บทที่ 316
จะไล่ที่ต้องใช้ความสามารถ
ถึงแม้การสวมเสื้อคลุมหนังหมีในวันที่หนาวเย็นจะเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นยอดฝีมือพลังวิญญาณขั้นสี่ขึ้นไปแทบทุกคน เมื่อพลังวิญญาณบรรลุขั้นสามร่างกายก็จะไม่หวั่นเกรงความเหน็บหนาว ดังนั้นนอกเหนือจากกู้ซีจิ่วแล้ว คนอื่นๆ ตรงนี้ล้วนสวมชุดที่ค่อนข้างบาง
นักล่ารางวัลหลายคนล้วนสวมเสื้อกางเกงแขนสั้นขาสั้นเพื่อความคล่องแคล่ว คุณชายชุดแพรผู้นั้นด้านในสวมเพียงเสื้อคลุมผ้าแพรบางๆ ตัวหนึ่ง ด้านนอกสวมเสื้อคลุมกันลมขนจิ้งจอก รูปโฉมหล่อ เหลาลํ้าเลิศ ดูสง่างามเงียบขรึม
ส่วนสตรีสองนางนั้นรักสวยรักงาม ย่อมแต่งกายประณีตชดช้อยกว่า
สตรีชุดเขียวมองการแต่งกายของกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง นัยน์ตาฉายแววดูแคลนขั้นมาก่อน คนที่ทนความเหน็บหนาวไม่ได้วรยุทธ์จะสูงส่งสักแค่ไหนกันเซียว?
นางเซิดหน้าขึ้น แส้ในมือชี้ไปที่กู้ซีจิ่ว “นี่ เจ้าได้ยินไหม?! ที่นี่พวกเราจองแล้ว รู้สถานการณ์ซะบ้าง รีบไสหัวไปให้พ้นเสีย!” นํ้าเสียงนางอวดดียิ่งนัก
มุมปากกู้ซีจิ่วยกโค้ง แย้มยิ้มขึ้น “นี่คือการไล่ที่รึ?”
เมื่อเธอกล่าวเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงเล็กน้อย
นํ้าเสียงของเธอใสกระจ่างน่าดึงดูด ฟังแล้วทราบทันทีว่าเป็นสตรี แถมยังเหมือนจะเยาว์วัยยิ่ง
คิ้วตาของคุณชายชุดแพรผู้นั้นกระตุก อดเพ่งพิจารณากู้ซีจิ่วอีกครั้งไม่ได้
นางห่อหุ้มมิดชิดยิ่ง แม้กระทั่งใบหน้านางเขาก็มองไม่เห็น เห็นเพียงดวงตาสุกสกาวดุจดวงดาราที่เปล่งประกายอยู่ภายใต้หมวกคลุม
นัยน์ตาสตรีชุดเขียวฉายแววดูแคลนหนักว่าเดิม กล่าวอย่างโอหังว่า “มิผิด เป็นการไล่ที่!”
“ที่แห่งนี้ข้ามาถึงก่อน ในเมื่อจะไล่ที่ก็ควรเป็นข้าไล่พวกท่านมิใช่หรือ?” นํ้าเสียงกู้ซีจิ่วแผ่วเบา
“อาศัยเพียงตัวเจ้าก็คิดจะมาไล่พวกเราแล้วหรือ? จะไล่ที่ต้องใช้ความสามารถ! มาก่อนมาหลังไม่สำคัญ! อย่าพูดให้มากความ! ถ้ายังไม่ไสหัวไปอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” สตรีชุดเขียวเย่อหยิ่ง โอหัง แส้ในมือชี้จนแทบจะทิ่มปลายจมูกกู้ซีจิ่ว
“ดีมาก!” กู้ซีจิ่วกล่าวเพียงสองคำ ร่างกายพลันไหววูบ!
สตรีชุดเขียวเบิกตาค้าง ประกายแสงเย็นเยียบปะทุขึ้นเบื้องหน้า!
นางตกใจมาก อยากจะหลบหลีกก็ไม่ทันกาลแล้ว ทำได้เพียงใช้แส้ไหมหองในมือปัดป้องอย่างสุดชีวิต
เสียงฉับๆ ดังเข้าหูอยู่ไม่ขาดสาย แส้ไหมหองในมือสตรีชุดเขียวขาดเป็นสามท่อน ร่วงลงบนพื้น
ไม่เพียงเท่านี้ ข้อมือของนางก็ถูกลำแสงเย็นเยียบทิ่มแทง รู้สึกเหน็บชาไปทั่วทั้งร่าง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้อพับขาจึงชาแปลบขึ้นมาทันใด นางควมคุมร่างกายไม่ได้จึงคุกเขาลงกับพื้นเสียงดังตึง อยู่เบื้องหน้ากู้ซีจิ่วพอดิบพอดี
กู้ซีจิ่วยืนอยู่ตรงนั้น ปลายกระบี่ลํ้าค่าจ่อที่คอสตรีชุดเขียว กล่าวเพียงประโยคเดียวว่า “คุกเข่าลงก็ไม่มีประโยชน์ เป็นข้าต้องไปหรือเป็นเจ้าที่ต้องไสหัวไป?”
สตรีชุดเขียวตะลึง
ทุกคนก็ตะลึงงัน
การเคลื่อนไหวของกู้ซีจิ่วรวดเร็วเหลือเกิน เร็วจนทำให้คนทั้งหมดตอบโต้ไม่ทัน! สายฟ้าแลบยังไม่เพียงพอจะใช้เปรียบเทียบกับความเร็วของเธอ!
นัยน์ตาคุณชายชุดแพรเป็นประกายแวบหนึ่ง
นี่คือวรยุทธ์พลังวิญญาณขั้นสี่หรือ?
ต่อให้มีพลังวิญญาณขั้นเจ็ด วิชาตัวเบาก็ไม่บรรลุผลเช่นนี้กระมัง?!
ไม่แปลกเลยที่นางสามารถสังหารหมีอสูรได้ภายในไม่กี่กระบวนท่า พลังยุทธ์เช่นนี้เกรงว่าคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีสักคนจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้!
กระบี่ลํ้าค่าของกู้ซีจิ่วเย็นยะเยือก ปลายกระบี่เย็นเยียบทาบลำคอสตรีชุดเขียว ทำให้ลำคอนางตีบตัน ร่างกายแข็งทื่อ ขนทั้งหมดลุกชัน!
นางมองแส้อ่อนที่ร่วงอยู่บนพื้น นัยน์ตาแดงก่ำ!
แท้จริงแล้วแส้อ่อนเส้นนี้เป็นสมบัติลํ้าค่าชิ้นหนึ่ง แฝงพลังธาตุนํ้า ยามกวัดแกว่งอย่างแท้จริงขึ้นมาจะทำให้นางสามารถเรียกใช้หิมะและนํ้าแข็งที่อยู่รอบๆ ได้ ปกติแล้วนางตัดใจใช้ไม่ลง ทว่ายามนี้กลับ…
นางทั้งกลัวทั้งโกรธ อยากจะลุกขึ้น แต่ร่างกายเหน็บชาอย่างยิ่ง นางขยับไม่ได้เลย จึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากสตรีชุดชมพู “ศิษย์พี่…”