Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 536

บทที่ 536

ความโปรดปรานของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ 6

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองเข้าไปด้านในแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเรียบเฉย “สำนึกวิญญาณนางกระจัดกระจาย ความทรงจำย่อมหายไป…แต่เปิ่นจุนมีวิธีอื่นที่จะซ่อมแซมดวงวิญญาณนางให้สมบูรณ์ รอหลังจากซ่อมแซมจนสมบูรณ์แล้วเปิ่นจุนจะไต่สวนอีกที่” พลางโยนนํ้าเต้าลูกนั้นให้ทูตส่างซั่นที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าเก็บไว้ก่อน”

ทูตส่างซั่นตอบรับ รีบเก็บไว้อย่างดี

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองไปที่องค์ชายหรงเช่ออีกครา “เจ้าคือองค์ชายแปดหรงเช่อแห่งอาณาจักรเฟยซิงสินะ?”

องค์ชายหรงเช่อค้อมกายตอบ “ใช่ขอรับ”

“เพรียกวายุตัวนั้นเจ้าเป็นผู้นำมาส่งหรือ?”

“ขอรับ”

“เพรียกวายุเป็นสัตว์ร้ายขั้นห้า หยิ่งผยองไม่เชื่อง นอกเหนือจากเจ้าของแล้ว จะไม่ยินยอมให้ใครหน้าไหนขี่ เจ้านำมาส่งได้อย่างไร?”

องค์ชายหรงเช่อยิ้มขื่น “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ปราดเปรื่องยิ่ง เพรียกวายุตัวนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ ขอรับ ไม่ยอมรับข้าน้อย ข้าน้อยลำบากเหลือแสนกว่าจะหลอกล่อหว่านล้อมมันมาได้ ยังดีที่มันเข้าใจภาษามนุษย์ ข้าน้อยพูดกับมันจนปากเปียกปากแฉะ มันถึงยอมฟังคำข้าน้อยอย่างเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง มันยอมติดตามข้าน้อย แต่มิยอมให้ควบขี่ ดังนั้นข้าน้อยจึงขี่สัตว์พาหนะตัวอื่น แล้วให้มันตามหลังมาขอรับ”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองไปทางเพรียกวายุตัวนั้น เพรียกวายุถอยไปด้านหลังสองก้าวอย่างระแวดระวัง ทว่าผงกศีรษะ แสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำพูดทั้งหมดขององค์ชายหรงเช่อ

หัวใจกู้ซีจิ่วสั่นไหวแวบหนึ่ง ในความฝันเธอฝันว่าองค์ชายหรงเช่อ ขี่เพรียกวายุมา ดูท่านั่นจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริง

“คืนนั้นที่เกิดเรื่อง เจ้าอยู่ที่ไหน?”

“เรียนท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ วันนั้นข้าน้อยมาถึงค่ำเกินไป กลับไปทันทีมิได้ จึงแจ้งให้อาจารย์ใหญ่กู่ทราบ แล้วไปพักอาศัยกับเยี่ยนเฉิน เยี่ยนเฉินสามารถเป็นพยานให้ข้าน้อยได้ขอรับ”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองเด็กหนุ่มเย็นชาผู้นั้น เด็กหนุ่มคนนั้นค้อมกายกล่าวยืนยัน “เป็นเช่นนี้จริงๆ ขอรับ องค์ชายแปดกับเยี่ยนเฉิน เป็นสหายกัน แตกฉานด้านศาสตร์การชงชา คืนนั้นศิษย์และเขา เสวนาเรื่องชาแดงกันทั้งคืนขอรับ”

กู่ฉานโม่เอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ คนร้ายตัวจริงมิใช่ว่าหาตัวพบแล้วหรอกหรือ?”

แล้วทำไมยังไต่สวนองค์ชายแปดผู้นี้อีก?

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่สนใจเขา ถามออกไปประโยคหนึ่ง “เช่นนั้นพบอาวุธสังหารหรือยัง?”

กู่ฉานโม่ชะงักทันที ส่ายศีรษะ “ไม่พบขอรับ รื้อค้นที่พักของเขาแล้วก็หาไม่พบ ฉานโม่สงสัยว่าอาวุธสังหารชิ้นนั้นจะถูกทำลายทิ้งแล้วขอรับ”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์พยักหน้านิดๆ สายตามองไปที่องค์ชายหรงเช่อ จู่ๆ ก็ชี้นิ้วออกมา ลำแสงสีรุ้งผุดออกมาจากปลายนิ้ว พุ่งตรงไปที่หว่างคิ้วขององค์ชายหรงเช่อ!

ฝูงชนตกตะลึง องค์ชายหรงเช่อก็ตะลึง เขาคิดจะหลบตามสัญชาตญาณ แต่การเคลื่อนไหวของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์รวดเร็วยิ่ง เขาไม่มีทางหลบพ้น ลำแสงสีรุ้งสายนั้นซึมเข้าสู่หว่างคิ้วเขา…

ร่างกายองค์ชายหรงเช่อแข็งทื่อ แน่นิ่งไป

กู้ซีจิ่วก็ตกตะลึง องค์ชายหรงเช่อเป็นเพื่อนของเธอ เธอย่อมไม่อยากให้เขาเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันใดๆ เมื่อเห็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ลงมือกับเขากะทันหัน ปฏิกิริยาแรกของเธอคือคิดจะขัดขวาง ขณะที่กำลังจะยกมือขึ้น พอได้เห็นท่าทางขององค์ชายหรงเช่อในยามนี้ เธอก็หยุดการเคลื่อนไหวทันที

สีหน้าองค์ชายหรงเช่อเป็นปกติ ตัวคนคล้ายจมจ่อมอยู่ในห้วงฝัน แววตาค่อนข้างเหม่อลอย เริ่มพูดเองเออเอง ดูเหมือนจะสนทนาเรื่องการชงชากับผู้ใดอยู่…

ฝานไปครู่หนึ่ง ลำแสงสีรุ้งที่ปลายนิ้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์สลายไป องค์ชายหรงเช่อราวกับตื่นจากห้วงฝันอันยิ่งใหญ่ ลืมตามองท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยความงุนงง จากนั้นก็มองดูฝูงชน

“พี่หรง ท่านเป็นยังไงบ้าง?” เยี่ยนเฉินที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาอดจะเอ่ยถามไม่ได้

“ไม่เป็นไร เมื่อครู่นี้ราวกับฝันไป ซ้ำยังฝันถึงคืนนั้นที่พวกเราสนทนาเรื่องการชงชาด้วยกัน…” องค์ชายหรงเช่อยิ้มขื่น แล้วขออภัยต่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไต่ถามอยู่ ข้าน้อยกลับผล็อยหลับ เสียมารยาทโดยแท้ ขอท่านเทพศักดิ์โปรดลงทัณฑ์”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา “เป็นเปิ่นจุนเรียกดูความทรงจำในคืนนั้นของเจ้า มิใช่การผล็อยหลับ เจ้าไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง”

เขาเรียกดูความทรงจำของหรงเช่อ เป็นอย่างที่บอกกล่าวกับเขาทุกประการ คืนนั้นเขาสนทนาเรื่องการชงชากับเยี่ยนเฉินทั้งคืนจริงๆ ไม่ได้ออกไปไหน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version