Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 596

บทที่ 596 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกรังเกียจ 4

เธอมองเห็นแม้กระทั่งรองเท้านุ่มๆ ทั้งหมดที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์สวมวางอยู่บนตั่งเล็กใต้เตียง

ในเตียงต้องทำความสะอาดด้วยไหม?

ว่ากันตามเหตุผลแล้วสถานที่ส่วนตัวเช่นนี้เธอไม่ควรจะมอง

เธอลังเลเล็กน้อย ทว่ายังคงตัดสินใจทำความสะอาด อย่างไรเสียท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ก็จู้จี้ยิ่งนัก อีกทั้งรักสะอาดถึงเพียงนั้นทำ

ความสะอาดเรือนเขาทั้งทีก็ไม่ควรเหลือจุดบอดอะไรไว้ จึงยื่นมือไปเลิกม่านเตียงที่ลื่นไหลดุจสายน้ำขึ้น เธอมองดูลักษณะ

ด้านใน จากนั้นก็ผงะเล็กน้อย หัวใจเต้นรัว!

สิ่งที่เข้าสู่สายตาคือสีม่วงทั้งแถบ

ผ้านวมสีม่วง หมอนสีม่วง ผู้ที่อยู่ด้านในราวกับทำรังอยู่ในเมฆาม่วงกลุ่มหนึ่งที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางเขาเขียวธารใส

ผ้านวมพับซ้อนกันเป็นระเบียบยิ่งนัก กู้ซีจิ่วยืนตะลึงอยู่ข้างเตียงชั่วขณะ

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ชอบสีม่วงหรือ?

ในความทรงจำของเธอผู้ที่ชมชอบสีม่วงเป็นที่สุดคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี ทว่ายามนี้กลับได้เห็นสีม่วงในสถานที่ของท่านเทพ

ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน…

แน่นอนว่าสีม่วงทั้งสองชนิดไม่เหมือนกัน ยังคงมีความแตกต่างด้านเฉดสี

ของตี้ฝูอีเป็นสีม่วงเข้ม แต่ของที่นี่เป็นสีม่วงอ่อน ราวกับกลุ่มเมฆที่ผสมผสานสีม่วง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งล่องลอย

บังเอิญหรือ?

เธอมองเข้าไปด้านในอีกแวบหนึ่ง มองเห็นว่าบนผ้านวมที่เป็นระเบียบวางหนังสือเล่มหนึ่งไว้

หนังสือเล่มไม่หนา บางประมาณห้าหกสิบหน้าเท่านั้นบนปกเขียนอักษรขนาดใหญ่ไว้สี่ตัว ‘วิเคราะห์เหินหาว’

กู้ซีจิ่วตกตะลึง

ตำราเล่มใหญ่ที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มอบให้เธอชื่อว่า ‘เคล็ดเหินหาว’

บทวิเคราะห์เล่มนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการถอดความของตำราเล่มนั้น!

เธอหยิบขึ้นมาอ่านดู อ่านได้เพียงหน้าเดียวเธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ!

ตอนเธออ่านเคล็ดเหินหาวเล่มนั้นมีมากมายหลายจุดที่ไม่เข้าใจ

แต่พออ่านบทวิเคราะห์เล่มนี้จุดที่ไม่เข้าใจเหล่านั้นพลันคลี่คลายได้ในชั่วพริบตา

ถ้าหากเธอเห็นตาราเล่มนี้ก่อนก็คงดี!

ไม่รู้ว่าตอนนี้จะทันไหม…

เอาเถิด เตรียมการเมื่อจวนตัวดีกว่าไม่เตรียมอะไรเลย!

เธออ่านให้มากเท่าที่จะมากได้ก่อนแล้วกัน ไม่แน่หลายหน้าที่ท่านเทพ

ศักดิ์สิทธิ์จะทดสอบอาจตรงกับที่เธอเพิ่งอ่านไปพอดี…

เธอหัวดี อ่านหนังสือก็ไว นั่งอยู่ตรงนั้นครู่เดียวก็อ่านได้สี่ห้าหน้าแล้ว…

เพียงแต่ถึงอย่างไรเคล็ดวิชาแขนงนี้ก็ล้ำลึกมาก ต่อให้มีบทวิเคราะห์เธอก็ต้องใคร่ครวญเล็กน้อยถึงจะเข้าใจ

เธอจมดิ่งอยู่กับการอ่าน เมื่อเห็นจุดที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ปากก็บ่นพึมพำออกมา “หทัยทั้งห้าล้วนว่างเปล่าหมายความว่ายังไง?”

“ฝ่ามือทั้งสอง ฝ่าเท้าทั้งสอง หัวใจ คือหทัยทั้งห้า” จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือศีรษะเธอ

กู้ซีจิ่วสะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้นทันที มองเห็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่ข้างเตียง กำลังมองลงมายังเธอที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียง อยู่ห่างจากเธอไม่ถึงครึ่งฉือ…

“เอ่อ…” ในใจเธอตื่นตระหนก หลบไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ

ทว่ารีบร้อนหลบเกินไป เธอจึงหงายหลังลงไปทันที!

นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงผ้าม่านบนเตียงที่ถูกเท้าทั้งสองของเธอเกี่ยวเข้ามาด้วย ห้อยย้อยลงมาเป็นสาย…

ยามที่ม่านเตียงนั้นย้อยลงมาได้คลุมลงไปบนร่างท่านเทพศักดิ์สิทธิ์พอดี ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์โบกมือแวบเดียว ม่านเตียงก็

ระเห็จไปกองอยู่ด้านหลังเขา

กู้ซีจิ่วนอนอยู่บนเตียง ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่ด้านล่างเตียง ทว่าทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันอยู่ภายในม่านมุ้ง

แถมกริยาท่าทางของคนทั้งสองก็คลุมเครือยิ่งนัก กู้ซีจิ่วเอนตะแคงอยู่ตรงนั้นขาน้อยๆ ทั้งสองยังห้อยอยู่บนขอบเตียง และท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็บังเอิญยืนอยู่ตรงหว่างขาของเธอพอดี…

“นี่เจ้า…คิดจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อติดสินบนเปิ่นจุนหรือ?” ดวงตาภายใต้หน้ากากของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หยีโค้งเล็กน้อย ดังแสง

จันทร์แผ่วบางที่สาดส่องสระลึก

ใบหน้ากู้ซีจิ่วแดงก่ำ

เธอคิดจะถอยไปอย่างว่องไว แต่ท่าทางในยามนี้ทำให้ใช้เรี่ยวแรงไม่ได้ชั่วขณะ ทำได้เพียงพยายามกระเสือก

กระสนร่างไปอย่างสุดกำลัง ผลคือกระเสือกกระสนไปได้ไม่เท่าไหร่ ขาทั้งสองกลับเกี่ยวอยู่ที่เอวท่านเทพศักดิ์สิทธิ์์…

ด้วยความตกใจเธอจึงรีบร้อนแยกขาออกทันที ผลคือ…ท่าทางนี้ยิ่งทำให้เธอขายหน้ากว่าเดิม!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version