Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 372

บทที่ 372

เจ้าจะวอแวข้าไหม

แถมเขายังหัวเราะเสียงแผ่วอยู่ข้างหูเธอด้วย “ร้อนใจอยากอิงแอบแนบอกข้าขนาดนี้เลย?”

อิงแอบน้องสาวเจ้าสิ แนบอกน้องสาวเจ้าสิ!

กู้ซีจิ่วดิ้นรนให้พ้นจากอ้อมกอดเขาอย่างน่าเวทนา จากนั้นกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเองอีกครั้ง

จะว่าไปแล้วก็แปลก เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นเธอจะสุขุมเยือกเย็นเสมอ ไม่เคยเสียอาการเลย

แต่พออยู่ต่อหน้าคนผู้นี้ปฏิกิริยาโต้ตอบของเธอกลับเชื่องช้าอืดอาด เสียอาการอยู่ร่ำไป

หรือดวงของเธอกับเขาจะข่มกัน?

พวงแก้มกู้ซีจิ่วร้อนผ่าว รู้สึกว่าสมองไม่แจ่มใสนัก เธอจะต้องจัดระเบียบความคิดสักหน่อย…

ไม่ถูกสิ เดี๋ยวนะ! เรื่องที่เดาว่าเขาเป็นต้วนซิ่วเธอเคยบอกกับหยกนภาเท่านั้น ไม่เคยบอกคนอื่นเลย แล้วทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปทราบเรื่องนี้มาจากไหน? หยกนภาคงบอกเขาไม่ได้กระมัง?

เธอมองหยกนภาบนข้อมืออย่างเคลือบแคลงใจ

หยกนภาก็ประหลาด ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้ตี้ฝูอี เจ้าสิ่งนี้จะบื้อใบ้เหมือนแกล้งตาย…

เธอเพิ่งจะนั่ง ตี้ฝูอีก็ค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้อีกครั้ง “อันที่จริง เหตุผลที่ข้าเลือกเจ้ายังมีข้อ เจ้าอยากฟังหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วกัดฟันตอบ “อยาก!”

ตี้ฝูอีมองเธอพลางกล่าว “สตรีในโลกต่างไล่ตามข้า มีเจ้าคนเดียวที่แตกต่าง หวั่นเกรงข้าแต่หลบเลี่ยงไม่พ้น…ข้าสนใจใคร่รู้ยิ่ง…”

กู้ซีจิ่วกล่าว “…ที่มันเหตุผลบ้าอะไรกัน? แต่งภรรยามิใช่ล้วนแต่งเพราะรักหรอกหรือ? นี่จะแต่งเพราะสนใจใคร่รู้?”

เขายังปกติดีอยู่ไหม? ผู้ที่รักเขามีมากมายกลับไม่แต่ง ไยต้องมาบีบบังคับเธอที่แค่เห็นเขาก็อยากวิ่งหนีแล้ว…

“มิใช่เจ้าหรอกหรือที่กล่าวว่าข้าอยากหาเกราะกำบัง? ในเมื่อเป็นเพียงเกราะกำบัง ย่อมต้องหาผู้ที่รู้ความ…ข้าสนใจใคร่รู้ในตัวเจ้า แล้วเจ้ายังรู้ความอย่างยิ่ง”

กู้ซีจิ่ว “รู้ความ? ภายหน้าท่านจะได้สลัดทิ้งอย่างสะดวกสินะ?”

ไม่รักเขาก็จะไม่วอแวเขา ความหมายเขาคือเช่นนี้กระมัง?

“แล้วเจ้าจะวอแวข้าไหม?”ตี้ฝูอีถามกลับ

“แน่นอนว่าไม่!”

นัยน์ตาตี้ฝูอีเหมือนจะมีประกายมืดมัวพาดผ่าน ริมฝีบางหยักยิ้มบางๆ “นั่นไง แทนที่จะไปเล่นละครเรื่องนี้กับหรงเจียหลัว มิสู้มาเล่นกับข้าดีกว่า”

กู้ซีจิ่วไร้ซึ่งวาจา

บุรุษผู้นี้ร้ายกาจจริงๆ ถึงกับมองแผนการเล่นละครของเธอกับหรงเจียหลัวออก…

แต่องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวเป็นสุภาพบุรุษ เขาพูดคำไหนย่อมเป็นคำนั้น ต่อให้เธอหมั้นหมายกับเขา ก็สามารถยุติได้อย่างดายในภายภาคหน้า

แต่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้กลับสลัดทิ้งอย่างง่ายดายเช่นนั้นไม่ได้ ตัวแปรมากเกินไป!

แต่เธอไร้หนทางจะปฏิเสธคนผู้นี้

ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นแผนรับมือแค่ชั่วคราว เมื่อเธอเข้าสู่ป่าทมิฬแล้วออกมาได้ก็จะเปลี่ยนตัวตนซะ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจบัญชีเก่าที่ซับซ้อนเหล่านี้…

ขณะที่เธอขบคิดอยู่ในใจ จู่ๆ มือก็ถูกดึงไป กู้ซีจิ่วไม่ได้ตั้งตัว ถูกเขาดึงจนเซถลา เกือบจะพุ่งเข้าไปในอ้อมอกเขา!

เธอตกตะลึง เตรียมจะขืนกายออก มือข้างหนึ่งของเขาก็พลันโอบรัดเอวเธอไว้ ริมฝีปากเขาเคลื่อนเข้าหาเธออีกครั้ง หัวเราะอยู่ข้างหูเธอ “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าวางแผนอะไรไว้? เจ้าคิดว่าหลังจากเข้าป่าทมิฬไปแล้ว พอออกมาอีกครั้งจะเปลี่ยนตัวตนเสียใช่หรือไม่?”

มือของกู้ซีจิ่วที่เดิมทีคิดจะซัดใส่เขาตามสัญชาตญาณ เมื่อได้ยินวาจานี้ของเขา ก็พลันแข็งค้างในชั่วพริบตา

“ท่าน…”

“ข้ารู้วิชายุทธ์ทั้งหมดของเจ้า…” ตี้ฝูอีกระซิบข้างหูเธอต่อ นํ้าเสียงเขาถึงขั้นเจือแววยิ้มหัว “เจ้าก็รู้ซึ้งถึงฝีมือของข้า ขอเพียงข้าไม่ละวาง ไม่ว่าเจ้าหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น เจ้าจะเปลี่ยนฐานะเท่าใดก็ล้วนไม่ต่างกัน!”

กู้ซีจิ่วพูดอะไรเม่ออกเลย เจ้าโรคจิตเอ๊ย!

เธอลอบสูดหายใจเข้าลึกๆ ตัดสินใจเจรจากับเขาอย่างใจเย็น “ที่แท้แล้วท่านต้องการอะไร?”

“เมื่อออกมาจากป่าทมิฬ! เจ้าต้องใช้ตัวตนในยามนี้เหมือนเดิม!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version