บทที่ 478
กลางวันคิดคำนึง กลางคืนใฝ่ฝันหา 1
เจ้าหอยยักษ์เงียบงัน มันหุบฝาลงทันที ไม่กล้าพูดเหลวไหลอีก
กู้ซีจิ่วเอนหลังพิงผนังห้องโดยสาร พริ้มตาลงคล้ายกำลังพักผ่อน ทว่าภายในใจราวกับมีระลอกคลื่นซัดสาด
กลางวันคิดคำนึง กลางคืนใฝ่ฝันหาจริงๆ น่ะหรือ?
ไม่ใช่กระมัง?! ตนจะคะนึงถึงเขาเช่นนี้ได้อย่างไร?!
เมื่อก่อนเธอชอบหลงซีถึงเพียงนั้นก็ยังไม่เคยฝันวาบหวามอะไรเลย ต่อให้ฝันถึงบ้างเป็นครั้งก็เป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวัน หรือไม่ก็เป็นตอนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจด้วยกัน ยังไม่เคยฝันวาบหวามได้ ฉูดฉาดเร่าร้อนขนาดนี้มาก่อน…
แต่สำหรับตี้ฝูอี เธอรู้สึกว่าตนระแวงเขา ด้วยเหตุนี้จึงคิดหลบเลี่ยงความยุ่งยากที่ผิดแผกจากสามัญสำนึกของเขาตามสัญชาตญาณ เธอเคยผ่านโศกนาฏกรรมรักมาแล้วหนหนึ่ง จึงไม่ศรัทธาในความรักอีกแล้ว แล้วจะหวั่นไหวกับคนอย่างตี้ฝูอีได้อย่างไร?
ถึงเขาจะแข็งแกร่งพอ แทบจะเป็นคนรักที่แสนประเสริฐ แต่เขาลึกลับและคาดเดายากเกินไป เธอคิดอยู่เสมอว่าเธอกับเขาแตกต่างกันเกินไป ตอนที่อยู่ในป่าทมิฬเขาผิดใจกับเธออย่างไร้สาเหตุ จากไปอย่างไร้เยื่อใย เธอบรรยายความรู้สึกในช่วงเวลานั้นไม่ออก ใจหายอย่างน่าประหลาด รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม…มีความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายมากมาย
ความรู้สึกเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในยามที่อยู่ร่วมกับหลงซี ในอดีตหลงซีมอบความรู้สึกปลอดภัยให้เธอ จิตใจสงบเมื่ออยู่กับเขา เป็นการพึ่งพาทางจิตใจอย่างหนึ่ง
แต่ตี้ฝูอีมอบความรู้สึกเหมือนคลื่นลมให้เธอ เสมือนแสงจันทร์ที่สาดส่องเหนือท้องทะเล ลึกลับเย้ายวนใจ แต่ความจริงแล้วมีคลื่นโหมกระหน่ำอยู่ภายใน ไม่รู้ว่าจะก่อเป็นคลื่นยักษ์ซัดเธอให้จมดิ่งลงไปยามใด…
ทำให้สัญชาตญาณเธอสัมผัสถึงความอันตรายได้ และต้องการหลีกลี้ไป
หลังจากถอนหมั้นในใจก็รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย แต่ก็โล่งใจด้วย
และดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับเธอเช่นกัน ที่เข้ามาพัวพันด้วยก็เหมือนการหยอกล้อก่อกวนเล่นๆ ของคนหลักลอย…
เขาเปรียบเหมือนบุคคลยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมอำนาจ เบื่อหน่ายชีวิตปกติ ทันทีที่เห็นว่าเธอแปลกแยกแตกต่าง จึงเกิดความสนใจใคร่รู้ขึ้นมานิดๆ ดุจแมวที่ถูกหลอกล่อ…
อย่างมากที่สุดเขาก็คงจะรู้สึกสนใจในตัวเธอ แต่มิใช่ความรัก มิเช่นนั้นจะปล่อยให้เธอถอนหมั้นอย่างง่ายดายเช่นนี้หรือ?
หรืออาจจะรู้สึกว่าเกราะกำบังเช่นเธอค่อนข้างพยศ ด้วยเหตุนี้พอเธอส่อเค้าว่าอยากถอนหมั้น เขาจึงรีบตอบรับอย่างง่ายดาย ถึงขั้นเตรียมการอย่างรอบคอบไว้ล่วงหน้า
อันที่จริงในตอนแรกที่กู้ซีจิ่วออกมาจากป่าทมิฬ ในจิตใต้สำนึกคิดจะไปพบเขาสักครั้ง อยากจะพูดคุยกับเขาสักหน่อย
เธอไม่ชอบเป็นฝ่ายรับมือ จึงคิดจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อน เรื่องการหมั้นหมายเธอก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ตอนนั้นเธอถึงขั้นไม่ได้คิดเรื่องถอนหมั้นหรือไม่ ให้ถ้วนถี่เลยด้วยซ้ำ…
แต่การมาของมู่เฟิงเสมือนเป็นการบีบคั้น บีบให้เธอตัดสินใจถอนหมั้น…
บัดนี้ถอนหมั้นกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอกับเขาไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป เมื่อพบกันอีกครั้งอาจเป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น…
ในใจเธอสถานะของเขาคลุมเครือมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่นึกว่าจะฝันวาบหวามถึงเขาได้…
ถึงแม้ในฝันเธอจะรู้สึกราวกับถอดจิต แต่เมื่อตื่นขึ้นมาจริงๆ กลับไม่รู้สึกเลยว่าเธอถอดจิตไป คาดว่าเป็นความฝันแน่นอน!
ต้องเป็นเพราะวันนั้นเจ้าหอยยักษ์ทำให้เธอมองเห็นร่างเปลือยของตี้ฝูอี จึงทำให้เธอหลงเหลือเงามืดอยู่ในใจ ด้วยเหตุนี้ในฝันจึงวิ่งแจ้นไปดูผู้อื่นอาบนํ้าในสระน้ำพุร้อนแห่งนั้น!
ด้วยนิสัยของคนเช่นตี้ฝูอี เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเปลือยกายอาบน้ำ! ซ้ำยังมีแท่นดอกบัวที่ฉูดฉาดจัดจ้านเช่นนั้นอีก…
เธอซัดฝ่ามือใส่เจ้าหอยยักษ์ที่อยู่ข้างๆ ป้าบหนึ่ง “เจ้าสารเลว ล้วนเป็นความผิดของเจ้า!”
เจ้าหอยยักษ์ถูกรังแกโดยไม่มีเหตุผล มึนงงไปชั่วขณะ “หา?”
…………………….
ตี้ฝูอีที่อยู่ริมสระน้ำพุร้อนมองดูฉากในห้องโดยสารเหล่านั้น ตอนแรกเขายิ้มแย้มอารมณ์ดี กอดอกมองหนึ่งคนหนึ่งหอยตอบโต้กันไปมา แต่พอฟังไปเขาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง
สุดท้ายแล้วหลงซือเย่หานางพบจนได้หรือ? ซ้ำยังร่วมมือกับนาง ต่อสู้กับศัตรู?
ศพพิษ…
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?