Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 52

บทที่ 52

หายตัวได้?

องครักษ์ส่วนตัวไม่กี่นายนี้ล้วนเป็นคนที่เขาไว้ใจ นอกจากจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศแล้ว ยังกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ทำงานได้รอบคอบ ทักษะในการสืบหาก็ยอดเยี่ยม

เมื่อพวกเขาคิดจะสืบหาผู้ใดแล้วแทบไม่มีทางที่จะหาไม่พบ ทว่ายามนี้พวกเขากลับหาคนไม่พบ หรือคนผู้นั้นจะถูกสังหารไปแล้ว? หรือจะถูกคนของหรงฉู่ลักพาตัวไปแล้ว?

“ฝั่งองค์ชายสี่มีความเคลื่อนไหวใดหรือไม่?” องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวถามด้วยเสียงต่ำ

“ทูลองค์รัชทายาท คนขององค์ชายสี่เองก็กำลังตามหาคุณชายผู้นั้นอยู่…”

องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวได้แต่นิ่งงัน

ในห้องรับรองอีกห้องหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาขององค์ชายหรงฉู่อึมครึมราวอยู่ในช่วงฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ เขาตบโต๊ะจนเกิดเสียงดังปัง ถ้วยชามรามไหที่อยู่บนโต๊ะได้รับแรงสะเทือนจึงกระเด็นขึ้นแล้วตกแตก

“เจ้าพวกไร้ประโยชน์! ทำไมถึงหาคนไม่พบ? ข้าสั่งแล้วไม่ใช่หรือว่าให้ปิดทางออกทุกทางของที่นี่?!”

เขาต้องการชิงหญ้าวิเศษมา ดังนั้นยามที่คนผู้นั้นเอ่ยปฏิเสธเขาจึงสั่งให้คนไปดักรอที่ปากทางเข้าออกทั้งหมดของหอประมูล เพียงอีกฝ่ายออกจากหอประมูล คนของเขาก็จะสะกดรอยตามทันทีเพื่อจับตัวหรือสังหารเสีย เขาคิดว่าวิธีนี้ไม่มีทางพลาดอย่างเด็ดขาด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ คนผู้นั้นจะหายไป!

หน้าผากขององครักษ์ที่รับผิดชอบเรื่องนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็นเฉียบ “เป็นกระหม่อมไร้ความสามารถ แต่กระหม่อมได้ปิดกั้นทางออกทั้งหมดไว้แล้วจริงๆ ต่อให้มีแมลงวันบินออกไปก็สามารถแยกได้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ในช่วงเวลานั้นไม่พบเห็นผู้ใดออกมาเลยสักคน ที่แปลกไปกว่านั้นคือสายลับของพวกเรายังได้แทรกซึมอยู่ในทางเดินทั้งหมดของชั้นสองนี้ เพียงคนผู้นั้นออกจากห้องรับรองก็จะสังเกตเห็นได้ทันที แต่สายลับไม่กี่คนนั้นบอกว่าไม่เห็นคนผู้นั้นออกมาจากห้องรับรองเลย คนผู้นั้นราวกับหายตัวไปจากห้องรับรองนั้น…”

องค์ชายหรงฉู่นิ่งงัน

หายตัวได้?

ที่จริงแล้วในโลกนี้ก็มีคนที่สามารถใช้วิชาประเภทนี้ แต่ต้องมีพลังวิญญาณขั้นที่เก้าขึ้นไปถึงจะสามารถเรียนรู้วิชานี้ได้บุคคลที่มีความสามารถเช่นนี้มีอยู่น้อยมากในทวีปนี้ แทบจะนับนิ้วได้เลย

ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทหรงเจียหลัวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งต้านพลังวิญญาณ ก็ยังอยู่ห่างไกลจากขั้นนั้นนัก คนผู้นั้นหน้าตาธรรมดาสามัญ รูปร่างเตี้ยม่อต้อ เจ้าสารเลวน้อยที่ดูแล้วคงอายุแค่สิบกว่าปีจะมีความสามารถเช่นนี้ได้อย่างไร?

เป็ดที่ถูกต้มจนสุกแล้วกลับบินหนีไป[2]ได้เช่นนี้องค์ชายหรงฉู่ดั่งถูกคนตบเข้าที่หน้าซํ้าๆ กันหลายครั้ง! จึงอารมณ์ไม่ดีเป็นพิเศษ

ในยามนี้เอง องครักษ์ที่เขาส่งไปสะกดรอยตามคุณชายน้อยผู้นั้นก็กลับมา และรายงานข่าวที่ทำให้เขาแทบจะกระอักเลือด คุณชายน้อยผู้นั้นก็หายไปแล้วเช่นกัน…

องค์ชายหรงฉู่โกรธเกรี้ยวยิ่งนัก! เขาจึงลงโทษบรรดาลูกน้องทั้งหลายที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ แล้วสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดไปตามล่าหาให้ทั่วทั้งเมือง จะต้องจับตัวเจ้าสารเลวสองคนนั้นที่กล้าหักหน้าเขาผู้เป็นถึงองค์ชายสี่มาให้ได้…

เนื่องจากองค์ชายหรงฉู่มีอำนาจล้นฟ้า นอกจากจะดูแลควบคุมกองทหารรักษาพระองค์แล้ว เขายังควบคุมหน่วยองครักษ์ที่เมื่อพูดถึงแล้วทำให้คนทั้งอาณาจักรเฟยซิงหน้าเปลี่ยนสีได้…ค่ายนิลกาฬ

ลักษณะของหน่วยนี้เทียบได้กับหน่วยบูรพาและหน่วยประจิม[3]อันฉาวโฉ่ในยุคราชวงศ์หมิง คนของหน่วยนี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือที่มีวิธีจับกุมได้รวดเร็วและวิปริตยิ่ง เป็นเลิศด้านการทรมาณคน ทักษะการสืบหาก็ยอดเยี่ยม ทุกคนที่ถูกพวกเขาจับตามองไม่มีทางจะหลบหนีไปได้

องครักษ์ส่วนตัวขององค์ชายหรงฉู่ก็มีความสามารถไม่น้อย ในหมู่พวกเขามีคนที่ชำนาญการวาดภาพบุคคล จึงวาดภาพเหมือนของกู้ซีจิ่วและคุณชายผู้นั้น แล้วส่งไปให้คนในค่ายนิลกาฬ แทบทุกคนล้วนมีอยู่หนึ่งแผ่น องค์ชายหรงฉู่ยังถ่ายทอดคำสั่งลงไปด้วย องครักษ์นิลกาฬจำนวนมากจึงออกปฏิบัติการ เริ่มตามล่าหาจนทั่วทั้งเมือง…

……………………..

[1]เส้นลมปราณพิเศษทั้งแปด แตกต่างจากเส้นปราณอื่นตรงที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับอวัยวะภายในเลย และเชื่อกันว่าเป็นเส้นลมปราณที่ใช้โคจรพลังเพื่อฝึกฝนวรยุทธ์

[2]เป็ดที่ถูกต้มจนสุกแล้วกลับบินหนีไป เป็นการอุปมา ถึงสิ่งที่คิดว่าอยู่ในกำมือตนแล้วแน่ๆ ทว่ากลับหลุดลอยไปโดยไม่คาดคิด

[3]หน่วยบูรพาและหน่วยประจิม เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นในยุคราชวงศ์หมิงตอนปลาย(1368-1644) ควบคุมโดยเหล่าขันที และเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version