บทที่ 379
เจรจายกเลิกสัญญาหมั้นหมาย 2
เมื่อกู้ซีจิ่วได้ยินประโยคสุดท้ายของเขาก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ พร้อมกับมองเขา “ท่าน…”
ก่อนหน้านี้ตี้ฝูอีกุมข้อมือเธอไว้ตลอด ทว่ายามนี้ปล่อยเธอเป็นอิสระแล้ว
‘กู้ซีจิ่ว ข้าใหโอกาสเจ้าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว!’ เขาส่งกระแสเสียงมาหา
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
อวิ๋นซิงหลัวที่เดิมทีก้มหน้าไร้วาจามาตลอด ยามนี้เงยหน้าขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ดวงตาใสกระจ่างทอดลงบนร่างตี้ฝูอี ปรบมือพลางเอ่ยว่า “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจัดการอย่างเป็นธรรมจริงๆ ซิงหลัวเลื่อมใสจากใจ! เช่นนี้ค่อยเป็นธรรมต่อคุณหนูกู้หน่อย”
ตี้ฝูอีกล่าวเรียบๆ ว่า “ข้ากระทำการใดล้วนไม่เคยลำเอียง ไม่เคยให้การยกเว้นแก่ใครหน้าไหน พรุ่งนี้ข้าจะนำนางไปปล่อยไว้ในยอดเขาที่สามของป่าทมิฬด้วยตัวเอง อวิ๋นซิงหลัว พรุ่งนี้เจ้าไปกับข้าเพื่อเป็นสักขีพยานด้วย”
“ซิงหลัวจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง” ดวงตาอวิ๋นซิงหลัวส่องประกายพาดผ่านแวบเดียวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เขาให้นางไปด้วย พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาปฏิบัติต่อนางในฐานะศิษย์สวรรค์เบื้องบนที่อยู่ในระดับเดียวกันจริง และเชื่อถือในตัวนาง!
ตี้ฝูอีมองกู้ซีจิ่วอีกครา “เจ้ามีอะไรจะพูดไหม?”
กู้ซีจิ่วตะลึง รีบกล่าวว่า “ข้าจะคว้าโอกาสนี้ไว้!”
เงื่อนไขของเขาไม่เลวยิ่งนัก ที่แท้สัญญาหมั้นหมายของเธอกับเขาก็สามารถยกเลิกได้…
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งตายหรือไม่ยอมออกมาแล้ว
กลับกัน เธอจะทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดเพื่อออกมาจากป่าทมิฬภายในแปดวันให้ได้!
ตี้ฝูอีนิ่งไปนิด “แล้วแต่เจ้าเถอะ” เขาสะบัดแขนเสื้อจากไป
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเจ้าคะ ซิงหลัวยังมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะ” อวิ๋นซิงหลัวรีบร้อนลุกขึ้นค้อมศีรษะให้จักรพรรดิซวน ส่งสัญญาณเล็กน้อยแล้วสาวเท้าไล่ตามไปทันที
ตี้ฝูอีเตินไม่เร็วนัก ดังนั้นอวิ๋นซิงหลัวจึงตามทันอย่างง่ายดายยิ่ง
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ยามฝึกฝนวรยุทธ์ซิงหลัวคล้ายจะพบจุดติดขัด จึงอยากขอคำชี้แนะเจ้าค่ะ…”
“เจ้าว่ามาสิ”
“ก็คือ…”
บหสนทนาของคนทั้งสองแว่วมาจากที่ไกลๆ แล้วค่อยๆ ห่างออกไป เห็นได้ชัดว่าทั้งสองจากไปไกลแล้ว
ยามนี้ดึกมากแล้ว กู้ซีจิ่วลุกขึ้นขอตัวลาเช่นกัน
งานเลี้ยงส่งจึงยุติลงเท่านี้
……………………….
ในคุกหลวง
องค์ชายหรงเหยียนกำลังรอคอยด้วยความหวังเปี่ยมล้นว่าจะถูกปล่อยตัวออกไป
เขาอยู่ในคุกหลวงแห่งนี้มาครึ่งปีเต็มแล้ว!
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย ดังนั้นต่อให้อยู่ในคุกหลวงก็ไม่ได้รับโทษทัณฑ์หนักหนาอะไร อย่างมากที่สุดคือกินอยู่อย่างสามัญเท่านั้น
แต่เมื่อเทียบกับนักโทษคนอื่นๆ แล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาก็นับว่าเป็นสวรรค์น้อยๆ เลยทีเดียว
อีกอย่าง ถึงเขาจะถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย ทว่าอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้รับทัณฑ์ทรมานเพื่อบีบให้สารภาพผิด อย่างมากที่สุดคือถูกนำตัวไปไต่สวนหลายต่อหลายครั้ง เขาปิดปากเงียบอยู่ตลอด พวกเขาเลยจนปัญญา
เพียงแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ในใจเขาก็ยังเคียดแค้นกู้ซีจิ่วจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หากมิใช่เพราะนังเด็กคนนั้น เขาจะถูกจำคุกเช่นนี้ได้อย่างไร?!
น่าเสียดาย น่าเสียดายที่วันนั้นนางไม่ได้ไปตามคำลวง หากไปตามคำลวงแล้วถูกเล่อฮวาโหวยํ่ายีจนตายเสียคงจะดีกว่านี้นัก! และลดความยุ่งยากในภายหลังไปได้มาก!
ความจริงเขารู้อยู่แล้วว่าตนจะไม่ตาย
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย เสด็จพ่อของเขาไม่มีทางสังหารเขาจริงๆ หรอก จะต้องหาวิธีปล่อยตัวเขาออกไปอย่างแน่นอน
เขาตั้งตารอว่าจะถูกปล่อยตัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เมื่อวันเวลาในแต่ละวันล่วงเลยไป เขาก็ยิ่งกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ ยามที่เขา กำลังจะสิ้นหวัง จู่ๆ ก็มีข่าวคราวจากด้านนอกแว่วเข้ามา บอกว่า จักรพรรดิซวนจะปล่อยตัวเขากับกู้เทียนฉิงในเร็ววันนี้ ให้เขาอดทนรออย่างใจเย็น
สำหรับองค์ชายหรงเหยียนแล้ว ข่าวนี้ถือเป็นเรื่องดีโดยแท้ เขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับอยู่สองวัน
เมื่อก่อนเขาปฏิบัติต่อพัศดีที่คุมตัวเขาอย่างเกรงใจยิ่งนัก แต่หลังจากได้ยินว่าจะถูกปล่อยตัวไป มาดองค์ชายของเขาก็ฟื้นคืนมาในชั่วพริบตา ชี้นิ้วสั่งพัศดีให้ทำนั่นทำนี่ให้ เสพติดนิสัยองค์ชายอย่างหนัก