บทที่ 317
ตาต่อตาฟันต่อฟัน
สตรีชุดชมพูถอนหายใจเบาๆ มองกู้ซีจิ่ว “แม่นาง โปรดเห็นแก่ ใบหน้าบางๆ ของข้า หนนี้ปล่อยนางไปสักครั้งได้หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “เจ้าเป็นใคร?”
“พวกเราเป็นศิษย์’ของสำนักถามสวรรค์ อาจารย์ของข้าคือนักพรต เซียวเหยา ข้าคือศิษย์คนโตของเขาเล่อเจียจวิน นางคือศิษย์น้องของข้าถานเซี่ยวเกอ” สตรีชุดชมพูแจ้งนามสำนักตน
ถานเซียวเกอยืดอกขึ้นมาอีกครั้ง พวกนางคือศิษย์สายในของผู้อาวุโสสำนักถามสวรรค์ สำนักที่มีชื่อเสียงมากในทวีปนี้
โดยเฉพาะเล่อเจียจวิน นางเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถ ล่ำลือกันว่าวิชาแพทย์ก็ลํ้าเลิศยิ่ง มีชื่อเสียงรองลงมาจากอาจารย์อาของพวกนาง กู่ซีซี…
ถานเซี่ยวเกอนึกว่าพอแจ้งนามสำนักออกไปแล้ว อีกฝ่ายจะรีบยอมแพ้ทันที และขอขมาต่อพวกนาง ต่อให้ไม่ขอขมาอย่างน้อยก็น่าจะยอมปล่อยนางไป
แต่นึกไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วกลับไม่ไว้หน้าเลย “ไม่รู้จัก! อยากช่วยนางก็พานางไสหัวไปซะ ข้าจะไล่ที่!”
วาจานี้ของเธอนำคำพูดก่อนหน้านี้ของถานเซี่ยวเกอมาพูดใหม่ คนที่อยู่เหตุการณ์ล้วนอํ้าอึ้ง
คงจะเป็นครั้งแรกของสตรีชุดชมพูที่มีคนไม่ไว้หน้านางถึงเพียงนี้ ดวงหน้าพริ้มเพราเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด นางมองคุณชายชุดแพร “หลงซื่อจื่อ”
หวังให้เขาช่วยออกหน้า สั่งการให้นักล่ารางวัลเหล่านี้ลงมือสั่งสอนกู้ซีจิ่ว
สายตาหลงซื่อจื่อวนเวียนอยู่ที่ใบหน้ากู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “ตัวข้าเซียวเหยาโหวหลงโม่เหยียน มิทราบว่าชื่อเสียงเรียงนามของแม่นางคือ?”
ศิษย์หญิงสำนักถามสวรรค์ คนแซ่หลง…
กู้ซีจิ่วเอียงหัว “ข้าแค่ไล่ที่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องแจ้งนาม!” น้ำเสียงของเธอเย็นชา ทว่าทรงอำนาจยิ่ง “ความอดทนของข้ามีจำกัด ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ไปอีกข้าคงทำได้เพียงส่งนางไปยมโลก!”
คาดว่าถานเซี่ยวเกอเพิ่งเคยเสียเปรียบเช่นนี้เป็นครั้งแรก จึงโกรธเคืองจนใบหน้าเขียวคลํ้า มองไปที่นักล่ารางวัลเหล่านั้นอย่างเหลืออด “พวกเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ? เหตุใดยังไม่ลงมือสั่งสอนนางอีก?! พวกเรามีกันตั้งหลายคนจะเอาชนะนางคนเดียวไม่ได้เชียวหรือ?!”
นักล่ารางวัลมุทะะลุดุดันเป็นที่สุด และเลื่อมใสผู้แข็งแกร่งยิ่งนัก การรุมโจมตีผู้อื่นคือเรื่องต้องห้ามที่สุด แถมยังสั่งให้พวกเขารุมโจมตีแม่น้อยผู้หนึ่งอีก!
นํ้าเสียงซานซิงเย็นชา “หากเจ้าถูกสังหาร พวกเราค่อยลงมือ!”
ถานเซี่ยวเกอตะลึงงัน
หลงซื่อจื่อมองดอกอสูรเหมันต์บนผาที่อยู่ไม่ไกล ค่อยยังชั่ว ต้านบนมีดอกไม้นี้อยู่สามสิบถึงสี่สิบต้น ปกติแล้วตอกไม้นี้จะขึ้นกระจัดกระจายกัน มีที่ขึ้นเป็นหย่อมเล็กๆ เหมือนยามนี้น้อยจริงๆ
เขายิ้มน้อยๆ เจรจากับกู้ซีจิ่วแล้วประสานมือ “แม่นาง เมื่อครู่เป็นพวกเราเองที่ผิด ข้าจะชดเชยให้ท่าน”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองดูเขา ไม่เอ่ยเอื้อนอันใด
หลงซื่อจื่อจึงกล่าวต่อ “ข้าสังเกตดูแล้วดอกอสูรเหมันต์ด้านบนนั้น มีอยู่สามสิบถึงสี่สิบต้น โดยทั่วไปสองต้นก็เพียงพอจะทำตัวยาแล้ว แม่นางคงไม่ใช้มากถึงเพียงนั้นกระมัง?”
กู้ซีจิ่วยิ้มนิดๆ กล่าวเพียงสองคำทว่าแสนเย็นชา “ไม่แน่!”
อันที่จริงเธอไม่ได้ใช้มากขนาดนั้นจริงๆ เดิมทีก็มิใช่ว่าแบ่งปันกันไม่ได้ แต่เมื่อกี้พวกเขาคิดจะไล่ที! เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจ!
หลงซื่อจื่ออํ้าอึ้ง รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าแม่นางผู้นี้ช่างไม่เกรงใจเลยจริงๆ แต่นางก็มีคุณสมบัติพอจะทำเช่น นี้…
เขาก็ทราบว่าคำพูดเมื่อครู่ของถานเซี่ยวเกอทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้อีกฝ่ายเพียงแค่ล้างแค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น
เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเจรจาเงื่อนไขกับกู้ซีจิ่ว “แม่นาง สมุนไพรนี้ค่อนข้างประหลาด เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้องหลอมกลั่น ณ จุดนั้นทันที มิฉะนั้นจะสูญเสียสรรพคุณยาภายในครึ่งวัน แล้วยังมีสัตว์ร้ายคอยพิทักษ์อยู่ใกล้ๆ สมุนไพรนี้ด้วย เมื่อเริ่มเก็บเกี่ยวย่อมเป็นการก่อกวน พวกมันจะไล่ล่าสังหารผู้เก็บเกี่ยวอย่างไม่ตายไม่เลิกรา เมื่อเป็นเช่นนั้นต่อให้แม่นางบุกเดี่ยวเข้าไปเก็บสมุนไพรมาได้ ก็ไม่มีเวลาหลอมกลั่นอยู่ดี มิสู้ท่านร่วมมือกับพวกเรา สมุนไพรในแถบนี้พวกเราแบ่งกันสามต่อเจ็ด ท่านเจ็ดพวกเราสาม แล้วคนของพวกเรายังช่วยคุ้มกันยามแม่นางหลอมยาได้ด้วย ท่านคิดว่าอย่างไร?”