซัดฝ่ามือใส่ทันที!
ฝ่ามือนั้นสะท้านฟ้าสะเทือนดิน พอที่จะซัดให้ตี้ฝูอีที่ดูป่วยซมในยามนั้นปลิวออกไปราวกับแผ่นภาพได้!
ผลคือตี้ฝูอีที่ไร้เรียวแรงกลับหายป่วยทันที…
ศึกระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองเมื่อครู่สะท้านสะเทือนยิ่งนัก ภูเขาทั้งลูกถูกสายลมที่เกิดจากพวกเขาถางจนเตียน!
วรยุทธ์ของเทียนจี้เยวี่ยคงจะไม่ต้อยกว่าตี้ฝูอีนัก แต่ตอนเปิดฉากต่อสู้เขาคิดว่ากำลังตี้ฝูอีพลังแผ่วแล้ว จึงประมาหไปชั่วขณะ ผลคือ ช่วงต้นถูกตี้ฝูอีที่บ้าระหํ่าขึ้นมากะทันหันสกัดกั้นเอาไว้ สูญเสียโอกาสได้เปรียบไป ดังนั้นช่วงหลังจึงเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ จนพลิกสถานการณ์กลับไม่ได้…
จนกระทั่งเทียนจี้เยวี่ยกระอักเลือด บาดเจ็บสาหัสจนลุกไม่ขึ้น ตี้ฝูอีถึงได้ยั้งมือ…