บทที่ 373
ไม่เกี่ยวกับเขา!
นัยน์ตากู้ซีจิ่วมืดสลัวลง “หากข้าปฏิเสธล่ะ?”
เธอเกลียดคนที่บังคับเธอให้ทำโน่นทำนี่ที่สุด!
ในเมื่อออกมาแล้วไม่ว่าจะเปลี่ยนฐานะมากน้อยเพียงใดเขาก็มองออกทั้งสิ้น เช่นนั้นมิสู้อยู่ในป่าไม่ออกมาเสียเลยดีกว่า!
รอให้ครบ 1 ปีก่อน พ้นอายุ 15 แล้วค่อยว่ากันอีกที
ตามสัญญาหมั้นของตี้ฝูอีกับหลัวซิงหลาน ขอเพียงเธอไม่ออกมาจากป่าทมิฬนี้ก่อนอายุ 15 ปี สัญญาหมั้นหมายนี้ก็จะไม่เป็นผล!
ตี้ฝูอีจ้องเธอเขม็ง ราวกับเดาความคิดในใจเธอได้ ดวงตาจึงลุ่มลึกยิ่งขึ้น ‘ไม่ยอมรับสัญญาหมั้นหมายนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?’
กู้ซีจิ่วปิดปากเงียบไม่ตอบคำถาม
ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาที่มองเธอแฝงแววคมปลาบ แต่กลับแย้มยิ้มออกมา ‘อันที่จริงการหมั้นหมายของข้ากับเจ้าก็ย้งมีข้อดีอยู่นะ อย่างน้อยหลงซือเย่ก็ไม่กล้ามาตอแยเจ้าอีกใช่ไหมล่ะ? หรือว่า…ความจริงแล้วเจ้ายังหวังให้เขามาตามตอแยเจ้าอยู่?’
‘ไม่เกี่ยวกับเขา!’ กู้ซีจิ่วตอบทันควัน
นํ้าเสียงเธอคล้ายหวั่นเกรงว่าตี้ฝูอีจะไปหาเรื่องหลงซือเย่ รอยยิ้มเลือนหายไปจากมุมปากตี้ฝูอีแล้ว เขากล่าวอย่างเฉื่อยชา ‘ไม่เกี่ยวกับเขาก็ดีแล้ว! เจ้ากับเขาไร้วาสนาต่อกัน! จะดีที่สุดคือห้ามคิดถึงเขาอีก!’
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
นํ้าเสียงเธอก็เย็นชาไม่แพ้กัน ‘วางใจเกอะ! เขาเป็นของท่าน! ข้าไม่สนใจเขาหรอก!’
ตี้ฝูอีผงะไปครู่หนึ่ง เอ่ยหวนพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเล็กน้อย ‘เขาเป็นของข้า…’
นัยน์ตาเขาหรี่ลงอย่างอันตราย มองเธออยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา กล่าวน้ำเสียงเนิบนาบ ‘ใช่แล้ว เขาเป็นของข้า…จำคำพูดนี้ของเจ้าไว้!’
นอกจากช่วงสั้นๆ ที่ทั้งสองกระซิบคุยกันแล้ว ที่เหลือทั้งสองล้วนใช้การส่งเสียงอย่างลับๆ มีเพียงอีกฝ่ายที่ได้ยิน คนนอกไม่มีทางได้ยิน
ในสายตาของผู้อื่น เห็นแค่ว่าเธอกับเขานั่งรวมโต๊ะกัน หน้าตาดูเหมือนจะหวานชื่น จากนั้นกู้ซีจิ่วก็นั่งซวนเซจวนจะล้มลงถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโอบขึ้นมาอย่างนุ่มนวล พอกู้ซีจิ่วนั่งลงอย่างเอียงอาย จู่ๆ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ดึงบุตรสาวของผู้อื่นเข้าสู่อ้อมกอดไปกระซิบกระซาบคุยกันอีกครั้ง…
ฉากนี้ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบมากมายมหาศาล ไม่รู้ว่ามีดวงตามากน้อยเพียงใดชำเลืองมองจนตาแทบเขแล้ว!
นี่ยังใช่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยใกล้ชิดสตรีเลยหรือไม่? ยังใช่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่ไม่อนุญาตให้สตรีหน้าไหนเข้าใกลในระยะ 3 ฉื่อผู้นั้นหรือไม่?!
กู้เซี่ยเทียนสับสนอลหม่านเหลือเกิน
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สูงส่งจะมาเป็นบุตรเขยเขารึ?! บุตรเขยเชียวนะ?!
คงมิใช่ว่าเขาฝันอยู่กระมัง?! ต่อให้เป็นความฝันเขาก็ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ไร้เหตุผลเกินไป!
‘เพล้ง…’ มีเสียงถ้วยหล่นลงพื้นดังขึ้น
ฝูงชนหันไปมองตามเสียง เห็นอวิ๋นซิงหลัวนั่งอยู่ตรงนั้น ชามอาหารใบหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้านางแตกกระจายอยู่ที่ปลายเท้า นํ้าแกงสาดกระจาย
“อภัยด้วย พลั้งมือไปแล้ว” นางขออภัยเสียงแผ่วภายใต้สายตาของฝูงชน
จักรพรรดิซวนรีบกล่าวทันที “ไม่เป็นไร ชามใบเดียวเท่านั้น”
แล้วจึงสั่งให้คนเข้าไปทำความสะอาดเป็นการด่วน
อวิ๋นซิงหลัวมองไปที่ตี้ฝูอีอย่างอดไม่ได้ ตี้ฝูอีเงยหน้ามองนางแวบหนึ่ง เป็นเพียงสายตาที่ว่างเปล่า แต่กลับทำให้หัวใจนางสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างน่าประหลาด นางก้มศีรษะลงอีกครั้ง นิ้วมือในแขนเสื้อกำแน่นขึ้น แน่นยิ่งขึ้น!
กู้ซีจิ่วที่ได้ยินเสียงก็มองมาทางด้านนี้เช่นกัน เพียงแต่อีกฝ่ายมองแค่แวบเดียวก็ละสายตาไป ไม่ได้หยุดอยู่ที่ร่างนาง
อวิ๋นซิงหลัวมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง นางไม่จำเป็นต้องเงยหน้าก็สัมผัสการเคลื่อนไหวของทุกคนได้ ราวกับมีตาที่สามอยู่บนร่างกาย สามารถมองเห็นทุกสิ่งในที่แห่งนี้
ดังนั้นเมื่อกู้ซีจิ่วกวาดตามองนางแวบหนึ่ง ต่อให้นางก้มศีรษะอยู่ก็รับรู้ได้อย่างชัดเจน ปลายนิ้วแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ
ผู้ที่อ้างว่าเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นข่มนางอยู่กรายๆ สินะ?! ใช่หรือไม่?!
เป็นแค่นกกระจอกตัวหนึ่งที่เพิ่งโผสู่ยอดไม้ก็ไม่รู้จักประมาณกำลังตนเสียแล้ว กล้ามาข่มนางผู้เป็นศิษย์สวรรค์เบื้องบน มองนางเป็นตัวตลก…