บทที่ 595 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกรังเกียจ 3
แม้แต่ทัศนะคติที่มีต่อหลงซีก็ดีขึ้นมากเช่นกัน เมื่อนึกถึงตอนที่ถูกหักหลังครานั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดดั่งไฟสุมทรวงปานนั้นอีกแล้ว รู้สึกกระทั่งว่าเมื่อก่อนที่หลงซีทำแบบนั้นก็มีเหตุผลอยู่บ้าง
หลงซีเป็นคู่หมั้นของเย่หงเฟิง พวกเขาเป็นคู่ที่ถูกต้องชอบธรรม
ดังนั้นการที่เขาวางแผนต่อมนุษย์โคลนนิ่งคนหนึ่งเพราะความรักล้ำลึกที่มีต่อคู่หมั้นก็พอจะฟังขึ้นอยู่…
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ตนเองเริ่มมองภาพรวมให้ลึกขึ้น หรือว่าในร่างเธอจะมีแม่พระแฝงเร้นอยู่กันนะ?
เธอส่ายศีรษะ ไม่ขบคิดปัญหาข้อนี้อีกต่อไป
จะว่าไป หลงซือเย่ไปส่งองค์ชายหรงเช่อตั้งหลายวันแล้ว ยังไม่เห็นกลับมาเลย หรือเขาจะพาองค์ชายหรงเช่อไปส่งถึงอาณาจักรเฟยซิงเลย?
บางทีข้อนี้อาจเป็นไปได้ อย่างไรเสียยามนั้นองค์ชายหรงเช่อก็บาดเจ็บจนเคลื่อนไหวไม่ได้ ต่อให้ใช้รถม้าส่งคนกลับไปก็อันตรายอยู่ดี ถึงอย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย ไม่อาจโยนใส่รถม้าคันหนึ่งแล้วปล่อยใช้ชีวิตตามยถากรรมได้…
ส่วนการสอนของหลงซือเย่ที่ด้านนี้ได้ยินว่าจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งเดือนให้หลัง เขาไปกลับเช่นนี้ก็ไม่ได้ทำให้ล่าช้าอะไร
เธอทำความสะอาดพลางคิดเรื่อยเปื่อยไปด้วย
พอทำความสะเรือนด้านนอกเสร็จก็ไปทำความสะอาดเรือนด้านใน
เรือนด้านในย่อมเป็นที่พำนักของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์
ที่นี่กู้ซีจิ่วเพิ่งเคยเข้ามาเป็นครั้งแรก
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มีฐานะสูงส่งเสมอมา ดั่งทวยเทพที่ล่องลอยเหนือเมฆา
ดังนั้นในภาพจำของเธอ ที่พำนักของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์น่าจะสะอาดหมดจดประหนึ่งถ้ำหิมะ เฉกเช่นกุฏิของสมณะชั้นสูง
เหล่านั้น กลางห้องมีเพียงเบาะหญ้าสานอันหนึ่ง รอบข้างอย่างมากก็แขวนภาพอักษรเชิงคติธรรมประเภท ‘ตะวันลาลับฉางซานไกลโพ้น’ ไว้บ้าง
แต่เมื่อผลักประตูเข้าไป กลับพบว่าที่พำนักของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แตกต่างจากจินตนาการของเธอมาก
ฉากกั้นลมปานเมฆหมอก พื้นหยกขาว โต๊ะเก้าอี้ลายม่วงอ่อน แม้กระทั่งบนพื้นริมหน้าต่างก็มีกระถางดอกไม้ใบหนึ่งวางอยู่ ใน
กระถางมีก้อนหินที่ดูคล้ายหยกม่วงอยู่หลายก้อน และในซอกหินมีช่อบุปผาหลายดอกผลิบานอยู่ เบ่งบานพลิ้วไหว สีสันเย้ายวน กลิ่นดอกไม้หอมจางอบอวลอยู่ในอากาศ ดมแล้วทำให้คนรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย สบายยิ่งนัก
กู้ซีจิ่วมองดอกไม้หลายดอกนั้นพบว่า…ไม่รู้จักเลย
เมื่อถามหยกนภา หยกนภาผู้รอบรู้จึงแถลงให้ทราบ ‘นี่คือหยกเสาวคนธ์ ท่านดูใบของมันสิเหมือนหยกม่วงใช่หรือไม่? ดอกไม้นี้้
มองเผินๆ เหมือนงอกออกมาจากหยก ดอกไม้นี้มีสรรพคุณช่วยรวบรวมไอวิญญาณ สถานที่ที่มีดอกไม้นี้อยู่ ล้วนมีไอวิญญาณ
หนาแน่นยิ่ง ท่านสัมผัสได้หรือไม่ว่าไอวิญญาณในห้องนี้เปี่ยมล้นกว่าที่อื่น?’
กู้ซีจิ่วพยักหน้า ดวงตาเปล่งประกายเอ่ยถามหยกนภาว่า ‘ในเมื่อดอกไม้นี้มีความสามารถเช่นนี้ เช่นนั้นภายหน้าพวกเราก็หาวิธี
เก็บไปไว้ในเรือนตนหลายๆ ต้นเถิด!’
หยกนภาเหยียดหยามเธอ “ท่านคิดว่าหยกเสาวคนธ์นี้เป็นผักกาดขาวหัวใหญ่ในสวนหลังบ้านของท่านหรือ? นึกจะเก็บก็เก็บ
ได้เลย มันเป็นดอกไม้หายากชนิดหนึ่ง เติบโตแค่ใน…”
มันอธิบายความรู้ เกี่ยวกับดอกไม้ชนิดนี้ให้เธอทราบ กู้ซีจิ่วฟังอยู่นานก็สรุปออกมาได้ประโยคหนึ่ง
ดอกไม้นี้เติบโตอย่างชั่วร้าย เก็บได้ยากยิ่ง มิใช่สิ่งที่คนมีพลังวิญญาณเพียงขั้นห้าอย่างเธอจะฝันเฟื่องได้
ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงหยุดความคิดเรื่องดอกไม้นี้ชั่วคราว เพียงแค่สูดอากาศรอบๆ ดอกไม้ให้มากขึ้นหน่อยอย่างเอาจริงเอาจังแน่นอน เพื่อจะใกล้ชิดดอกไม้นี้ให้มากขึ้น เธอเลยเช็ดถูกระถางดอกไม้นั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ เช็ดจนมันแทบจะสะท้อนเงาคนได้เหมือนกระจกแล้ว
หยกนภาถึงกับพูดไม่ออก
ในที่สุดก็ทำความสะอาดมาถึงข้างเตียงแล้ว เตียงหลังใหญ่มีผ้าม่านห้อยลู่ลงมา ม่านมุ้งประหนึ่งภาพวาดน้ำหมึกขุนเขาสาย
ธารห้อยอยู่ตรงนั้นปานนภาแดนสวรรค์
กู้ซีจิ่วรู้สึกเสมอว่าบุคคลเช่นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์น่าจะไม่นอนหลับพักผ่อนแล้ว เขาน่าจะนั่งสมาธิจำศีลเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า
ดังนั้นเมื่อเธอเห็นที่นอนหมอนมุ้งของเขาจึงรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ที่แท้ท่านเทพผู้สูงส่งถึงเพียงนั้นก็ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องทางโลก
———————————————————–
[1] เป็นเรื่องราวในนวนิยายเรื่องมังกรหยก บทประพันธของกิมย้ง