Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 367

บทที่ 367

นางผูกสัมพันธ์รักกับองค์รัชทายาทแล้วจริงๆ!

กำไลวงนั้นสะดุดตาอย่างยิ่ง สามารถกล่าวได้ว่าโดดเด่นดั่งแมงป่องชูหางอวดอ้างฤทธี ขุนนางใหญ่ในราชสำนักมีเก้าในสิบคนที่รู้จักกำไลวงนี้

นี่เป็นสิ่งที่เองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทในแต่ละสมัยมอบให้ผู้ที่จะมาเป็นชายารัชทายาทหรือฮองเฮา บ่งชี้ว่าจะเป็นมารดาของแผ่นดินในภายภาคหน้า กำไลสร้างจากหยกชนิดพิเศษ ลํ้าค่ากว่า หยกสกุลเหอ[1]เสียอีก หยกชนิดใดก็สร้างเลียนแบบไม่ได้!

แต่ยามนี้กำไลวงนี้อยู่ในมือของกู้ซีจิ่ว ดูเหมือนสิ่งที่นางพูดจะเป็นความจริง นางผูกสัมพันธ์รักกับองค์รัชทายาทแล้วจริงๆ!

ในอาณาจักรเฟยซิงถึงแม้การแอบผูกสัมพันธ์รักจะเป็นเรื่องเสื่อมเสีย แต่ขอเพียงบุรุษยังมิได้แต่งงาน สตรียังมิได้ออกเรือน ก็จะไม่ถูกประณาม

หากทั้งสองคนได้รับความเห็นชอบยอมรับจากบิดามารดา กลับจะกลายเป็นเรื่องมงคล

เนื่องจากบุตรธิดาผูกสัมพันธ์รักกันแล้ว เรื่องราวจะเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของบุตรธิดา ดังนั้นขอเพียงอีกฝ่ายไม่ขี้ริ้วเลวร้ายจนเกินไป ต่อให้ในใจของบิดามารดาไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จะช่วยสนับสนุนเต็มที่

ยกตัวอย่างเช่นยามนี้ จักรพรรดิซวนทึ่มทื่อไปเล็กน้อย

กู้เซี่ยเทียนยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่!

หากเขาคัดค้าน จะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของกู้ซีจิ่วยิ่งนัก!

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางในที่สุด คุกเข่าไปทางจักรพรรดิซวนเสียงดังตึง “ฝ่าบาท ขอพระองค์ช่วยสงเคราะห์บุตรสาวกระหม่อมด้วยเถิด!”

ใบหน้าองค์ชายหรงฉู่เขียวคลํ้าทันที! พรรคพวกฝ่ายองค์ชายสี่มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปชั่วขณะ

จักรพรรดิซวนพูดอะไรไม่ออก

เขามองกู้ซีจิ่ว แล้วมององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวต่อ ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ผลลัพธ์นี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาเกินไป

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ถามกู้ซีจิ่ว “จิ่วเอ๋อร์ เจ้าชอบเจียหลัวจริงหรือ?”

กู้ซีจิ่วตอบอย่างรวดเร็วนัก “ชอบเพคะ หากหม่อมฉันได้หมั้นหมายกับองค์รัชทายาท ความมั่นใจจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างทบทวีแน่นอน และจะพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อออกมาจากป่าทมิฬ ด้วยไม่อยากเนรคุณต่อความเมตตาขององค์รัชทายาท…”

ทั้งที่รู้แจ่มแจ้งว่านางแสดงละครอยู่ ทว่าสายตาที่หรงเจียหลัวมองนางก็ยังคงทอประกายเล็กน้อย!

เขาคุกเข่าลงเช่นกัน “เสด็จพ่อ ขอเสด็จพ่อช่วยสงเคราะห์ด้วยเถิดพะย่ะค่ะ!”

เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วคงยากที่จักรพรรดิซวนจะพูดเป็นอื่น จึงถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้…”

ยังไม่ทันได้กล่าวประโยคหลังจนจบ ก็ถูกเสียงเฉื่อยชาเสียงหนึ่งขัดจังหวะ “เอาละ! ละครควรสิ้นสุดลงตรงนี้ได้แล้ว!”

เสียงนั้นเป็นของตี้ฝูอี เมื่อเปิดปากเอ่ยก็เสมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิรำเพยผ่านโลก ทำให้ทั่วทั้งห้องโถงอบอุ่นขึ้นมา

จักรพรรดิซวนชะงักค้าง

กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด! เธอยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง จู่ๆ ในมือก็เบาโหวง กำไลวงนั้นหายไปแล้ว!

เธอตกตะลึง หันไปมองตี้ฝูอีทันที

กำไลที่ล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้วงนั้นกำลังหมุนติ้วอยู่บนปลายนิ้วตี้ฝูอี ดูเหมือนพร้อมจะลอยละลิ่วออกไปได้ทุกเมื่อ!

“ท่าน…” กู้ซีจิ่วอกสั่นขวัญแขวน พุ่งไปคว้าตามสัญชาตญาณ การเคลื่อนไหวของเธอกล่าวไม่ได้ว่าเชื่องช้า แต่ตี้ฝูอีรวดเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด เธอพุ่งออกไปคว้าปานสายฟ้าแลบแต่ก็คว้าได้ความว่างเปล่า! ฉวยได้เพียงมุมชุดเขา

ฝูงชนบื้อใบ้กันไปหมด

จักรพรรดิซวนก็โง่งมไปแล้วเช่นกัน “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย…นี่หมายความว่าอย่างไร? ละ…ละครอะไร?”

“คุณหนูกู้ยังมีสัญญาหมั้นหมายอื่นอยู่กับตัว ดังนั้นการผูกสัมพันธ์รักของนางกับองค์รัชทายาทจึงไม่นับว่ามีผล!”

ตี้ฝูอีพลันดีดปลายนิ้ว ดีดกำไลวงนั้นออกไปราวกับดีดขยะก็ไม่ปาน มันพุ่งตรงไปหาองค์รัชทายาทหรงเจียหลัว องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวหน้าเปลี่ยนสี ทำได้เพียงรับเอาไว้

วาจาที่ตี้ฝูอีกล่าวออกมาทำให้คนทั้งหลายตกตะลึงจนเบิกตากว้าง

สัญญาหมั้นหมายอื่น? สัญญาหมั้นหมายอื่นอะไรกัน?

จักรพรรดิซวนฝืนยิ้มเอ่ย “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านหมายถึงสัญญาหมั้นหมายของจิ่วเอ๋อร์กับหรงเหยียนหรือ? ท่านทูตสวรรค์น่าจะไม่ทราบ หรงเหยียนก่อเรื่องเช่นนั้น ย่อมไม่คู่ควรกับจิ่วเอ๋อร์แล้ว ดังนั้นเราเลยตัดสินใจยกเลิกสัญญาหมั้นหมายระหว่างนางกับเหยียนเอ๋อร์เมื่อครึ่งปีก่อน ยามนี้จิ่วเอ๋อร์จึงไร้พันธะ…”

“สัญญาหมั้นหมายอื่นที่ข้ากล่าวถึงมิใช่สัญญาหมั้นหมายของนางกับองค์ชายหรงเหยียน” นํ้าเสียงเขาสง่าดุจสายลม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version