Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 47

บทที่ 47

เสแสร้งนักจะถูกฟ้าผ่าเอา

เขาเอื้อมมือไปเกาะไหล่กู้ซีจิ่ว เอนกายเข้าหาเธอ “ข้ามอบนํ้าใจให้เจ้ามากถึงเพียงนี้ จะไม่เชิญข้าดื่มสักจอกหรือ?”

บนกายบุรุษผู้นี้มีกลิ่นหอมเย็นจางๆ กลิ่นหอมนั้นเบาบางยิ่งนัก อบอวลอยู่ในโพรงจมูกของเธอ อาจเป็นข้อได้เปรียบของคนตัวสูง ยามที่เขาก้มมองเธอจึงมีความกดดันชนิดหนึ่งแฝงอยู่ ในห้องรับรองทุกห้องของชั้นสองล้วนมีเด็กรับใช้คอยปรนนิบัติโดยเฉพาะ ห้องนี้ของกู้ซีจิ่วก็มีอยู่สองคน มือเท้าคล่องแคล่วว่องไวอีกทั้งมีวรยุทธ์ดีพอตัว ทั้งยังเคยเห็นคนใหญ่คนโตและเหตุการณ์สำคัญมาแล้วจนชินตา แต่คุณชายน้อยผู้นี้ที่กำลังแผ่ความกดดันอันไร้รูปร่างออกมาจากกายกลับทำให้พวกเขาเกิดความหวาดหวั่นขึ้นในหัวใจ มีความรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยเล็กน้อยอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่ากู้ซีจิ่วจะไม่ได้รับผลกระทบจากความกดดันนั้นเลย เธอไม่ถอยเลยสักก้าว เพียงแค่เลิกคิ้วพลางยกยิ้ม

“แม้ว่าน้ำใจนี้ที่ท่านมอบให้จะแฝงเจตนาไม่บริสุทธิ์เอาไว้ แต่ก็ขอเชิญท่านดื่มสุราสักจอกเถิด” แล้วเธอก็หันไปสั่งให้คนนำชุดสุราเข้ามาชุดหนึ่ง คุณชายน้อยผู้นั้นแย้มยิ้ม ความกดดันไร้รูปที่อยู่บนกายก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาล้วงเอาจอกสุราใบน้อยออกมา “ไม่ต้องใช้ของพวกเขาหรอก มันหยาบเกินไป ข้าจะใช้สิ่งนี้”

หยาบ?

เด็กรับใช้ทั้งสองคนถึงกับอับจนคำพูด ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดของที่นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งของชั้นเลิศ ชุดสุราเป็นเครื่องเคลือบลายครามชั้นยอด แค่จอกสุราใบหนึ่งก็มีราคาถึงพันตำลึงแล้ว ต่อให้เป็นชุดสุราที่จักรพรรดิใช้ในวังหลวงก็ไม่แน่ว่าจะดีเท่าที่นี่ด้วยซํ้า! ไม่คิดเลยว่าจะถูกรังเกียจว่าหยาบ…

ฮึ่ม อย่าเสแสร้งไปหน่อยเลย เสแสร้งนักจะถูกฟ้าผ่าเอา!

เด็กรับใช้ทั้งสองลอบเบ้ปาก

แต่พอได้เห็นจอกสุราใบน้อยที่อยู่ในมือคุณชายน้อยผู้นั้นชัดๆ แล้ว สีหน้าของพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ทั้งยังไม่มีโทสะอีกต่อไป

จอกใบนั้นมีรูปร่างคล้ายดอกตูมของดอกจักรพรรดิ มีสีม่วงอ่อนๆ แซมด้วยสีขาวผ่อง ไม่รู้ว่าทำจากวัสดุใด เมื่ออยู่ใต้แสงเทียนภายในห้องก็เปล่งรัศมีเหลือบรุ้งพรายออกมา ส่องกระทบกับนิ้วมือที่ขาวเนียนราวเครื่องหยกของคุณชายน้อยผู้นั้นงดงามประณีตเหนือธรรมดา

กู้ซีจิ่วรินสุราให้เขา จะว่าไปแล้วก็แปลก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าสุรานี้มีสีมรกต แต่พอรินลงไปในจอกสุราของเขาแล้ว ปรากฏว่ากลายเป็นสีชมพูดอกท้อ ด้านในก็ดูคล้ายมีกลีบดอกไม้ล่องลอยอยู่งดงามเป็นที่สุด

แต่พอเธอรินใส่จอกของตนก็ปรากฏเป็นสีมรกตตามเดิม จนกู้ซีจิ่วเกือบจะคิดว่าโดนคนสับเปลี่ยนเหล้าเสียแล้ว

คุณชายน้อยประคองจอกสุราขึ้นมาชนกับจอกของเธอ และไม่ทราบว่าเป็นการตั้งใจหรือไม่ประการใด ปลายนิ้วของเขาจึงสัมผัสโดนฝ่ามือของเธอเบาๆ เป็นการสัมผัสเพียงแวบเดียวเท่านั้น กระทั่งกู้ซีจิ่วเองก็ไม่รู้สึกถึงเลยด้วยซํ้า

คุณชายน้อยผู้นี้ก็คล้ายจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง หลังจากที่ดื่มเหล้าจอกนั้นกับกู้ซีจิ่วแล้ว เขาเงยหน้า แย้มยิ้มพลางตบบ่ากู้ซีจิ่วเบาๆ นํ้าเสียงเต็มไปด้วยความจริงใจ “น้องชาย รักษาตัวด้วย”

แล้วก็หันหลังกระโจนจากชั้นสองลงไปชั้นล่าง

เขาเดินอย่างสบายใจไร้กังวล กระทั่งยามจะออกจากประตูก็ยังร้องเพลงเสียงดัง “ข้าครวญเพลงฝ่าลมฝนในโลกหล้า จะผิดถูกบาปบุญไซร้ใครกำหนด สกุณาน้อยไหนเลยจะเข้าใจความปรารถนาของคุนเฝิง[1] มนุษย์ต่างให้ร้ายกันอยู่รํ่าไป…”

ดูเหมือนคนผู้นี้จะมีกล่องเสียงที่ดี เสียงจึงใสดุจเคาะหยกเนื้อดี ดั่งก้อนกรวดที่กลิ้งในนํ้าพุนํ้าแข็ง คล้ายจะไหลผ่านเข้าไปในหัวใจของผู้คน เสียงเพลงค่อยๆ แผ่วจางลง พร้อมกับคนที่จากไปไกล

ใบหน้าหล่อเหลาขององค์ชายหรงฉู่เขียวคลํ้า ตั้งแต่เขาเติบใหญ่มาจนป่านนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาเจอตอที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ทั้งยังเป็นยามอยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่เขาชื่นชอบอีกด้วย นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกขายหน้ามากกว่าปกติ!

แววตาของเขาเย็นชา พลางโบกมือส่งสัญญาณให้องครักษ์คนหนึ่งที่อยู่ในบริเวณนี้ คนผู้นั้นพยักหน้าเล็กน้อยแล้วถอยออกไปเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าจะไปตรวจสอบพื้นเพของคุณชายน้อยผู้นั้นและสร้างเรื่องเดือดร้อนให้ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version