บทที่ 378
เจรจายกเลิกสัญญาหมั้นหมาย 1
เนื่องจากในทวีปนี้ มีเพียงบิดามารดาเป็นฝ่ายตัดสัมพันธ์กับบุตรธิดาถึงจะได้รับการยอมรับจากทางการ หากบุตรธิดาเป็นฝ่ายตัดสัมพันธ์กับบิดามารดาก่อน ไม่เพียงไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ยัง จะถูกตราหน้าว่าอกตัญญูอีกด้วย ถูกฝูงชนประณาม และตัดขาดความสัมพันธ์นี้ไม่ได้
แต่ยามนี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายออกหน้าด้วยตัวเอง ตัดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกู้ซีจิ่ว นั่นก็คือตัดขาดจริงๆ ไม่เหลือหนทางกอบกู้คืนมาอีกแล้ว!
สายตาตี้ฝูอีหันไปที่จักรพรรดิซวนอีกครั้ง กล่าวอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ได้ยินว่าฝ่าบาทอภัยโทษให้องค์ชายหรงเหยียนและกู้เทียนฉิงที่เคยปองร้ายศิษย์ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือ?”
เส้นประสาทจักรพรรดิซวนตึงเครียดทันที เขาปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ จึงเข้าใจได้ทันทีว่าควรทำอย่างไร “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย วางใจเถิด เรื่องพวกนั้นล้วนเป็นข่าวลือ พวกเขาทั้งสองคนยังอยู่ในคุก อยู่ในช่วงตัดสินโทษ…”
ตี้ฝูอีสะบัดชายเสื้อ “สังหารคน แล้วยังปองร้ายศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์ คดีนี้ตัดสินยากนักหรือ?”
จักรพรรดิซวน “…ไม่เลย ตัดสินไม่ยากเลย เราจะลงโทษพวกเขาอย่างเป็นธรรม…ใครก็ได้ ถ่ายทอดวาจาเราออกไป คุณหนูสามจวนแม่ทัพกู้เทียนฉิงกับองค์ชายสิบสองหรงเหยียนปองร้ายเล่อฮวาโหวจนถึงแก่ความตาย และเจตนาประทุษร้ายศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์กู้ซีจิ่ว มีโทษมหันต์ เช้าวันพรุ่งให้คุมตัวไปประหารที่ประตูทิศใต้ทันที เพื่อตักเดือนมิให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่าง!”
หัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์รับคำสั่งแล้วจากไป
กู้เซี่ยเทียนแข็งทื่ออยู่บนพื้นอย่างลุกไม่ขึ้น เขามองไปรอบๆ อยากให้คนช่วยร้องขอความเมตตาให้แก่บุตรทั้งสองของเขา แต่อยู่ภายใต้กระแสลมปากอันแหลมคม[1]เช่นนี้ผู้ใดจะกล้าเอื้อนเอ่ยเล่า? ทุกคนต่างหดถอยไป!
เขามองจักรพรรดิซวนอีกครั้ง จักรพรรดิซวนก็โทสะสุมทรวงเช่นกัน!
ความจริงแล้วเรื่องการเนรเทศหรงเหยียนและกู้เทียนฉิง เขาเคยพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับกู้เซี่ยเทียนเท่านั้น! เจตนาเดิมคืออยากทำให้เขาคลายใจ นึกไม่ถึงว่าเขากลับทำให้รั่วไหลออกมาก่อนถึงเวลา! ซ้ำยังเปิดเผยต่อเหลิ่งเซียงอวี้สองแม่ลูกมือไม่พายแต่ชอบเอาเท้าราน้ำ สองคนนั้นนำเรื่องนี้ไปโอ้อวดต่อหน้ากู้ซีจิ่ว ทำลายการใหญ่ของเขาจนพังพินาศ!
ตอนนี้อย่าว่าแต่กู้เทียนฉิงเลย กระทั่งองค์ชายสิบสองของเขาก็รักษาไว้ไม่ได้แล้ว!
อีกอย่างถึงแม้ตี้ฝูอีจะจัดการเรื่องนี้อย่างอุกอาจสะท้านสะเทือน แต่ก็ไม่ได้ขัดต่อข้อกฎหมาย กล่าวได้เพียงว่าเขาซื่อสัตย์เที่ยงธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใคร ไม่สามารถกล่าวว่าเขากระทำเกินกว่าเหตุได้
เมื่อท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเอ่ยบทลงโทษออกมาแล้ว ก็จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีผลยิ่งกว่าราชโองการของจักรพรรดิเสียอีก! ณ เวลานี้จะเป็นผู้ใดขอความเมตตาล้วนไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น
พอถึงยามนี้แล้ว ฝูงชนถึงได้ประจักษ์แจ้งอย่างแท้จริงว่า ‘ศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์’ สูงส่งมากเพียงใด ได้รับความสำคัญมากเพียงใด…
เหล่าผู้คนที่เดิมทีลอบคิดหาวิธีบดขยี้กู้ซีจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะล่าถอยออกไป!
คิดร้ายต่อศิษย์ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ไม่ได้เด็ดขาด มิฉะะนั้นหากถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทราบเข้า จะต้องรับโทษทัณฑ์ที่ร้ายแรงยิ่ง!
เว้นแต่จะไม่ให้เขาได้รู้ตลอดไป แต่การจะปิดบังให้พ้นจากเขานั้นทำได้ง่ายๆ เสียที่ไหน?
ดูเหมือนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะกลายเป็นผู้พิทักษ์กู้ซีจิ่วไปแล้ว!
เพียงแต่เขาปกป้องนางขนาดนี้ เช่นนั้นพรุ่งนี้เขายังจะนำไปปล่อยไว้ในป่าทมิฬตามปกติอยู่หรือไม่? จะลำเอียงหรือไม่?
ในใจของฝูงชนล้วนมีคำถามข้อนี้ผุดขึ้นมา ทว่าไม่มีใครกล้าเอ่ยออกไป
ตี้ฝูอีราวกับรับรู้ความคิดที่อยู่ในใจพวกเขาได้ จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมา “ปีนั้นข้าเป็นหนี้นํ้าใจหลัวซิงหลานอย่างหนึ่งจริงๆ ดังนั้นถึงได้ยอมรับการหมั้นหมายครั้งนี้ แต่ข้าก็ไม่เคยบังคับฝืนใจใคร เห็นแก่ที่นางเป็นศิษย์ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ข้าจึงยอมรับเงื่อนไขของนางหนึ่งประการ หากกู้ซีจิ่วสามารถออกมาจากป่าทมิฬได้ภายใน 8 วัน ถ้านางไม่พอใจการหมั้นหมายครั้งนี้ ก็สามารถเจรจายกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับช้าได้ เพื่อให้นางเป็นอิสระไร้ซึ่งพันธะ ใครหน้าไหนก็ไม่อาจนำเรื่องราวอันใดมาบีบให้นางหมั้นหมายได้ แต่ถ้านางจงใจหลบอยู่ในป่าทมิฬ หรือหลังจากออกมากลับเปลี่ยนชื่อแซ่ซ่อนฐานะ ข้าจะฉุดลากนางออกมาด้วยตัวเอง สัญญาหมั้นหมายจะยกเลิกไม่ได้ตลอดกาล และนางจะเป็นได้เพียงอนุภรรยาของข้า!”
………………..
[1] กระแสลมปากอันแหลมคม หมายถึง การวิพากษ์วิจารณ์อย่างโหดร้ายของผู้คนในสังคม