บทที่ 340
โลกหล้านี้บุพการีไร้ซึ่งความผิด
องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวนิ่งเงียบ
เตาชิงหยางเอ่ยขึ้น “แม่ทัพกู้ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ในเหตุการณ์นี้บุตรสาวท่านก็ใช่ว่าจะไร้ความผิดเสียทีเดียว วาจาก็เราะร้ายนัก กระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับมารดาและพี่ชาย สุภาษิตว่าไว้ โลกหล้านี้บุพการีไร้ซึ่งความผิด แม้บุพการีจะกระทำผิดพลาด ผู้เป็นบุตรก็ควรให้อภัยไม่ตอบโต้ถึงจะถูก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการด่าทอนางแค่สองประโยคเลย…”
เขาเหลือบมองกู้ซีจิ่วอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “มีประโยคกล่าวไว้ อยู่ในบ้านเชื่อฟังบิดาและพี่ชาย ออกเรือนไปเชื่อฟังสามีและบุตรชาย ต่อให้นางเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างไร? ย่อมไม่อาจฝ่าฝืน จารีตประเพณีได้! ต่อให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทราบความจริง ก็ไม่จัดการกับเทียนเฉาอย่างจริงจังหรอก เอาละ เรื่องนี้ให้สิ้นสุดลงเท่านี้ เทียนเฉาบาดเจ็บสาหัส จำเป็นต้องได้รับการรักษา ข้าจะพาเขากลับสำนักแล้ว”
เตาชิงหยางพลันเป่าปาก เรียกวิหคยักษ์ที่ดูดุดันทรงพลังตัวหนึ่งมา แล้วพากู้เทียนเฉาจากไปทันที
กู้เซี่ยเทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วมองไปที่กู้ซีจิ่ว “จิ่วเอ๋อร์…”
เขาทราบว่าจัดการเช่นนี้เป็นการลำเอียงช่วยเหลือบุตรชายอย่างน่าเกลียด แต่เขามีบุตรชายคนนี้แค่คนเดียว…
ลูกชายคือผู้สืบสกุล ไม่อาจให้เกิดเรื่องผิดพลาดได้อีก จึงทำได้เพียงให้บุตรสาวได้รับความไม่เป็นธรรมอีกครั้ง…
สีหน้ากู้ซีจิ่วยังคงซีดเซียว เธอเข้าใจความคิดกู้เซี่ยเทียนอย่างถ่องแท้ บิดาราคาถูกผู้นี้ของเธอมีค่านิยมบัดซบเหมือนบุรุษทั้งหมดในยุคนี้ บุรุษเป็นหลักสตรีเป็นรอง หนึ่งสามีมากภรรยา สามีเป็นเจ้าชีวิตภรรยา…
เธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะกลับตัวอยู่แล้ว
กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างเฉยชา “แม่ทัพกู้ ท่านไม่ได้มีบุตรชายเพียงคนเดียว ท่านลืมกู้เทียนนั่วไปแล้วหรือ?”
กู้เซี่ยเทียนชะงักงัน
ในใจของเขารู้สึกติดค้างต่อบุตรชายคนนั้นมาตลอด
กู้เทียนนั่วเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากคนหนึ่ง พรสวรรค์สูงส่งยิ่งกว่ากู้เทียนเฉา สมัยก่อนยามที่ยังไม่เกิดเรื่องของเหลิ่งเซียงอวี้ขึ้น เขารักเย็นดูบุตรชายผู้นั้นมาก มักจะพาเขาขี่ม้าเที่ยวชานเมือง สองพ่อลูกแข่งขันประลองกันอยู่เสมอ เด็กคนนั้นก็ติดเขามาก ชื่นชมบูชาเขายิ่งนัก ขอเพียงเขากลับจวนมาเด็กคนนั้นก็จะชอบเดินตามหลังด้อยๆ ราวกับหางน้อยๆ ก็มิปาน
ต่อมาเป็นเพราะเขาโกรธเคืองหลัวซิงหลาน จึงจงใจหมางเมินบุตรชายคนนี้…
จนกระทั่งเกิดเรื่องน่าสลดครั้งใหญ่ขึ้น หลัวซิงหลานกระโดดหน้าผา บุตรชายหายตัวไป…
“เทียนนั่ว…เทียนนั่วคงตายไปแล้ว จิ่วเอ๋อร์ครอบครัวนี้เกิดเรื่องจนไม่เหมือนครอบครัวแล้ว เจ้าก็หยุดหน่อยเถอะ ถ้าให้อภัยได้ก็ให้อภัยเถิด” กู้เซี่ยเทียนเอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ ในน้ำเสียงเจือความขุ่นเคืองไว้
ราวกับกู้ซีจิ่วเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดเรื่องทุกอย่าง…
ดวงหน้าพริ้มเพราของกู้ซีจิ่วเย็นชาลงกว่าเดิม!
“แม่ทัพกู้ มีประโยคหนึ่งกล่าวว่าวาจาบุรุษหนักแน่นดุจพันตำลึง ต่อให้เป็นคำมั่นที่มีต่อสตรีนางหนึ่งก็ควรจะรักษาคำพูด หากเมื่อก่อนท่านรักษาคำพูด ก็คงไม่เกิดเรื่องสืบเนื่องมาถึงภายหลังเช่นนี้ กู้เทียนนั่วจะไม่หายตัวไป หลัวซิงหลานจะไม่กระโดดหน้าผา กู้ซีจิ่วก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวและถูกกดขี่ข่มเหง ไม่แน่ท่านอาจมีบุตรธิดาที่เพียบพร้อมอีกหลายคนด้วย แต่ทุกอย่างล้วนถูกท่านทำลายทิ้งด้วยตัวเอง! ทุกสิ่งล้วนเป็นตัวท่านเองที่ก่อขึ้น!”
กู้เซี่ยเทียนหน้าแดงก่ำ พูดโพล่งออกมา “หากเจ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไปตลอดก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้นมิใช่หรือ?”
“ถ้าข้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยม?” กู้ซีจิ่วยิ้ม “บุตรสาวผู้นี้ของท่านอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมาสิบกว่าปีแล้ว สงบเสงี่ยมจนถูกบุตรธิดาคนอื่นๆ ของท่านกลั่นแกล้ง สงบเสงี่ยมจนทำให้ท่านเพิกเฉยต่อการมีตัวตนของนาง จนถูกพี่สาวของตนฉกชิงคู่หมั้น จนถูกบุตรธิดาของท่านรวมหัวกันปองร้าย…ที่แท้คำพูดของท่านแม่ทัพกู้ที่พร่ำอยู่ตลอดว่าจะชดใช้ให้บุตรสาวคนนี้ก็เป็นเช่นนี้เอง…คิดจะให้บุตรสาวสงบเสงี่ยมแล้วถูกข่มเหงต่อไปสินะ…ฮ่าๆ ได้รับการสั่งสอนแล้ว! แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ยอม! แม่ทัพกู้ หนทางแตกต่างมิอาจร่วมทางได้ ความเป็นพ่อลูกของข้ากับท่านสิ้นสุดกันเพียงเท่านี้เถิด! นับตั้งแต่วันนี้ไปข้าและสกุลกู้ของท่านไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!”
เธอพลันฉีกแขนเสื้อออกครึ่งส่วน โยนลงเบื้องหน้ากู้เซี่ยเทียน