บทที่ 517
ตบหน้า 1
นี่คือกฎเหล็กของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์และเป็นกฎเกณฑ์ของทวีปนี้ด้วย
บัดนี้ศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์สิ้นชีพถึงสองคนในคราวเดียว เช่นนั้นตัวการที่เป็นต้นเหตุก็สมควรถูกตัดหัวต่อหน้าสาธารณชน…
ทุกคนมองไปที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์
กู้ซีจิ่วก็มองท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ในใจมีหลากหลายอารมณ์
เธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ฆาตกร แต่กับดักนี้ของคู่ต่อสู้ไม่มีช่องโหว่ใดๆ เลย ทำให้เธออับจนหนทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนชั่วคราว ทำให้แม้แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็พลอยเสียหน้าไปด้วย…
เธอละอายต่อความเชื่อใจของเขา
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะผิดหวังในตัวเธอมากไหมนะ?
เธอกลั้นหายใจ รู้สึกอับอายเป็นครั้งแรกในชีวิต…
ทว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กลับคล้ายว่าจะไม่ใส่ใจ เขาถึงขั้นยังคงเดินหมากตาสุดท้ายอีกหลายก้าวให้จบ
ในห้องโถงที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงกระทบของตัวหมาก ราวกับเคาะลงบนหัวใจของฝูงชน
กู่ฉานโม่ก็กำลังพยายามคาดเดาความคิดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อนาทรศิษย์คนหนึ่งถึงเพียงนี้ ซ้ำเมื่อครู่ยังกล่าวเป็นจริงเป็นจังว่าเชื่อในตัวนาง ยามนี้ผลลัพธ์เป็นเช่นนี้เท่ากับตบหน้าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าฝูงชน ตอนนี้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่พูดไม่จา คงจะคิดหาบันไดลงอยู่กระมัง?
บางทีบันไดนี้อาจต้องเป็นตัวเขากู่ฉานโม่ออกหน้ามอบให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กระมัง…
ถึงแม้ในใจของกู่ฉานโม่จะไม่ยินยอม แต่เขาก็ปล่อยให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เสียหน้าที่นี่ไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปาก ทว่าผู้เขาเอ่ยด้วยกลับเป็นกู้ซีจิ่ว “กู้ซีจิ่ว บางที…เจ้าอาจไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้สังหารคนกลับเป็นความจริงที่มิอาจโต้แย้งได้! มันต้องถูกสังหาร ส่วนเจ้า…”
เขาเหลือบมองท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดเช่นเคย ความกล้าก็เพิ่มพูนขึ้นทันที “เจ้าไม่ดูแลสัตว์เลี้ยงให้เข้มงวด ซ้ำยังไม่ยอมรับเรื่องการสังหาร ไม่รู้จักสำนึกผิด ช่างน่าละอายต่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมั่นในตัวเจ้าจริงๆ! ทำให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ต้องพลอยเสื่อมเสียไปกับเจ้าด้วย คนอย่างเจ้าไม่คู่ควรจะอยู่ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ของพวกเรา ต่อให้เป็นศิษย์สังเกตการณ์นี้เจ้าก็ยังมีคุณสมบัติไม่พอเลย! แน่นอน เจ้าไม่มีคู่ควรจะเป็นศิษย์ของท่าน เทพศักดิ์สิทธิ์ด้วย หากเจ้ารู้ว่าอะไรควรมิควร ก็ลุกออกมาด้วยตัวเองเสีย ข้าผู้เป็นอาจารย์ใหญ่จะจัดการประชุมหารือเรื่องเจ้า เห็นแก่ที่เจ้ายังเยาว์วัย ข้าผู้เป็นอาจารย์ใหญ่จะมอบโอกาสให้เจ้ากลับตัวกลับใจเสีย ขอเพียงเจ้ายอมรับผิดในที่ประชุม ยอมลงนามในสัญญาว่าจะไม่มาเหยียบสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ตลอดกาล จากนั้นก็ยอมรับผิดต่อคนใต้หล้าด้วยตัวเอง กล่าวว่าไม่คู่ควรเป็นศิษย์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ นับแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่แสดงตัวว่าเป็นศิษย์ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อีก แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป…”
จากนั้นก็แอบมองท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อีกแวบหนึ่ง ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ราวกับไม่ได้ยิน มือยังวางหมากต่อไปไม่หยุด นี่คือเห็นด้วยกระมัง?
เขาเดาความคิดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกจริงๆ ด้วย!
ยามนี้กู่ฉานโม่ไม่เพียงมีความกล้าเพิ่มขึ้นเท่านั้น แม้แต่ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นด้วย “แน่นอน โทษตายของเจ้าละเว้นได้ แต่โทษเป็นยากจะละเว้น หลังจากผ่านเรื่องครั้งนี้ไป ข้าผู้เป็นอาจารย์ใหญ่จะทำลายวรยุทธ์เจ้า แล้วส่งเจ้ากลับจวนแม่ทัพกู้ เช่นนี้ต่อให้เจ้าสูญเสียวรยุทธ์แต่เป็นตายร้ายดีอย่างไรเจ้าก็ยังกลับไปเป็นคุณผู้ร่ำรวยได้ วันหน้าก็ออกเรือนให้กำเนิดบุตร นับว่าเป็นฉากจบที่ดี”
กู้ซีจิ่วตะลึง
กู่ฉานโม่ผู้นี้จะทำให้เธอหวนสู่จุดเริ่มต้นในชั่วข้ามคืนหรือ?!
หากผลลัพธ์เป็นแบบนี้จริงๆ เช่นนั้นตอนจบของเธอก็แย่กว่าจุดเริ่มต้นเสียอีก…
ตัวเธอในอดีตแบกไว้เพียงชื่อเสียงฉาวโฉ่ว่าเป็นสวะอัปลักษณ์ แต่หากว่าถูกส่งกลับไปเช่นนี้ คงจะตกต่ำเป็นที่น่าหัวเราะเยาะของใต้หล้า ชั่วชีวิตนี้ทำได้เพียงตกอับซุกอยู่ในซอกตามยถากรรม!
เธออดจะมองไปที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ กู่ฉานโม่มอบทางลงนี้ให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ หากยามนี้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ละทิ้งเธอ ก็จะสามารถปกป้องชื่อเสียงที่สั่งสมมาของเขาได้ แต่เธอกลับทำได้เพียงร่วงหล่นสู่ขุมนรก!
เขาจะทำยังไงกัน?
‘แกร๊ก!’ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์วางหมากตัวสุดท้ายลงไป จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองไปหางกู่ฉานโม่ “พูดจบหรือยัง?”
“ขอรับ ผู้น้อยรู้สึกว่านี้คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”