บทที่ 348
เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
เนื่องจากทุกคนนั่งได้ตามใจ ดังนั้นการจับกลุ่มเลยไม่เหมือนกัน
ผู้ร่วมโต๊ะจึงมีทั้งหญิงสองชายหนึ่ง ชายสองหญิงหนึ่ง และเพศเดียวกันทั้งสามคน
ตอนนี้ตัวละครหลักล้วนยังมาไม่ถึง แต่จัดที่นั่งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากงานเลี้ยงนี้เตรียมขึ้นเพื่อเลี้ยงส่งกู้ซีจิ่ว ดังนั้นครั้งนี้กู้ซีจิ่วย่อมเป็นจุดสนใจของทุกคน
กู้เซี่ยเทียนผู้เป็นบิดาของกู้ซีจิ่วย่อมกลายเป็นจุดสนใจของฝูงชนเช่นเดียวกัน
สองวันมานี้กู้เซี่ยเทียนอัดอั้นตันใจอย่างยิ่ง วันก่อนเขาบันดาลโทสะฟันเหลิ่งเซียงอวี้ตายในดาบเดียว เมื่อปลอดโปร่งแล้ว ปัญหาก็ตามมามากมาย
อันดับแรกคือต้องจัดการเรื่องของเหลิ่งเซียงอวี้ ประกาศต่อภายนอกว่านางป่วยตาย บรรจุนางใส่โลงแล้วนำไปฝัง
แน่นอนว่าไม่ได้ฝังไว้ในสุสานตระกูลกู้ แต่เลือกที่จะฝังไว้ในแดนรกร้างแทน
ในยุคนี้สตรีมีฐานะต่ำต้อย ขอเพียงละเมิดเงื่อนไขเจ็ดข้อ โทษสถานเบาคือหย่าร้าง โทษสถานหนักคือสังหาร เมื่อกระทำผิดอย่างร้ายแรงต่อให้จับยัดกรงหมูถ่วงนํ้าก็ไม่มีคนสนใจ ทางการก็ไม่ซักไซ้เอาความ
ประกอบกับเหลิ่งเซียงอวี๋มีฐานะเป็นคุณหนูจากตระกูลเล็กๆ เท่านั้น เดิมทีบ้านฝั่งมารดาของนางก็มีญาติพี่น้องอยู่แค่ไม่กี่คน อีกทั้งนางมีนิสัยใจดำแล้งน้ำใจ เมื่อนางถึงแก่กรรมเช่นนี้ กระทั่งบ้านฝ่ายมารดาของนางก็ไม่คิดออกหน้าเพื่อนาง กู้เซี่ยเทียนมอบเงินให้นิดหน่อยก็ทำให้พวกเขาหุบปากได้แล้ว
อนิจจาเหลิ่งเซียงอวี้ที่ใช้เล่ห์กลอันไม่สมควร วางแผนหาช่องทางมาทั้งชีวิต
ทำร้ายหลัวซิงหลาน ลอบปองร้ายกู้เทียนนั่ว ใส่ไคล้กู้ซีจิ่ว…
สุดท้ายก็ได้รับจุดจบเช่นนี้ นับว่าเป็นไปตามกฎแห่งกรรม กรรมชั่วตามสนอง
เมื่อเขาจัดการเรื่องเหลิ่งเซียงอวี้เสร็จ ก็ไปหากู้ซีจิ่วอีกครั้ง ถึงพบว่านางจากไปแล้วจริงๆ
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่จากไป สาวใช้คนสนิทเหล่านั้นของนางก็จากไปด้วย
ข้าวของทุกอย่างที่เขามอบให้นางล้วนวางอยู่บนโต๊ะ เห็นได้ชัดเจนว่านางตัดขาดกับเขาแล้วจริงๆ…
กู้เซี่ยเทียนทั้งโกรธทั้งเคืองทั้งจนปัญญา บุตรธิดาคู่นี้ที่หลัวซิงหลานกำเนิดให้เขาล้วนหยิ่งทะนง ซ้ำยังตัดสัมพันธ์กับเขาทั้งสิ้น…
แต่ว่า ตามกฎหมายของอาณาจักรเฟยซิง บุพการีสามารถตัดสัมพันธ์กับบุตรธิดาได้ หากบุพการีประกาศอย่างเป็นทางการถึงจะเป็นการตัดสัมพันธ์อย่างแท้จริง ทางการก็จะยอมรับ
แต่ถ้าบุตรธิดาตัดสัมพันธ์กับบุพการีก็เป็นแค่ลมปากเท่านั้น ไม่ได้รับความเห็นชอบจากทางการ
เขามีเส้นสายมีสายสืบ อยากทราบว่ากู้ซีจิ่วไปที่ใดย่อมง่ายดายยิ่ง ช่วงค่ำเมื่อวานเขาออกไปตามหานาง อยากคุยกับนาง แต่นึกไม่ถึงว่าจะกกปิดประตูใส่หน้า สาวใช้คนสนิททั้งสี่คนของกู้ซีจิ่วไม่ยอม ให้เขาเข้าไปโดยเด็ดขาด กล่าวว่าคุณหนูมีคำสั่ง ไม่พบปะคนนอกทั้งหมด
กู้เซี่ยเทียนถูกบุตรสาวทำให้ตะลึงงัน ย่อมไม่อยากให้เข้าไปทำให้ความสัมพันธ์ต้องร้าวฉานไปกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงกล่าวเพียงประโยคเดียวว่า ‘เช่นนั้นเย็นวันพรุ่งข้าจะมารับนางไปร่วมงานเลี้ยง’ แล้วจึงจากไป
เย็นวันนี้เขานำรถม้าคันหนึ่งไปรับนางจริงๆ แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้พบเพียงความว่างเปล่า กู้ซีจิ่วไม่อยู่ เขาถึงขั้นถามไม่ออกว่าแท้จริงแล้วบุตรสาวไปที่ใด
จักรพรรดิจัดงานเลี้ยงขึ้น ทุกคนต้องไปร่วมงานตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่มีใครกล้าไปสาย กู้เซี่ยเทียนย่อมไม่กล้าเช่นกัน
เขาก็สั่งการให้คนไปสืบหาที่อยู่ของกู้ซีจิ่วแบบลับๆ แล้วไปร่วมงานเลี้ยงตัวคนเดียว
ผู้มาร่วมงานเลี้ยงล้วนเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในราชวงศ์รวมถึงครอบครัวพวกเขา ขุนนางใหญ่เหล่านี้ใครบ้างเล่ามิใช่คนดีที่หน้าไหว้หลังหลอก?
เส้นสายข่าวคราวรวดเร็วฉับไวอย่างยิ่ง ถึงแม้กู้เซี่ยเทียนจะปกปิด เรื่องทีเกิดในจวนแม่ทัพไว้อย่างดี แต่ฝูงชนก็ยังได้ยินมาบ้างเล็กน้อย เดิมทีพวกเขายังไม่ค่อยเชื่อนัก ยามนี้พอเห็นกู้เซี่ยเทียนมาเพียงลำพัง สายตาที่ฝูงชนมองเขาจึงลุ่มลึกยิ่ง ยามสนทนาก็แฝงเจตนาสอบถามเอาไว้ ทำให้กู้เซี่ยเทียนหงุดหงิดยิ่งนัก นั่งอยู่ตรงนั้นแทบจะไม่พูดไม่จา